ฟางข้าวอาบน้ำชำระร่างกายเสร็จแล้ว ตอนนี้เธออยู่ในชุดนอนเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว เธอแต่งตัวเสร็จในห้องน้ำโดยที่ยังไม่ออกไปข้างนอก หญิงสาวยืนมองตัวผ่านกระจกห้องน้ำอยู่หลายนาที ใบหน้าของเธอไร้การแต่งแต้มจากเครื่องสำอางแล้ว หัวคิ้วทั้งสองข้างขมวดเล็กน้อย ฟางข้าวไม่สบายใจและเธอไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไร อย่างที่เห็น...ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากซะจนเธอยังไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วเหมันต์ต้องการอะไรจากครอบครัวเธอกันแน่ จะบอกว่าเขารักเธออย่างนั้นเลย ไม่มีทาง แม้ว่าที่ผ่านมาเขาจะดีกับเธอแต่ฟางข้าวก็ไม่เคยรู้สึกแม้แต่วินาทีเดียวว่าเหมันต์รักเธอ ไม่มีเลย
แต่ทุกอย่างมันก็ดำเนินมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอพร่ำบอกกับตัวเองว่าต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เธอมีเวลาไม่มากที่จะต้องล้วงความลับสำคัญนั้น ยังไงฟางข้าวก็ต้องทำมันให้ได้ก่อนที่เหมันต์จะรู้ความจริง ร่างเล็กสูดลมหายใจเข้าปอดหนักๆ เพื่อเรียกกำลังใจให้ตัวเอง แม้ว่าตอนนี้จะรู้สึกโดดเดี่ยวและหวาดกลัวมากแค่ไหนก็ตาม
หญิงสาวหมุนตัวให้กระจกและเปิดประตูห้องน้ำออก เธอเดินออกมาสิ่งแรกที่เห็นก็คือร่างกำยำนั่งอยู่บนโซฟาและบนโต๊ะตรงหน้าก็เป็นขวดไวน์ราคาแพงที่เขาพึ่งเปิดมันสดๆ ร้อนๆ มือหนาจับขวดไวน์และรินใส่แก้วสองใบที่ตั้งอยู่ข้างกัน ฟางข้าวมองเขาด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเดินไปหาอีกฝ่าย
“ข้าวง่วงมาก ถ้าอย่างนั้นข้าวขอไปนอนก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิครับ ผมอุตส่าห์รินไวน์ให้คุณ”
เหมันต์ยกแก้วไวน์ขึ้นเล็กน้อยและเงยหน้ามองเธอ เขานั่งไขว่ห้างด้วยท่วงท่าสบายๆ เช่นเดียวกับใบหน้าที่ไม่มีความกังวลใดๆ ออกจะไปทางสนุกสนานด้วยซ้ำ
“ข้าวดื่มไม่ไหวแล้วค่ะ ไว้วันอื่นได้ไหมคะ”
“อะไรกันครับ นี่เป็นคืนแต่งงานของเรานะ”
“...”
“ก็ได้ครับ ผมไม่บังคับคุณก็ได้”
เหมันต์เอ่ยขึ้น เขาวางแก้วไวน์ลงบนโต๊ะอย่างยอมแพ้ ก่อนที่ร่างสูงจะลุกขึ้นจากโซฟาและไปหยุดตรงหน้าเธอ ฟางข้าวเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาไม่เข้าใจ ก่อนเธอจะเบิกตากว้างและหลุดเสียงร้องออกมาเมื่ออีกฝ่ายช้อนร่างของเธอขึ้นอุ้มในท่าเจ้าสาว
แขนเรียวเผลอยกขึ้นโอบรอบลำคอของเขา ฟางข้าวเห็นเหมันต์กระตุกยิ้มครู่หนึ่งก่อนเขาจะอุ้มเธอไปที่เตียงนอน
“ค...คุณเหมันต์ ข้าวเดินเองได้ค่ะ”
“...”
เขาไม่ตอบอะไรจนกระทั่งถึงเตียงนอนขนาดใหญ่ที่เหมันต์ใช้นอนทุกคืน จะว่าไปไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนเคยขึ้นเตียงของเขา เพราะปกติแล้ว ถ้าเมื่อไรที่เขาวันไนท์สแตนกับใครก็ไปจบที่โรงแรมหรือไม่ก็คอนโดฯ ของฝ่ายหญิงเสมอ นับว่าฟางข้าวคือคนแรกที่ได้ขึ้นมาบนนี้
แต่มันก็ไม่ได้พิเศษอะไร เหมันต์จะถือว่าเป็นกรณีจำเป็น
พรึบ
เขาค่อยๆ วางเธอลงบนเตียงนอนอย่างแผ่วเบาในขณะที่นัยน์ตาคู่คมก็สบตากับดวงตากลมโตไปด้วย ฟางข้าวรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองร้อนเผ่าขึ้นมาดื้อๆ เธอถูกวางลงบนเตียงกว้างแล้ว หญิงสาวทำท่าจะยันตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งทว่าเหมันต์ไม่ผละออกไปไหน
เขายังคงกักร่างกายของฟางข้าวเอาไว้ ในท่าที่เธอกึ่งนั่งกึ่งนอน
“คุณเหมันต์—”
“ผมรอคืนนี้ของเรา”
“...”
หญิงสาวหลุบสายตามองต่ำ เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องเพราะใบหน้าหล่อร้ายที่โน้มเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จนปลายจมูกของเราแตะกัน ร่างกายของฟางข้าวก็ค่อยๆ เอนไปข้างหลังจนในที่สุดเธอก็นอนราบลงไปกับเตียงจนได้
สองมือเล็กยกขึ้นยันแผงอกแกร่งของเขาทันที เธอกลอกสายตาไปมาเพราะทำตัวไม่ถูก
“คือข้าว...”
“เราเป็นสามีภรรยากันแล้วนะครับ”
“...”
“ผมต้องการคุณนะ”
หัวใจดวงน้อยเต้นระรัวเมื่อสุ้มเสียงแหบพร่าของเขาเอ่ยข้างใบหู เธอช้อนสายตาสบตากับเขา ก็เห็นแววตาเป็นประกายของชายหนุ่มที่มองกลับมา เธอพยายามจ้องลึกเพื่อหาความหมายของแววตาคู่นั้น ในบางครั้งก็แสดงว่าจริงใจ แต่ในบางครั้งมันก็ราบเรียบซะจนฟางข้าวไม่มั่นใจอะไรเลย เธอหายใจติดขัด สองมือเล็กกำเสื้อของเหมันต์เพราะริมฝีปากของเขาโน้มลงมาแนบบนริมฝีปากของเธอ
มันแผ่วเบา...นุ่มนวล จนฟางข้าวเผลอหลับตาลงอย่างเชื่องช้า
เหมันต์ทาบริมฝีปากแช่ไว้แบบนั้นโดยไม่ลุกล้ำ ก่อนเขาจะผละออกมาและสบตากับเธออีกหน
“เป็นของผมนะครับ”
และคำพูดของเขาทำให้เธอกลั้นลมหายใจตัวเอง ในขณะที่หน้าอกข้างซ้ายก็เต้นไม่เป็นจังหวะ มันเต้นดังตึกตักจนเจ้าตัวรู้สึกว่าอาการแปลกๆ ได้เข้าครอบงำเพียงแค่ได้รับคำพูดหวานๆ จากริมฝีปากของเหมันต์ เธอยอมรับว่าชอบเขา...ทั้งที่มันไม่ควรเลยสักนิด อีกฝ่ายแสนดี เขาทำดีกับฟางข้าวทุกอย่างจนกระทั่งในวันที่เราสองคนแต่งงานกัน ทั้งที่จุดประสงค์ของเธอนั้นไม่ได้หวังดีตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอ แววตาสั่นระริกจ้องลึกเข้าไปในแววตาคู่คม
เหมันต์กำลังมองมาด้วยสายตาจริงใจ มั่นคง และทำให้ฟางข้าวรู้สึกได้ว่าเขากำลังจริงจังกับเธอจริงๆ
“ข้าว...”
“ถ้าคุณไม่พร้อมก็ไม่เป็นไรนะครับ ผมไม่บังคับ”
ทว่าน้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยออกมาพร้อมกับใบหน้าผิดหวัง ฟางข้าวกระพริบตาถี่ๆ และกลอกกลิ้งไปมา พลางนึกถึงสิ่งตอบแทนที่เหมันต์ให้เธอและครอบครัวในวันนี้ ทั้งความดี ความเอาใจใส่ตลอดที่เราสองคนคบกัน และเงินทองอีกมากมายที่เขามอบให้ทั้งที่มากกว่าข้อตกลงด้วยซ้ำ แต่ในความจริงแล้วเธอและครอบครัวต่างหากที่เป็นฝ่ายเข้าไปหลอกเขา ประสงค์ร้ายกับเขา เพราะถ้าหากฟางข้าวทำงานนี้สำเร็จ ถ้าเธอสามารถล้วงความลับรายชื่อคู่ค้ารายใหญ่เอาไปให้คุณคนนั้นได้ แน่นอนว่าความเสียหายที่เหมันต์จะได้รับ แทบตีเป็นตัวเงินไม่ได้ด้วยซ้ำ
เพราะมันคงจะมหาศาลมาก จนฟางข้าวไม่อยากคิดเลยว่าถึงตอนนั้นเขาจะเป็นอย่างไร
คงเป็นเหตุผลที่เอามารอบรับได้แย่แต่ทว่าเธอก็ตัดสินใจแล้ว หญิงสาวที่มีศักดิ์เป็นภรรยาในตอนนี้ตอบตกลงที่จะมีอะไรกับสามี มันก็คงไม่ใช่เรื่องแย่อะไร...
“ข้าวพร้อมค่ะ”
ราวกับทำตามเสียงหัวใจของตัวเอง...และคำตอบของเธอทำให้ร่างกำยำที่อยู่ด้านบนมีรอยยิ้มขึ้นมา
แม้ว่าจะมีเสียงหัวเราะร่าอย่างสะใจจะอยู่ข้างในก็ตาม
“อ่ะ...คุณเหมันต์ ข้าว—”
“หืม ทำไมครับ”
ปากหยักที่ครอบบนหัวจุกสีชมพูเงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อย ฟางข้าวที่มีสีหน้าเหยเกเพราะความเสียวกระสันกัดปากตัวเองแน่น ในตอนนี้บนร่างกายของเธอไม่เหลือเสื้อผ้าอยู่เลยแม้แต่ชิ้นเดียว เขาจัดการทุกอย่างโดยที่ฟางข้าวแทบไม่ต้องขยับเขยื้อนตัวด้วยซ้ำ เธอแค่นอนนิ่งๆ ปล่อยให้อีกคนทำตามใจตัวเองและเขาก็ได้ละเลงร่างกายขาวนวลทุกสัดส่วนแค่ยังไม่ได้สอดใส่ของตัวเองเข้ามา เสียงลมหายใจของหญิงสาวถี่รวนเพราะความกระสันทั้งส่วนบนและส่วนล่าง เพราะเหมันต์ได้ทำให้เธอถึงจุดสุดยอดไปสองครั้งด้วยนิ้วของเขา และตอนนี้อีกฝ่ายก็กำลังดูดดุนยอดชูชันสองเต้าจนมันฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำลาย และน้ำรักใสที่เปรอะเปื้อนกระจายอยู่ตรงหว่างขาจนสองขาเรียวสั่นเทาคิดว่าถ้าต้องยืนตอนนี้ เธอคงล้มแน่ๆ
“เสียวมากเหรอครับ?”
“ค...ค่ะ อ๊าส์...”
เหมันต์พูดจบ เขาก็ครอบริมฝีปากตัวเองดูดกัดหัวนมชมพูเต่งอีกครั้ง ก่อนจะสอดสองนิ้วเข้าไปในช่องทางรักอย่างชำนาญ เขาเกร็งแขนทั้งข้างและกระหน่ำกระแทกนิ้วมือของตัวเองเข้าออกช่องทางฉ่ำเยิ้มไม่กี่ครั้งฟางข้าวก็กระตุกตัวเสร็จไปอีกรอบ เหมันต์ชักมือออกมาและมองฝ่ามือของตัวเองที่เปรอะไปด้วยน้ำรักของหญิงสาว เขายกยิ้มและส่งนิ้วไปขยี้จุดกระสันตรงเม็ดติ่ง ในจังหวะนั้นทำให้ฟางข้าวร้องครางออกมาอีกหนก่อนเธอจะเอามือดันมือของเหมันต์ออก ใบหน้าสวยแดงซ่านไปหมด
เหมันต์เห็นแบบนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบปากกับเธอ หญิงสาวตอบรับการจูบเป็นอย่างดี เขาใช้มือขวาชักรูดแก่นกายของตัวเองแต่มันก็แข็งมาสักพักแล้ว มือหนาลูบไล้หัวเห็ดและลากยาวลงไปจนสุด เส้นเอ็นปูดโปดขึ้นทั้งลำ ก่อนเขาจะจับหัวบานของมันจ่อตรงปากทางเข้าที่นอนอ้าขารับ เหมันต์แกล้งเอาปลายหยักถูกับเม็ดติ่งเสียวของเธออีกหน
“อ๊ะ...อึก ข้าวไม่ไหวแล้วนะคะ”
“อยากให้เอาเข้าแล้วเหรอครับ”
“...”
เธอหน้าแดงจัด เบือนสายตาหวานฉ่ำไปทางอื่นอย่างเขินอาย มาเฟียหนุ่มกระตุกยิ้ม เขากอบกำลำเอ็นและค่อยๆ ยัดมันเข้าไปในถ้ำสีสวยจนฟางข้าวหลับตาแน่นและกำผ้าปูเตียงจนมันยับ ก่อนจะรู้สึกถึงความจุกหน่วง หญิงสาวอ้าปากหอบหายใจและส่งเสียงครางลั่นออกมาเมื่อเขาขยับเอวสอบและซอยถี่จนเธอเบิกตากว้าง
“อ๊ะ!!!”
“ซี้ด”
เหมันต์ร้องในลำคอ สิ่งแรกที่เธอรับรู้ได้คืออีกฝ่ายค่อนข้างที่จะชำนาญซึ่งต่างจากเธอเหลือเกิน เขาสามารถขยับสะโพกได้เป็นอย่างดี ทำทุกอย่างราวกับรู้ดีว่าผู้หญิงจะชอบหรือจะรู้สึกดีตรงไหนเป็นพิเศษ เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนขึ้นสวรรค์อย่างไรอย่างนั้น จากที่มันเจ็บในช่วงแรกแต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น เหมันต์ก็ทำให้เธอลืมความเจ็บปวดนั้นและเปลี่ยนมาเป็นมีความสุขกับเซ็กส์ที่กำลังได้รับจนฟางข้าวเผลอให้ความร่วมมือออกไปอย่างน่าอายโดยการสวนเอวของตัวเองขึ้นไปรับกับจังหวะกระแทกของเขา
มันทำให้เธอเสียวมากยิ่งขึ้นเป็นสิบเท่า...
“อ๊าส์ อ๊ะๆๆ”
“ซี้ดดดด...อย่างนั้นแหละครับ”
เหมันต์เอ่ยชมข้างใบหูร้อน ก่อนเขาจะขบกัดที่ใบหูของเธอและเลื่อนตัวโก่งมาดูดจุกเต้าสีชมพูสลับไปมา ด้านล่างก็กระแทกเข้าออกไม่ยั้งจนเสียงหยาบโลนดังลั่นห้องนอน ฟางข้าวครางไม่เป็นภาษาและไม่คิดเก็บเสียง เธอปลดปล่อยทุกอย่างที่กำลังรู้สึกในตอนนี้ ก่อนเหมันต์จะพลิกร่างให้เธออยู่ด้านบนส่วนเขานอนราบแทน ฟางข้าวเบิกตาโพลงเพราะรู้สึกแปลกประหลาดที่ส่วนนั้น เขาเอาสองแขนรองหนุนศีรษะ ริมฝีปากยกยิ้มร้ายกาจและเอ่ยขึ้น
“ขย่มสิครับ...ขย่มลงมาแรงๆ”
ฟางข้าวหน้าแดงซ่าน เธอเอาสองมือกดบนหน้าท้องของเหมันต์และหายใจเข้าออกถี่รวน ถ้านั่งเฉยๆ โดยที่ไม่ทำอะไรมันก็จุกอยู่แบบนั้น เธอจึงตัดสินใจขยับเอวคอดบดคลึงด้วยจังหวะเนิบนาบ เหมันต์นอนมองการกระทำของหญิงสาวด้วยสายตาเรียบนิ่ง
“แรงอีกสิครับ”
“อ๊า!!! ข้าวเสียว ไม่ไหวแล้ว”
เธอพยายามบดแท่งร้อนด้วยรูสวาทของตัวเอง ยกสะโพกขึ้นลงสลับกับคลึงเอวไปมา เหมันต์รู้สึกว่าไม่ทันใจเขา มือหนาจึงจับเอวเล็กขึ้นก่อนจะสวนแก่นกายของตัวเองเข้าไป เขาเด้งสวนขึ้นไปจนฟางข้าวแทบทรุดลงแนบอก เธอกรีดร้องลั่นเพราะความใหญ่และแข็งเป็นท่อนที่กระแทกกระทั่นเข้ามา จนในที่สุดหญิงสาวก็รู้สึกถึงสวรรค์ที่เธอเอื้อมถึง ร่างบอบบางกระตุกและปล่อยหยาดน้ำออกมาเคลือบท่อนเอ็น เหมันต์สวนเด้งขึ้นไปอีกไม่กี่นาทีเขาก็รัวจังหวะเพราะใกล้เสร็จเหมือนกัน
“...อ่าาา”
เขากดตัวเธอลงมาในขณะที่พ่นน้ำรักออกจากปลายหัวบาน แต่ฟางข้าวทิ้งตัวนอนทับร่างกายของเขาตั้งแต่ที่เธอเสร็จไปก่อนแล้ว เหมันต์พ่นลมหายใจออกทางปากก่อนจะพลิกร่างเล็กให้นอนราบลงบนเตียง เธอนอนหลับตาราวกับหมดแรง เหมันต์ไล่มองร่างกายขาวที่เปลือยและมีแต่คราบน้ำรักเต็มเรียวขา และน้ำกามขาวขุ่นของเขาที่ไหลออกจากช่องทางบวมช้ำ นัยน์ตาของมาเฟียหนุ่มเรียบนิ่งไร้ความรู้สึกใดๆ เขาลุกขึ้นเดินผิวปากเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้ภรรยาสุดที่รักนอนเปลือยร่างท่ามกลางความเหน็บหนาวของเครื่องปรับอากาศเพียงลำพัง
01.20 น.
สิงหา : เป็นไงบ้างเจ้าบ่าวป้ายแดง รายงานหน่อยดิวะ
หลังจากที่เหมันต์อาบน้ำชำระร่างกายเสร็จเขาก็ออกมายืนดูดบุหรี่นอกระเบียง ปากคาบบุหรี่และสายตาก็มองหน้าจอมือถือที่เปิดแชทกลุ่มเอาไว้ เขาอ่านข้อความของเพื่อนทั้งสอง
โฬม : นั่นดิ มาทิ้งระเบิดไว้และจากไป ไอ้เวรเอ้ยยยย
เหมันต์หลุดขำกับความขี้เสือกของเพื่อนตัวเอง ก่อนหน้านี้เขาทิ้งระเบิดเรื่องที่จะเผด็จศึกฟางข้าว และตอนนี้เขาก็ทำสำเร็จ ใบหน้าร้ายกาจยกยิ้มขึ้น
เหมันต์ : เรียบร้อย แต่แข็งทื่อ ทำกูแทบหมดอารมณ์
เขาพิมพ์ตอบกลับไป พลางเอี้ยวตัวมองเข้าไปภายในห้องยังเตียงนอน เห็นร่างขาวนอนเปลือยเปล่าอยู่ที่เดิม
โฬม : เชี่ยยย ไหนเล่ามาแบบละเอียด
สิงหา : รอฟังครับ
เหมันต์ : ตามนั้น แข็งทื่อ ไร้อารมณ์ แต่กูให้อภัยเพราะซิง
สิงหา : สุดว่ะ ซิงซะด้วย
โฬม : ให้อภัยเว้ย ถือว่าน้องเขาไม่มีประสบการณ์555555
เหมันต์ : กูดูออกว่าไม่เคยเอากับใคร แต่ทำท่าทางเหมือนเก่งมาก
เขาพิมพ์ไปพลางกลั้วหัวเราะในลำคอ นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นึกว่าตัวเองมีอะไรกับท่อนไม้ก็ไม่ปาน ผู้หญิงแบบนั้น ถ้าเป็นปกติแล้วเขาจะไม่มีวันลดตัวลงไปเอาด้วยซ้ำ เพราะจะทำให้เขาโคตรเสียอารมณ์ เหมันต์ชอบผู้หญิงที่ชำนาญ โชกโชน และทำให้เขามีความสุขได้ แต่ก็จะนับว่าเป็นกรณีพิเศษ
สิงหา : ขาวปะ ถ่ายรูปมาแบ่งเพื่อนบ้าง
เมื่ออ่านประโยคของสิงหาก็ทำให้เหมันต์ขมวดคิ้ว เขาหันไปมองในห้องนอนผ่านประตูกระจกอีกครั้ง ฟางข้าวยังคงนอนหลับอยู่ท่าเดิม บนร่างกายเปลือยเปล่าเหมือนเดิม ก่อนที่เขาจะพ่นควันสีเทาขึ้นกลางอากาศ
เหมันต์กดเข้าไปที่กล้องถ่ายรูปของห้องแชท ทว่าเขาไม่ได้แพลนกล้องไปที่ฟางข้าว แต่กลับหันกล้องออกไปด้านนอกวิวท้องฟ้าสีดำ ก่อนจะยกมือของตัวเองขึ้นหน้ากล้องและชูนิ้วกลางพลางกดถ่ายส่งกลับไป ทำให้เพื่อนๆ ที่รอรูปของสวยงามอย่างใจจดใจจ่อพิมพ์ด่ากราดเมื่อเห็นนิ้วกลางของเหมันต์ที่ส่งไปแทนที่จะเป็นรูปของหญิงสาวอย่างที่คาดหวัง มาเฟียหนุ่มหัวเราะพลางกดปิดมือถือและสูบบุหรี่ต่ออย่างเงียบๆ เพียงลำพัง
ถึงจะแข็งทื่อเป็นท่อนไม้ ไม่มีอะไรน่าสนใจ แต่ก็ฝันไปก่อนว่าเขาจะแบ่งพวกมันดู
วันต่อมา
บ้านสิงหโภคิน
“มันจะเป็นไปได้ยังไง!!!”
เสียงตวาดกร้าวดังสนั่นทั่วทั้งห้องโถงนั่งเล่นของคฤหาสน์ หลังจากที่เกริกไกรสั่งให้ลูกน้องเอาเช็คหนึ่งร้อยล้านไปขึ้นเงิน และเอาทองแท่ง ทองรูปพรรณ เครื่องเพชรชุดใหญ่ไปขายให้หมด ทุกอย่างที่ได้มาจากสินสอดงานแต่งของลูกสาวคนโตเมื่อวาน แต่ทว่าทั้งเช็คหนึ่งร้อยล้านบาทและทองอีกมายมาก เครื่องเพชรชุดใหญ่ ทุกอย่างล้วนเป็นของปลอมทั้งสิ้น