พราวฟ้าใส่ชุดนอนเสื้อยืดสีขาว กางเกงยืดขายาวใส่สบายตัวก่อนเดินลงมาจากห้องข้างบน ซึ่งกุ้งบอกให้คุณหนูฟังอีกรอบว่าทั้งสองแยกห้องกันตั้งแต่แต่งงาน เพราะอาชา คนเป็นสามีจงเกลียดจงชังนางมารร้าย หยิบจับอะไรไม่เป็น
เกลียดจนไม่อยากร่วมห้องหอร่วมกันกับเธอ แต่คนพราวฟ้ากลับดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องนอนบนเตียงเดียวกันกับผู้ชายโรคจิต ชอบแก้ผ้าอาบน้ำในที่โล่งแจ้ง
“หนูพราวมาพอดี มานั่งข้างๆ กับสามีของหนูพราวสิจ้ะ” แม่สามีพาลูกสะใภ้เข้ามานั่งเก้าอี้ข้างกันกับอาชา สามีแต่งที่จงใจเกลียดชังภรรยาตัวเอง
“ค่ะ”
พราวฟ้าเห็นว่าสามีปากเสียไม่สนใจเธอ กลับสนใจของโปรดของเขา ข้าวไข่เจียวชะอม แต่สิ่งที่เธอเห็น ข้าวไข่เจียวชะอมอยู่ตรงหน้าเขาถึงสองจานใหญ่ มิหนำซ้ำเขายังเอาของเธอมารวมใส่ของเขา โดยไม่ทันสังเกตสีหน้าบูดบึ้งของภรรยาสาวตรงหน้า
“วันนี้คุณแม่ใจดีกับผมจังเลยนะครับ ทำของโปรดเอาไว้ให้ผมถึงสองจาน”
“นี่คุณ อีกจานหนึ่งมันของฉัน แต่คุณกลับเอาของฉันไปใส่จานของคุณเนี่ยนะ คุณอาชาใจยักษ์” พราวฟ้าไม่ยอมถูกเพศใหญ่กว่าตัวเองรังแกเธออีก อาชาตีหน้ามึนไม่รู้ไม่ชี้
“จานของเธอเหรอ ก็ฉันนึกว่ามันเป็นของฉันเสียเอง ปกติเธอเกลียดกลิ่นเหม็นของผักชะอมจะตายไปไม่ใช่เหรอ”
'ตอนที่พราวอ่าน จำได้ว่าพราวรดาไม่ชอบผักชะอมมากๆ เกือบถึงขั้นทะเลาะกันกับสามีเขาด้วย แต่ตอนนี้ฉันคือพราวฟ้า ไม่ใช่พราวรดา นางมารร้ายที่เขาเกลียดเลยนี่น่า'
“ก็ตอนนั้นพราวเองไม่ชอบกลิ่นชะอมเฉยๆ ค่ะคุณแม่ พี่อาชา แต่พอพราวได้ลองชิมมันแล้วกลับรู้สึกชอบมาก คนเราก็ต้องพัฒนา เปลี่ยนแปลงตัวเองสิค่ะ” เมียตัวแสบซนจงใจเอ่ยเสียงอ่อนหวานแก่สามีหนุ่มที่ยังทำหน้าบึ้งตึง
“ใครเป็นพี่ของเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ ฉันไม่มีน้องอย่างเธอด้วยซ้ำ”
“อาชาอายุมากกว่าหนูพราวตั้งเยอะ น้องจะเรียกว่าพี่ก็ไม่แปลกตรงไหน สามีภรรยาคู่ไหนก็เรียกชื่อเล่นพี่กับน้องกันทั้งนั้น”
มีแม่สามีคอยส่งเสริม เข้าข้างลูกสะใภ้อย่างนี้ ลูกแท้ๆ อย่างเขาไม่สนใจความรู้สึกสักนิดว่าเขาไม่อยากแต่งงานกับเธอ
“จริงค่ะคุณแม่” พราวฟ้าแอบยักคิ้วแก่สามีหน้าบึ้งตึงว่าเธอเป็นฝ่ายชนะในเรื่องคุณแม่เอมอร
“เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยเชียว”
อย่าคิดว่าทำเสียงหวานประจบประแจง ออดอ้อนคุณแม่เขาแล้วจะเอาชนะเขาได้ ในเมื่อข้าวไข่เจียวชะอมเป็นของโปรดของภรรยาแก่นตัวแสบ
เขาจะทานให้มันหมด ไม่เหลือแม้แต่ข้าวสักเม็ดติดหลงเหลืออยู่ภายในจานใหญ่
'ข้าวไข่เจียวชะอม สุดโปรดของพราวฟ้าถูกอีตาสามีของพราวรดาซัดกินหมดเลย หมดกัน อุตส่าห์ตั้งใจใส่ไข่ของพราวเยอะๆ อยู่หอนักศึกษาอดอยากมาหลายวันแล้ว ฮึก ฮือ ๆ'
“อื้มหืม เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเธอก็ทำอาหารอร่อยเป็นกับเขา แต่ก็ทำเป็นได้แค่เมนูอย่างเดียวนี่แหละ เพราะคุณหนูไฮโซ มีคนใช้หยิบจับ จัดโน้นนี้ให้อยู่เป็นประจำ” อาชาจงใจแกล้งเมียแต่งต่อ เขาจะทำให้พราวรดาทนอยู่ที่นี่ไม่ได้ต้องขอหย่ากับเขาแน่นอน
'อีตาบ้าปากเสีย พราวไม่ยอมแล้วนะ'
พราวฟ้าสุดจะหมดความอดทนกับผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีไร้รัก เธอรีบวิ่งเข้าไปขวางเขาเอาไว้ก่อน
“หยุดก่อนคุณอาชา เรามีเรื่องต้องเคลียร์กัน”
“เคลียร์เรื่องอะไร แล้วเนี่ยไม่เรียกว่าพี่อาชาเหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าคุณแม่ฉันแล้วเหรอ หรือว่าเธอเป็นชอบโกหก จอมลวงโลก ต่อหน้าแม่ฉันทำเป็นสาวหวานให้แม่ฉันตายใจ
พอลับหลังแม่ สันดานของนางมารร้ายก็เปิดเผยออกมาอยู่ดี อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ พราวรดา”
“ใครกันแน่ที่แกล้งทำทีต่อหน้าคุณแม่เอมอร แต่พอลับหลังก็มาปากร้าย ปากเสียใส่พราว ถึงพราวจะเป็นเมียในสมรสที่พี่อาชาไม่รักก็ตาม แต่ถึงยังไงพราวก็เป็นคนของคุณแม่พี่อยู่ดี”
พราวฟ้าเบ้ปากใส่สามีปากดี ผู้ชายอะไร โตแต่ตัว แต่รอยหยักในสมองมีนิดเดียว แต่เธอไม่รู้ว่าคำพูดนั่นสร้างความโมโหสุดขีดแก่อาชาที่เพิ่งถูกผู้หญิงปากร้ายโดนด่าจนยับเละ
“กล่าวหาแต่คนอื่นปากเสีย แต่ไม่ย้อนมองดูตัวเอง เป็นเพราะเธอเป็นแบบนี้ไง ชอบอิจฉาริษยาคนอื่น ชอบหึงหวงตบตีผู้หญิงคนอื่นไปทั่วแถมยังส่งสายตาอ่อย ยั่วยวนคนงานในไร่ฟาร์มม้าของฉัน จนพวกมันแทบอยากจะถวายตัวมาเป็นผัวของเธอไม่รู้กี่รอบแล้ว อีกอย่างเพราะเธอชอบหยิบจับทำอะไรไม่เป็น ฉันถึงไม่ได้รักเธอเลยสักนิด พราวรดา!”
'โธ่ นี่เราโดนอีตาบ้านี้โดนด่าเป็นชุด ทำไมตอนอ่านนิยาย ตอนที่พระเอกด่านางร้ายถึงไม่มีแบบนี้ เราไปทำอาละวาดผู้หญิงของพี่อาชาตอนไหน ส่งสายตายั่วยวนคนงานในไร่ฟาร์ม เราทำตอนไหน ไม่เห็นเข้าใจ'
“มัวแต่ยืนเอ๋ออยู่นั่นแหละ สงสัยคงตกบันไดหัวฟาดพื้น สมองคงได้รับกระทบกระเทือนจำวีรกรรมตัวเองไม่ได้สินะว่าเคยทำอะไรมาบ้าง”
“ถึงพราวจะยังจำไม่ได้ว่าในอดีตที่เป็นพราวรดาเคยทำเรื่องเลว ชั่ว ร้ายกาจจนพี่อาชารักไม่ได้ แต่พราวคนนี้ยืนยันว่าพราวไม่ใช่คนแบบนั้นแน่นอน แต่ก่อนพราวเคยจะหลงรักพี่อาชาจนหัวปักหัวปำ แต่ตอนนี้ไม่! พี่อาชาจะไปไหนกับใครมันก็ไม่เกี่ยวกับพราว เพราะพราวไม่ได้รักผู้ชายปากเสียอย่างพี่!”
สายตาหวานคมแข็งกร้าวของพราวฟ้าเปลี่ยนไปจนชายหนุ่มรับรู้ได้ว่าเธอไม่เหมือนแต่ก่อน ที่วิ่งจะจับเขาเป็นสามีสมบูรณ์แบบอยู่เรื่อย พราวฟ้าพูดจริงและทำจริง
“พราวรดา!”
อาชาไม่เคยถูกสาวคนไหนปฏิเสธ เมียแต่งเป็นคนแรกที่กล้าปฏิเสธเขา ชายหนุ่มโกรธหนักจงใจจะเดินเข้ามาใกล้ชิดเมียตัวเอง
“อย่าเข้ามานะ หลบไป” พราวฟ้าผลักอกแกร่งของสามีปากดีออกห่างจากตัว เธอบอกตัวเองว่าอย่าใกล้ผู้ชายอันตราย
“พราวรดา” อาชามองแผ่นหลังของชุดนอนธรรมดาวิ่งออกไปจากเขาอย่างสับสนความรู้สึกตัวเอง
“ทำไมใจของฉันเจ็บแปลบขึ้นมากับคำพูดของนังมารร้ายคนนั้น ไม่สิ คนที่ฉันเกลียดมากที่สุดก็คือเธอ พราวรดา”
'พี่จะไปไหนหรือไปพลอดรักกับผู้หญิงคนไหนมันก็ไม่เกี่ยวกับพราว เพราะพราวไม่รักผู้ชายปากดี ปากหมาอย่างพี่อาชา พี่ควรกลับไปหาเอิงเอย คนที่พี่รักเถอะ!'
…
อาชานอนไม่หลับ เพียงเพราะคิดกับคำพูดของภรรยาปากร้ายกาจ
“โธ่เว้ย! ทำไมฉันถึงนอนไม่หลับ เป็นอะไรวะเนี่ย ไอ้อาชา พรุ่งนี้แกต้องตื่นแต่เช้าออกไปดูแลคอกม้าไม่ใช่เหรอ”
สุดท้ายชายหนุ่มนอนไม่หลับ ร่างเปลือยเปล่าท่อนบนออกมาจากห้องนอนส่วนตัวเอง ปกติเวลาตีสองแบบนี้ ไม่มีใครออกมาเดินเพ่นพล่านมาได้ แต่ไม่ใช่เพราะ....
“ฮึก ฮือๆ อยากกลับบ้าน ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว ที่นี่มีแต่คนใจร้าย ใจดำรังแก”
“เสียงของใครร้องไห้แถวนี้ หรือว่าจะเป็น...คงไม่ใช่หรอกมั้ง”
อาชาไม่ได้เป็นคนกลัวผีแต่อย่างใด ชายหนุ่มรีบมองหาต้นน้ำเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ดังจากมุมหลังบ้าน
“ใครมาอยู่ตรงนี้ นั่นมันพราวรดานี่น่า”
เขาไม่เคยเห็นมุมร้องไห้ของผู้หญิงอิจฉาริษยา คุณหนูวีนเหวี่ยง ส่วนมากมีแต่คิดแผนหาทางกำจัดเอิงเอยที่เข้ามาสนิทสนมกับเขา
“พราวไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว พราวคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงบ้าน ที่นี่มันไม่ใช่ที่พราวจะอยู่ด้วยซ้ำ”
พราวฟ้าแอบหลบมานั่งชันเข่าร้องไห้สะอื้น เธอเป็นคนเหมือนกัน มีหัวใจ มีเลือดเนื้อ ใครจะทนรับคำด่าไหวจากคนที่เกลียดชังเธอ
'พราวรดา นั่นใช่เธอจริงๆ เหรอ'
พราวฟ้าเริ่มปรับตัวการใช้ชีวิตอยู่ในต่างโลกนิยาย หญิงสาวจะเปลี่ยนแปลงชีวิตพราวรดา จากนางร้ายกลายเป็นคนดี เธอไม่ขอเป็นนางเอกที่มีพระเอกปากจัดแบบนั้นแน่นอน
หญิงสาวตื่นแต่เช้าตรู่ ถึงแม้ว่าตาจะบวมช้ำเพิ่งผ่านร้องไห้มาหนัก แต่เธอก็มูฟออนยอมปรับตัวใช้ชีวิตที่นี่ให้อยู่เป็นให้ได้
ร่างสูงเพรียวในชุดกระโปรงสีขาวใสสะอาดยาวถึงตาตุ่มมายืนข้างคุณหญิงเอมอร แม่สามีของเธอ
“วันนี้พราวขอทำบุญตักบาตรด้วยคนนะคะคุณแม่” ใช้น้ำเสียงสองออดอ้อน มีหรือแม่สามีจะไม่อนุญาต
“ทำไมหนูพราวต้องขอแม่ด้วยล่ะจ๊ะ แม่ต่างหากที่ต้องขอร้องให้หนูพราวลุกขึ้นมาแต่เช้า เพื่อมาทำบุญตักบาตร น่าเสียดายวันนี้อาชายังไม่ออกจากห้อง ไม่อย่างนั้นคงได้ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน เป็นเนื้อคู่กันตลอดทุกชาติไปแล้วละ”
“คุณแม่คะ พูดอะไรก็ไม่รู้”
เธอรู้ดีว่าคงเป็นไปไม่ได้ เขาเกลียดชังเมียสมรมอย่างเธอจะตายไป
คงไม่มีวันนั้น....