ตอนที่ 5-1 ไม่ใช่แฟนกู

965 คำ
ตอนที่ 5 ไม่ใช่แฟนกู ช่วงเช้าของวันถัดมา ภัทรกฤชลุกจากที่นอนมองร่างเปลือยเปล่าข้างกาย ริมฝีปากหยักหนาคลี่ยิ้มบางๆมองเสี้ยวหน้าของหญิงสาวที่กำลังหลับใหลอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยความรู้สึกหลากหลาย เพราะกิจกรรมรักแสนเร้าร้อนเกือบตลอดคืนทำให้เช้านี้อุณหภูมิร่างกายหญิงสาวกลับมาสู่ภาวะปกติ ไม่มีไข้แต่ยังมีอาการเจ็บคอทุกครั้งที่กลืนน้ำลาย รัญลฎางัวเงียลืมตาตื่นเห็นว่าชายคนรักกำลังเท้าแขนนอนตะแคงมองหน้า แย้มยิ้มให้เธออย่างอบอุ่น “หิวไหม” เขาเอ่ยถามน้ำเสียงอ่อนโยนจนหัวใจเธอฟูฟ่องมีความสุข ไม่ใช่ฝันไปที่เช้านี้เธอได้ตื่นขึ้นมาเห็นหน้าเขา เห็นรอยยิ้มเขา ไม่ใช่ความนิ่งเงียบเมินเฉยเหมือนที่ผ่านมา หญิงสาวส่ายหัวไปมาจนเรือนผมกระจาย ก่อนจะยันตัวเองลุกขึ้น ยื่นหน้าจูบรีบฝีปากเขาเบาๆก่อนจะล้มตัวนอน ยกผ้าห่มปิดหน้าด้วยความเขินอายจนเขาหัวเราะออกมาเบาๆ “หึหึ ไหนบอกไม่หิวไง” ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆในลำคอ ดึงผ้าห่มของอีกฝ่ายออกพ้นตัวเผยเรืองร่างสวยงามที่เขาหลงใหล โน้มหน้าเข้าไปหากดจูบบดขยี้ที่ริมฝีปากของคนที่แทบไม่ทันตั้งตัว เรียวลิ้นตวัดเกาะเกี่ยวกันแลกเปลี่ยนเป็นจูบที่แสนดูดดื่ม ก่อนเขาจะเลื่อนใบหน้าและริมฝีปากพรมจูบทั่วใบหน้า ไล่เลื้อยต่ำซุกซอกขาวผ่องพรมจูบปากรอยรักไว้อย่างเอาแต่ใจ บทรักเริ่มต้นขึ้นอีกครั้งกับเสียงหวานร้องครวญครางดังขึ้นไม่หยุดเมื่อเขากระหน่ำสาดใส่ความต้องการของเขาเข้าไปซ้ำๆ เน้นหนักจนร่างเล็กตัวสั่นคลอนตามแรงกระแทกกระทั้นอย่างเอาแต่ใจ ร่างเล็กส่งเสียงหวาน ครวญครางไม่หยุด หลับตาแน่นรับแรงกระแทกนั้นอย่างสุขสม กว่าพายุรักจะจบสิ้นก็กินเวลาจนเกือบใกล้เที่ยง หญิงสาวที่เพิ่งฟื้นไข้อยู่ในสภาพอิดโรยอ่อนแรงนอนซมซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนา ส่วนตัวเขานั้นมีเพียงผ้าขนหนูพื้นใหญ่พันรอบเอวไว้ เผยแผงอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามลุกมายืนปรุงอาหารอยู่บริเวณหน้าเตา เตรียมไว้รอ คนที่เพิ่งสร่างไข้เพราะแผนการรักษาด้วยกลวิธีของเขาที่ช่วยทำให้ขยับตัวออกแรงแทบทั้งคืนจนหายกลับมาอุณหภูมิปกติ ไม่ตัวร้อนดั่งไฟเช่นเมื่อวาน กว่าที่หล่อนจะรู้สึกตัวตะวันก็บ่ายคล้อย ร่างเล็กค่อยๆลืมตาตื่นลุกขึ้นนั่งด้วยสภาพเปลือยเปล่ามีเพียงผ้านวมผืนหนาห่มตัวไว้ หล่อนกวาดสายตามองหาใครบางคน ระหว่างคิ้วสวยย่นหากันเล็กน้อยด้วยความแปลกใจที่ไม่เห็นเขาในห้องนอน ตัดสินใจลุกไปหยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่มาพันไว้รอบกายพอหลวมๆ ก่อนจะค่อยเดินออกจากห้อง กวาดสายตามองจนเห็นชายหนุ่มคนรักของเธอกำลังนั่งดูไอแพดอยู่ที่โซฟาตรงโซนรับแขก “ตื่นแล้วเหรอ” “ค่ะ...พี่พอร์ชไม่ไปทำงานเหรอคะ” “จะไปทำงานได้ไง ในเมื่อแมวมันดื้อข่วนเจ้าของเป็นแผลขนาดนี้” “แมวเหรอคะ...เมื่อไหร่คะพี่พอร์ช...ไหนคะบัวขอดูแผลหน่อย” ร่างเล็กเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็รีบเดินเข้ามาหาจนลืมฉุกคิดไปว่า...แมวที่เขาอุปมาหมายถึงก็คือตัวเธอนั้นเอง รุดมาหาชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างสบายใจ ริมฝีปากหนายกยิ้มเล็กน้อยอย่างอารมณ์ดีคว้าเอวคอดรั้งตัวให้นั่งลงบนตักแกร่งของเขา จนเธอร้องเสียงหลง สองแขนเรียวโอบรอบคอเขาแน่นด้วยความตกใจ “อุ้ย!! พี่พอร์ช” “หึหึ หายไข้แล้วเหรอ ยังปวดหัวอยู่ไหม” “หายแล้วค่ะ แต่แค่ยังเพลียๆ” “หึหึ ที่เพลียไม่ใช่เพราะไข้แล้วล่ะ อย่างอื่นมากกว่า” เชฟหนุ่มเอ่ยหยอก ยิ้มกรุ่มกริ่ม พลางใช้ปลายนิ้วเกลี่ยไรผมเธอเหน็บเข้าที่ข้างหู “แล้วไหนละคะ...ที่โดนแมวข่วนต้องทำแผลไหม หรือจะไปหาหมอฉีดยาดี” เธอถามพลางก้มมองสำรวจเนื้อตัวของชายหนุ่ม พิศดูใบหน้าซ้ายทีขวาที ก่อนจะสะดุดที่รอยเล็บขีดข่วนเป็นแนวบริเวณหลังคอ “อุ้ย...” “หึหึ รู้หรือยังว่าแมวตัวไหน” “บัวขอโทษค่ะ...บัวไม่ได้ตั้งใจ” เสียงหวานเอ่ยเสียงเบา รู้สึกผิดเมื่อเห็นรอยแผลจากการขีดข่วนของเธอค่อนข้างแดงและคงจะแสบพอตัว “มีตรงไหนอีกไหมคะ” ชายหนุ่มยกยิ้มเล็กน้อย มือหนาลูบศีรษะเธอเบาๆ “ช่างมันเถอะ ไปอาบน้ำทานข้าวดีกว่า เดี๋ยวบ่ายๆพี่จะพาไปเดินเล่นชดเชยที่วันก่อนผิดนัด สนใจไหม” “สนใจค่ะ”เสียงหวานเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงดีใจตื่นเต้นเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าเขาจะสนใจความรู้สึกของเธอ ในเมื่อระยะหลังมานี้เขามีท่าทีห่างเหินเฉยเมยกับเธออยู่บ่อยครั้งจนเธออดเสียใจ น้อยใจไม่ได้ แต่เมื่อเขาเอ่ยปากและแสดงท่าทีห่วงใยหัวใจที่ขาดน้ำขาดการดูแลใส่ใจมานานค่อยๆเบ่งบานขึ้นอีกครั้ง รัญลฎากดจูบที่ข้างแก้มของชายหนุ่มอย่างเอาใจทั้งซ้ายขวา ก่อนจะลุกเดินไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่งตัวสวยเตรียมตัวพร้อมสำหรับออกไปเดินเล่นช้อปปิ้งอย่างที่เขาบอกเพราะมั่นใจว่าอย่างไรวันนี้คงไม่มีเหตุให้เขาต้องทิ้งเธอไว้กลางทางอย่างที่ผ่านมาแน่นอน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม