EP 7 : ท้าทาย

1796 คำ
ตอนที่ 7 : ท้าทาย ไฟไม่ได้สนใจในความสงสัยของเธอ แถมยังหยิบบุหรี่ราคาแพงออกมาจุดพร้อมกับสูบต่อหน้าต่อตาหญิงสาวในจังหวะที่เธอยังเงยขึ้นมามองการกระทำของเขา สายตาคมมองวิวชั้นสองของบ้านอย่างสบายอุรา ต่อให้ตอนนี้สายมากแล้วแต่ยังมีลมเย็นๆพัดผ่านทำให้อากาศไม่ร้อน ไม่นานสายตาคมก้มมองสิ่งที่อยู่ด้านล่างปรากฏว่าแก้วกาแฟนั้นได้หายไปพร้อมกับหญิงสาว ริมฝีปากยกยิ้มด้วยความสะใจที่ได้แกล้งเธอ หัวรั้นแบบเธอต้องเจอคนแบบเขาถึงจะสาสมและสำนึก "ให้มันรู้ซะบ้างว่าเธอกับฉันต่างกันขนาดไหน ฉันมีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายชีวิตเธอได้เลยนะ หมอฟ้าใส" เท้าเรียวเล็กเดินอ้อมมาทางหลังบ้านอีกครั้งและเปิดประตูหลังบ้านแทนการเข้าประตูหน้าบ้าน คิดว่าโครงสร้างบ้านน่าจะสร้างครัวไว้แถบนี้และมันก็จริงอย่างที่คิด ประตูนี้ตรงถึงครัวได้เลย และสามารถทะลุผ่านในบ้านได้ ทำให้ฉันเห็นการตกแต่งของบ้านหลังนี้ ถึงจะมองผ่านๆแต่ก็รู้ว่าทุกอย่างถูกจัดสรรอย่างลงตัว เป็นระเบียบเรียบร้อยทุกตารางนิ้ว ขนาดห้องครัวยังใหม่เอี่ยมราวกับบ้านใหม่ แก้วกาแฟถูกล้างและคว่ำไว้อย่างเรียบร้อย ใบหน้าหวานมองไปรอบตัวอีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินออก คงไม่โดนชี้นิ้วสั่งอะไรอีกนะ ฉันอยากพักผ่อนเต็มที เมื่อเดินออกมาและเงยหน้าขึ้นไปมองชั้นสองของตัวบ้าน กลับไร้เงาผู้ชายคนนั้นแล้ว "เป็นผีหรือไงผลุบๆโผล่ๆ" ฟ้าใสพึมพำกับตัวเองและมองไปรอบๆเพื่อให้แน่ใจว่าเขาไม่อยู่แล้ว เลยตัดสินใจเดินออกจากบ้านหลังนี้ "สวัสดีครับคุณหมอเจอคุณไฟแล้วใช่ไหมครับ" "เจอแล้วค่ะ ฝากบอกเขาด้วยนะคะว่าหมอกลับก่อน" "คุณไฟสั่งให้ลุงมาบอกคุณหมอว่า ปวดขาอยากได้ยาแก้ปวดครับ" "คะ?" เสียงหวานขานเสียงหลง นั่นแปลว่าฉันต้องย้อนไปที่โรงพยาบาลเพื่อสั่งจ่ายยาให้เขา และกลับมาบ้านหลังนี้อีกนะเหรอ พอมองหน้าคุณลุงที่ทำสีหน้ากระอักกระอ่วนทำให้ฉันเลือกที่จะพยักหน้าด้วยความเข้าใจ เขาไปตรวจที่โรงพยาบาลในกรุงเทพแล้วหมอไม่ให้ยาแก้ปวดเลยเหรอไง หรือเขาจงใจปั่นประสาทฉัน ใบหน้าหวานหันไปทางตัวบ้านอีกครั้ง และเงยขึ้นไปยังชั้นสองที่เป็นห้องกระจกบานใหญ่ถูกปิดผ้าม่านไว้อย่างมิดชิด ความรู้สึกเหมือนมีใครแอบมองอยู่บริเวณนั้น แต่คงคิดมากไปเอง "งั้นฝากบอกเขาหน่อยนะคะ ตอนเย็นหมอจะเอายามาให้ ถ้าเขาปวดขาจนทนไม่ไหวคงไม่เอาตัวเองขึ้นไปข้างบนง่ายขนาดนั้นแถมยังสูบบุหรี่ลอยหน้าลอยตา" "เอ่อ...คือ" "หมอไปก่อนนะคะ" ฉันก้มหัวให้คุณลุงเล็กน้อยและเดินไปเอารถจักรยานคันเก่าเพื่อขี่กลับห้องพัก ระยะทางจากบ้านเขาไปห้องพักของฉันมันไม่ใช่ใกล้ๆเมื่อเทียบกับการปั่นจักรยาน รถยนต์ขับอาจใช้เวลาประมาณสิบนาที แต่ปั่นจักรยานใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง จะให้ฉันเทียวไปเทียวมามันคงไม่ง่ายขนาดนั้น ต้องขี่ไปตามถนนที่มีรถผ่านไปผ่านมามากพอสมควร ไม่รู้ว่าคราวซวยถูกรถชนจะมาหาตอนไหน คำสั่งของคุณเหมือนว่าบ้านฉันอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามอย่างนั้นแหละ ปวดให้ตายไปเลยยิ่งดี ชีวิตฉันจะได้สงบ เป็นความคิดที่อยู่ในสมองแต่ไม่กล้าที่จะพูดออกไปให้เขารับรู้ กลัวหมาบ้าจะแผลงฤทธิ์อีก ทำได้แค่ยอมและอดทนเพื่อให้เขาพอใจ สายตาคมกริบมองคนตัวเล็กขี่จักรยานออกจากบริเวณบ้านจนลับสายตา ในจังหวะที่เธอเงยมองขึ้นมาเมื่อกี้ทำให้เขาผงะไปเล็กน้อย แต่มั่นใจว่าเธอไม่รู้ว่าเขายืนมองเธออยู่ตรงนี้ ครืด ครืด... เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังทำให้ชายหนุ่มหันไปมองและเดินไปหยิบก่อนจะกดรับสาย "อืม" เสียงในลำคอทักทายปลายสาย (เย็นนี้ให้คนรถไปรอรับเลยไหมครับ) ลูกน้องคนสนิทถามทันทีเมื่อเจ้านายหนุ่มรับสาย เพราะปกติแล้วเจ้านายจะนอนที่บ้านพักตากอากาศเพียงหนึ่งคืน หรืออยู่ไม่เกินสองวันและจะกลับมากรุงเทพ และการที่ให้รถรอรับเป็นเรื่องปกติที่ทำแบบนี้มายาวนาน แต่ต้องโทรสอบถามเจ้านายหนุ่มก่อนเพื่อความชัวร์ "กูยังไม่กลับ" (ครับ?) "มีอะไรที่น่าสงสัยงั้นเหรอ กูอยู่บ้านตัวเองผิดตรงไหน" (ไม่มีครับ แล้วขาของคุณไฟดีขึ้นหรือยังครับ เดี๋ยวผมจะรีบเคลียร์งานที่นี่เพื่อไปดูแลคุณไฟ) "ไม่ต้อง กูดูแลตัวเองได้" (ครับ ทายาแก้ฟกช้ำและกินยาลดการปวดนะครับ หมอที่รักษาคุณไฟบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แค่แผลถลอกและอาจมีรอยช้ำบ้างเป็นเรื่องปกติ ไม่นานก็หาย) "กูโตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้วไม่ต้องมาย้ำ ทำงานที่กูสั่งไปก็พอกูน่าจะอยู่ที่นี่สักพักถือว่าพักร่างกายและรักษาตัวเอง ไม่จำเป็นคุยเรื่องงานก็ไม่ต้องโทรมา ถ้ากูจะกลับกรุงเทพเดี๋ยวกูบอกเอง" ไฟกดตัดสายทันทีหลังจากบอกกับลูกน้องคนสนิท ก่อนจะโยนโทรศัพท์เครื่องหรูลงบนที่นอนและเดินไปหยิบถุงยาจากโรงพยาบาลในกรุงเทพขึ้นมาดู ปั่ก ถุงยาจากโรงพยาบาลถูกโยนทิ้งถังขยะอย่างไร้เยื่อใย "ขาฉันใส่เฝือก และกระดูกเคลื่อน ไม่ใช่ฟกช้ำดำเขียว ต้องรักษากว่าจะหายดีอีกนาน" ริมฝีปากหนากระตุกยิ้มมองขาตัวเองที่มีผ้าพันไว้เหมือนกับใส่เฝือก และบนที่นอนมีเฝือกข้อเท้าที่สามารถถอดออกได้วางไว้เพื่อบดบังสายตาไม่ให้เธอรู้ เธอเป็นหมอต้องสังเกตแน่ว่าแค่พันผ้าไม่ได้ใส่เฝือกจริง หลายชั่วโมงต่อมา มือหนาวางไอแพดลงหลังจากนั่งเคลียร์งานภายในห้องนั่งเล่น คิ้วหนาขมวดเป็นปมเพราะไร้เงาหญิงสาวทั้งที่เขาสั่งให้ลุงคนสวนบอกว่าต้องการยาแก้ปวด แต่ป่านนี้เขายังไม่เห็นเธอเอามาให้ "ให้ผมเทกับข้าวให้เลยไหมครับ อาหารร้านประจำของคุณไฟ" ไฟหันไปมองลุงคนสวนที่เดินเข้ามาบอก บ้านหลังนี้มีเพียงลุงคนสวนเท่านั้นที่คอยดูแล ส่วนอาหารการกินเขามีร้านประจำอยู่แถวนี้แค่บอกลุงจะไปสั่งให้และกลับมาใส่จานให้เสร็จสรรพ ลุงคนสวนแกรู้ทุกอย่างเพราะอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เหมือนญาติผู้ใหญ่อีกคนเลยไว้ใจที่จะให้ดูแลบ้านหลังนี้ "ลุงได้บอกผู้หญิงคนนั้นตามที่ผมบอกหรือเปล่าครับ" "บอกครับ แต่คุณหมอบอกจะมาตอนเย็น เอ่อ..." คิ้วหนาเลิกขึ้นอีกครั้งเมื่อลุงมีสิ่งที่อยากจะพูดแต่ไม่กล้าพูด "บอกมาได้เลยครับ เธอคงไม่ได้บอกแค่นั้นใช่ไหมครับ" "คุณหมอบอกว่า…ถ้าเขาปวดขาจนทนไม่ไหวคงไม่เอาตัวเองขึ้นไปข้างบนง่ายขนาดนั้นแถมยังสูบบุหรี่ลอยหน้าลอยตา…ลุงไม่ได้แต่งเติมเลยนะครับ คุณหมอพูดแบบนี้ทุกคำ" "หึ" ไฟหัวเราะในลำคอรู้สึกถูกใจในคำพูดของเธอซะเหลือเกิน และพยักหน้าให้ลุงออกไปทำงานของตัวเอง เดี๋ยวที่เหลือเขาจะจัดการเอง "ท้าทายดีนิ" โรงพยาบาลชุมชน กริ๊ง กริ๊ง... เสียงโทรศัพท์ภายในโรงพยาบาลดังลั่นส่งเสียงให้บุคลากรของโรงพยาบาลยกหูรับสาย "โรงพยาบาลชุมชนรับสายค่ะ" (ต้องการต่อสายหาหมอฟ้าใส) "วันนี้หมอฟ้าใสไม่เข้าโรงพยาบาลค่ะ" (ผมเป็นตัวแทนของคุณไฟ อยากจะแจ้งหมอฟ้าใสเกี่ยวกับการฟ้องร้องคดีที่วินิจฉัยผิดพลาด หมายศาลจะออกเร็วๆนี้ รบกวนแจ้งคุณหมอฟ้าใสให้ทราบด้วย) "ค่ะ แล้วจะแจ้งหมอ...ขอโทษค่ะ หมอฟ้าใสเข้าโรงพยาบาลพอดี กรุณาถือสายรอสักครู่นะคะ" ทันทีที่ก้าวเข้ามาในโรงพยาบาลได้ยินเสียงพูดคุยที่ระบุชื่อฉันอย่างชัดเจน ทำให้เท้าเรียวเล็กก้าวไปบริเวณเคาน์เตอร์ของโรงพยาบาลเป็นจังหวะเดียวกันกับเจ้าหน้าที่เรียกฉันให้เข้าไปพูดคุยพอดี การที่ฉันมาโรงพยาบาลตอนนี้เพราะจะมาเอายาให้เขานั่นแหละ ไม่ได้มีตารางเข้าเวรอะไร ประจวบเหมาะกับมีคนต้องการคุยกับฉันพอดี "เกี่ยวกับคดีคุณไฟค่ะ ดิฉันว่าหมอควรให้เบอร์ส่วนตัวนะคะ ไม่ควรให้ทางนั้นติดต่อเข้าโรงพยาบาล แค่นี้ทางโรงพยาบาลก็เสียหายมากพอแล้ว" น้ำเสียงที่ไม่เป็นมิตรและเธอกำลังบอกว่าฉันคือตัวปัญหาในโรงพยาบาลนี้ ฉันไม่ได้ตอบโต้เธอกลับและเลือกที่จะเอาหูโทรศัพท์มาพูดคุยเอง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะเอ่ยปากพูดคุยกับคนที่โทรเข้ามา "หมอฟ้าใสพูดนะคะ ถ้าคดีของคุณไฟหมอกำลังอยู่ในขั้นไกล่เกลี่ยค่ะ ถ้ามีอะไรรบกวนติดต่อเบอร์หมอส่วนตัว สะดวกจดเบอร์หมอไหมคะ" (อืม) คำตอบกลับมาเพียงสั้นๆทำให้คิ้วเรียวสวยขมวดเล็กน้อย ทำไมปลายสายดูไม่มีมารยาทในการพูดคุยเลย น้ำเสียงคุ้นๆถึงเป็นเพียงคำตอบรับในลำคอ แต่สุดท้ายฉันได้บอกเบอร์ปลายสายก่อนจะวางสาย ครืด ครืด... ไม่ถึงหนึ่งนาทีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ทำให้ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมองเบอร์แปลกที่โชว์หราอยู่ตรงหน้า ตัดสินใจกดรับสายคิดว่าน่าจะเป็นเขาคนนั้นที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ "สวัสดีค่ะ..." (โอกาสของฉันไม่ได้มีให้เธอบ่อยๆ อย่าท้าทายอำนาจของฉัน ฉันให้เวลาเธอยี่สิบนาที ต้องเห็นเธออยู่ที่หน้าบ้านฉัน) ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบเสียงนั้นได้แทรกเข้ามาพร้อมกับคำขู่ ทันทีที่เขาเอ่ยปากพูดรู้ได้ทันทีว่าคือใคร ทำให้นึกถึงเสียงตอบรับในลำคอก่อนหน้านี้ที่ฉันเอะใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม