bc

สถานะคนที่คุณไม่รัก

book_age18+
9.9K
ติดตาม
41.4K
อ่าน
love-triangle
ครอบครัว
จบสุข
หนีตอนตั้งครรภ์
คู่ต่างขั้ว
คนใช้แรงงาน
ดราม่า
โศกนาฏกรรม
ตึงเครียด
เมือง
ออฟฟิศ/ที่ทำงาน
ปิ๊งรักวัยเด็ก
like
intro-logo
คำนิยม

"พี่ไม่เคยคิดว่าเธอเป็นแฟนพี่อยู่แล้ว" เขาไม่เคยให้สถานะ ไม่เคยบอกใคร คบหาไปวันๆเพียงเพื่อรอแฟนเก่าเขากลับมาเท่านั้น...แล้วเขาก็เลือกเธอคนนั้นไม่ใช่เธอ

นางเอก คบพระเอกโดยไม่มีสถานะ ไม่เคยขอคบแต่นางเอกเข้าใจเอาเองว่าคบกัน เพราะอยู่ด้วยกัน ทำงานที่เดียวกัน พระเอกเปนเชฟ นางเอกเปนผู้ช่วยผู้จัดการ

วันนึงฝนตกหนัก นางเอกขอให้พระเอกมารับ เขารับปาก แต่สุดท้ายพระเอกก็ไม่มา เขากลับขับรถไปส่งแฟนเก่า และยังขับผ่านและเห็นว่านางเอกยืนรออยู่ในที่เปลี่ยวก็ไม่แวะรับ จนเธอถูกจี้จนเกือบโดนลากไปข่มขืน

“พี่พอร์ชคะ...ทำอะไรอยู่เหรอคะ”

“มีอะไร”

“ขะ....คือ...ที่นี่ฝนตกหนักมากเลยค่ะ พี่พอร์ชอยู่ที่ไหนเหรอคะตอนนี้”

“แล้วมีอะไร” น้ำเสียงราบเรียบเย็นชาย้อนถามกลับทำให้เธอถึงกับนิ่งไปพูดอะไรไม่ออก จนเขาถามซ้ำด้วยน้ำเสียงเข้มดุมากขึ้นเธอจึงอ้อมแอ้มบอกเขาเสียงเบา

“พี่พอร์ชมารับบัวได้ไหมคะตอนสามทุ่ม”

“อืม...เดี๋ยวพี่ไป”

“ค่ะ ขอบคุณนะคะงื้อ...พี่พอร์ชน่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวบัวแชร์โลเคชั่นให้นะคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ตื้นเต้นดีใจขึ้นมาทันที

“อืม”

ถนนสี่เลนที่ไม่ใช่ถนนสายหลัก รถราในเวลากลางคืนจึงมีไม่มากนัก ชายหนุ่มขับรถมาเรื่อยๆ ตามเส้นทางช่วงจังหวะหนึ่งที่หางตาของเขาเหลือบให้เห็นใครบางคนที่คุ้นตากำลังนั่งตากละอองฝนอยู่ใต้หลังคาเล็กๆ ของป้ายรถเมล์ที่นานๆ จะมีรถเมล์ประจำทางขับผ่านมาสักคัน

หางคิ้วหนากระตุกวูบ หัวใจเขาแทบหล่นเพราะเขาลืมรัญลฎาไปจนสนิทใจ! ว่าเธอได้โทรมาขอให้มารับในเวลาสามทุ่ม แต่ตอนนี้เวลาใกล้ห้าทุ่มแล้ว เธอก็ยังคงนั่งกอดตัวเองเนื้อตัวหนาวสั่นไม่ยอมหานั่งรถนั่งกลับไปรอเขาที่คอนโด...เธอนี่โง่จริงๆ รัญลฎา!

ชายหนุ่มอดรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ ไม่ได้เมื่อได้เห็นเธอยังนั่งอยู่ตรงนั้นทั้งที่มันก็ดึกและนานพอสมควรแล้วที่เขาลืมนัดเธอ

ในใจนั้นแอบลังเลว่าควรวนรถไปรับตอนนี้ แล้วให้เธอนั่งร่วมทางไปกับเขาและมุกรดา หรือควรไปส่งมุกรดาก่อนดี ระหว่างครุ่นคิดอยู่นั้น ฝีเท้าเขาก็เหยียบคันเร่งมาเรื่อยๆ สุดท้ายเขาก็เลือกที่จะมาส่งอดีตคนรักก่อน

chap-preview
อ่านตัวอย่างฟรี
บทนำ คบประสาอะไร
บทนำ คบประสาอะไร “พี่พอร์ชคะ” เสียงหวานเอ่ยเรียกเขาด้วยน้ำเสียงสดใส รอยยิ้มหวานผุดพรายละมุนละไม เนื้อตัวเปลือยเปล่าลุกขึ้นนั่งจ้องมองชายหนุ่มที่ตนรักแววตาเป็นประกาย “หื้อ...อือว่าไง” เสียงดังจากในลำคอ ก่อนจะเอ่ยจะถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย ดวงตาปิดปรือง่วงงุน เพราะเพิ่งผ่านกิจกรรมร่านสวาทด้วยกันมาเกือบค่อนคืน เรี่ยวแรงของเขาแทบมลายหายสิ้น อ่อนเพลียจนอยากจะไปเข้าเฝ้าพระอินทร์ แต่หญิงสาวที่ยังคงสดใส ดวงตากลมโตแวววาวเป็นประกายจ้องมองเขานิ่งนานด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข “บัวรักพี่พอร์ชนะคะ” “อืม” “รักมากๆๆๆ รักมากที่สุดเลย” “อือ...รู้แล้ว” น้ำเสียงในลำคอคล้ายรำคาญ ตวัดแขนมาดึงรั้งโอบกอดร่างเล็กให้ล้มตัวลงนอนข้างๆเขา “พรุ่งนี้เพื่อนบัวเขานัดจะไปลองชุดแต่งงานกัน พี่พอร์ชว่างไหมคะ” “หื้อ” “เพื่อนบัวเขาอยากเจอพี่...เราคบกันมาจะสองปีแล้ว พี่ยังไม่เคยเจอเพื่อนบัวเลย แถมบัวยังไม่เคยรู้จักเพื่อนพี่ด้วย...พรุ่งนี้พี่ไม่ได้ไปทำงาน เราไปด้วยกันนะคะ” ตั้งแต่รู้จักกันมาสี่ปีกว่า และได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันเกือบสองปี หล่อนยังไม่มีโอกาสได้เปิดตัวหรืออวดให้ใครได้รู้เลยสักนิดว่าคนที่เธอกำลังคบด้วยอยู่ นอนกอดกันทุกคืน จะเป็นเชฟหนุ่มรูปหล่อที่กำลังมาแรง ได้รับความสนใจจากสังคมในขณะนี้ ทั้งรายการโทรทัศน์ ช่องยูทูปออนไลน์ต่างๆ ล้วนแล้วแต่ต้องการสัมภาษณ์หรืออยากให้เขาไปร่วมรายการด้วยทั้งนั้น โดยเฉพาะรายการอาหารชื่อดัง รายการนั้นยิ่งพยายามติดต่อเขาเช้าเย็นเพื่อขอให้เขาไปเข้าร่วมการแข่งขันในซีซั่นที่กำลังจะถ่ายทำอยู่ในไม่ช้า แต่เขาก็เลือกที่จะนิ่งเฉยไม่สนใจอะไรมากมาย “งื้อพูดอะไรเยอะแยะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุย...พี่จะนอน” น้ำเสียงงัวเงียคล้ายหงุดหงิดเอ่ยตัดบท ระหว่างคิ้วย่นหากันเล็กน้อยก่อนจะพลิกตัวหนีนอนหันหลังให้คล้ายกับตัดรำคาญ จนรัญลฎาถึงกับยู่ปากใส่เขาด้วยความขัดใจเล็กๆ คบกันมาก็นาน แต่ไม่เคยได้เจอสังคมเขาเลยสักครั้ง ครั้นพอเธออยากให้มาเจอกับเพื่อนสนิทของเธอบ้างเขาก็มักบ่ายเบี่ยงเป็นเช่นนี้เสมอ จนบางครั้งเพื่อนเธอก็มักบ่นว่าถึงเขาจนเธอเองเสียกำลังใจไปก็หลายหน “คบประสาอะไรวะ ไม่เคยเปิดตัวเลย...สรุปนี่แกเป็นแฟนเขาจริงๆใช่ไหมเนี่ย ไม่ใช่ทึกทักเอาเองนะบัว” ช่วงสายของวันรุ่งขึ้น หลังจากเธอตื่นนอนขึ้นมาในตอนเช้าแล้วพบว่าที่นอนฝั่งด้านของเขาที่อยู่ข้างเขาซึ่งเธอกอดนอนทั้งคืน เช้านี้กลับว่างเปล่า และดูเหมือนว่าเขาจะออกไปที่ไหนสักแห่ง ที่เธอไม่รู้...เหมือนเช่นทุกครั้ง คำถามที่เธอไม่เคยได้รับคำตอบ ไม่เคยรับรู้ว่าเขาไปไหน ทำอะไร ในหนึ่งวันเขาต้องพบเจอใครบ้าง แตกต่างจากเธอที่มักจะส่งข้อความไปบอกเล่าให้เขารู้เสมอ บอกโดยที่เขาไม่เคยต้องถามหรือสงสัย รายงานทุกอย่างแม้กระทั่งร้านอาหารและเมนูที่ทาน “แก้ม!!เบาลูกเบา แกจะขยี้ให้มันช็อกตายตรงนี้ไปเลยหรือไง” หญิงสาวที่อยู่ในชุดสีขาวฟูฟ่องเอ่ยปรามเพื่อนสนิทอีกคน ขณะยืนหมุนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่โดยมีพนักงานของห้องเสื้อแบรนด์ใหม่มาแรงที่กำลังเป็นกระแสคนนิยมอยู่ในขณะนี้ จนเธอต้องร้องขอเพื่อนสนิททั้งสองให้รีบมาเป็นเพื่อนช่วยเลือกชุดในวันสำคัญของเธอที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และเธอก็ไม่อยากให้เจ้าบ่าวของเธอล่วงรู้ว่าชุดเจ้าสาวที่เธออยากใส่หวังสร้างความประทับใจเซอร์ไพรส์เจ้าบ่าวว่าเป็นชุดแบบไหน “โอ้ยแม่!! ถ้าไม่ดึงสติมันบ้าง มันก็จะหลงเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแบบนี้แหละ” ปั้นแก้มหันมาแหวใส่ไอลดาที่ถึงกับยืนขำกับหน้าตาท่าทางจริงจังของอีกฝ่าย “ชุดนี้สวยไหมบัว” ไอลดาที่อยากเปลี่ยนอารมณ์เปลี่ยนเรื่องให้เพื่อนสาวอีกคนที่เริ่มหน้าเจื่อน สีหน้าคล้ายอยากร้องไห้เพราะคำพูดกระทบใจ ให้หันเหมาสนใจชุดเจ้าสาวสีขาวสวยหรูที่เธอกำลังสวมใส่อยู่แทน “อืมสวย ชุดนี้ดูเหมาะกับเธอมากกว่าชุดเมื่อกี้อีกนะ” ร่างเล็กเดินรอบตัวเพื่อนอย่างพินิจพิจารณา อดชื่นชมไม่ได้เพื่อนเธอใส่นี้แล้วดูสวย มีออร่าขึ้นมาจริงๆ “งั้นเอาชุดนี้เลยนะคะ...ว่าแต่ยังเหลือโควตาให้เลือกอีกชุดใช่ไหมคะ” ไอลดาซึ่งเห็นพ้องกับรัญลฎาจึงตัดสินใจเลือกชุดนี้ทันทีโดยไม่คิดลังเล “ค่ะ คุณเจ้าสาวอยากจะลองใส่อีกสักชุดไหมคะ” “งั้นให้เพื่อนฉันลองได้ไหมคะ ชุดนั้นที่บัวจับอยู่เมื่อครู่แกอยากลองไหม” รัญลฎามีสีหน้าเหลอหลาตกใจเล็กน้อย หันไปมองชุดเจ้าสาวสีขาวปาดไหล่ทรงบอลกาวน์ สวยงามดุจเจ้าหญิงในเทพนิยาย จนพนักงานที่ยืนอยู่ใกล้ๆรีบหยิบชุดนั้นเดินมาทันที “คุณผู้หญิงจะลองสวมชุดนี้ดูไหมคะ ต้องเหมาะกับคุณแน่ๆเลยค่ะ” “จะดีเหรอลดา” “ดีๆ แกลองเหอะบัว ฉันว่าชุดนี้แกใส่แล้วสวยนะ” ปั้มแก้มประเมินด้วยสายตาก็รู้ว่าชุดนี้สวยและเหมาะกับเพื่อนสนิทตัวเองขนาดไหน รัญลฎาที่แอบกล้าๆกลัวๆ เพราะไม่รู้ว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ทนแรงคะยั้นคะยอของทั้งเพื่อนและพนักงานไม่ไหว ยอมเดินเข้าไปในห้องเปลี่ยนชุดโดยมีพนักงานตามติดคอยช่วยดูแลอยู่ตลอด เวลาผ่านไปเกือบสิบนาที ม่านสีแดงค่อยๆเปิดกว้างขึ้น พร้อมกับหญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวยืนอยู่บนแท่นวงกลมตรงกลาง สีหน้าเหนียมอายแก้มแดงระเรื่อมองสบตาเพื่อนทั้งสองที่ยืนมองอยู่ด้วยสายตาชื่นชมปนตื่นตะลึง เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะสวยและเหมาะกับชุดที่สวมใส่ได้ขนาดนี้ “เป็นไงบ้างลดา แก้ม” น้ำเสียงคล้ายไม่มั่นใจ “แกสวยมากบัว สวยๆจริงอย่างกับดาราเลย” สองสาวต่างพร้อมกันใจกันปรบมือ พูดอวยอย่างไม่เกินจริง “สวยจริงๆค่ะคุณลูกค้า ชุดนี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่ของทางร้านด้วยนะคะ ถ้าหากคุณลูกค้าสนใจสามารถสั่งจองไว้ก่อนได้เลยนะคะ” “เอ่อเดี๋ยวๆ เดี๋ยวค่ะพี่พนักงาน อย่าเพิ่งรีบขายเพื่อนดิฉันขนาดนั้น เอาแค่ทุกวันนี้เขารับมันเป็นแฟนหรือเปล่าก่อนดีกว่าค่ะ อย่าเพิ่งไปหวังถึงขั้นจะได้แต่งงานเลย” ปั้นแก้มรีบปราม ท้ายประโยคมิวายแขวะเพื่อนสนิทที่ถึงกับยิ้มเจื่อน ใบหน้าขาวถอดสีอย่างเห็นได้ชัด “แกนี่นะ จะแรงไปไหนวะแก้ม!” “เออๆไม่พูดละ...เอางี้เดี๋ยวแกยืนโพสท่าสวยๆนะ ฉันจะถ่ายรูปให้” “อืม” ร่างเล็กตอบรับเสียงเบา ก่อนจะฉีกยิ้มหวานยืนให้เพื่อนถ่ายรูปให้จนพอใจ เวลาเกือบห้าโมงเย็นทั้งสามออกมาจากห้องเสื้อชื่อดังก็พากันมานั่งพูดคุยกันในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่อยู่ไม่ไกลจากห้องเสื้อนั้นมากนัก รัญลฎาที่นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูรูปที่ถูกถ่ายเมื่อครู่สีหน้ามีความสุข “แกสวยมากจริงๆนะ ชุดนั้นเหมาะกับแกเลยบัว” ไอลดาที่นั่งอยู่ใกล้ๆชะโงกหน้ามาดูหน้าจอโทรศัพท์มือถือเพื่อนเอ่ยชมไม่ขาดปาก “แกไม่ลองส่งไปให้พี่เขาดูล่ะ อยากรู้ว่าถ้าเขาเห็นแล้วจะแจ้นมาหาเธอที่นี่แล้วขอเธอแต่งงานเลยหรือเปล่า” ปั้นแก้มพูดอย่างนึกสนุก “ไม่หรอก พี่เขาไม่ใช่คนที่จะตื่นเต้นอะไรง่ายๆ” รัญลฎาตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม พวงแก้มขาวระเรื่อขึ้นสีชมพูจางๆ ก่อนจะลองส่งรูปที่ตนเองใส่ชุดเจ้าสาวส่งไปให้เขาได้ดู หวังลึกๆอยากเห็นปฏิกิริยาหรือคำชมจากเขา รออยู่หลายนาทีข้อความดังกล่าวถึงได้ถูกเปิดอ่าน แต่กลับไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับนอกจากความนิ่งเฉยของเขาที่ทำเป็นปกติทุกครั้งที่เธอกดส่งอะไรไปให้เขาดู ร่างเล็กเผลอขบกัดริมฝีปากล่างตัวเองเบาๆ ผิดหวังซ้ำๆกับการคาดหวังลมๆแล้งๆที่ก็รู้อยู่แล้วเขาไม่เคยสนใจอะไรอยู่แล้วทุกครั้งที่เธอส่งอะไรไปหาเขา การอ่านแล้วเงียบเฉยๆไม่แสดงความคิดเห็นหรือพิมพ์อะไรตอบกลับมาถือว่าเป็นเรื่องปกติสำหรับเขา “ช่างมันเถอะ เขาอาจจะยุ่งก็ได้” ไอลดาเอ่ยปลอบเพื่อนเห็นสีหน้าของเพื่อนที่ดูซึมลงไปถนัด “อืม...แต่วันนี้เขาหยุดไม่ใช่เหรอ” คำพูดของปั้นแก้มคล้ายกระทุ้งความรู้สึก ยิ่งตอกย้ำให้รัญลฎารู้สึกแย่ลงไปอีก สายฝนที่เริ่มโปรยปรายลงมาพร้อมกับพายุที่เริ่มโหมกระหน่ำ เสียงฟ้าร้องดังลั่นๆผสานกับสายฟ้าฟาดแปลบปลาบชวนให้หวาดเสียว อุณหภูมิในร้านอาหารยิ่งหนาวเย็นขึ้นไปอีก “แล้วจะกลับยังไงละเนี่ย ฝนตกหนักแบบนี้ฉันไม่ได้เอารถมาด้วย” ปั้นแก้มบ่น สีหน้าเป็นกังวลเมื่อมองท้องฟ้าด้านนอกแล้วยิ่งรู้สึกเหนื่อยหน่าย “เดี๋ยวฉันให้พี่บีมมารับ แกจะติดรถไปด้วยกันไหม” “บ้านฉันกับเธอคนละฝั่งเลยนะลดา อย่าเลยฉันเกรงใจ...แล้วแกล่ะบัวกลับยังไง” “นั่งแท็กซี่กลับแหละ” “โอ้ยป่านนี้ จะมีรถให้เรียกเหรอ แล้วเส้นเนี่ยรถโดยสารก็ไม่ผ่านด้วย” “แกโทรบอกให้แฟนแกมารับสิ เวลาแบบนี้ควรทำหน้าที่แฟนนะ” ปั้นแก้มหันมาออกความคิดเห็นที่ทำให้รัญลฏานิ่งไปหลายวินาทีด้วยความลังเล ในส่วนลึกเธอแอบหวั่นกลัวว่าเขาจะไม่ยอม หรือยินดีที่จะมารับเธออย่างแน่นอน “อืม เดี๋ยวฉันลองโทรดู” สีหน้าหวาดหวั่นคล้ายไม่มั่นใจ ทำให้ไอลดาและปั้นแก้มแอบมองด้วยความเป็นห่วง “ฉันไปส่งก็ได้นะบัว” “อย่าเลย คนละทางกัน ฉันเกรงใจพี่บีม” เธอตอบปัดด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้มอ่อนหวานดุจเดิม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์กลับขึ้นมากดโทรหาคนรัก รอสายอยู่นานพอสมควรจนคิดจะเลิกล้มความตั้งใจ และจังหวะนั้นเขากดรับสายเธอเข้าพอดี “อืม...ว่าไง” “พี่พอร์ชคะ...ทำอะไรอยู่เหรอคะ” “มีอะไร” “ขะ....คือ...ที่นี่ฝนตกหนักมากเลยค่ะ พี่พอร์ชอยู่ที่ไหนเหรอคะตอนนี้” “แล้วมีอะไร” น้ำเสียงราบเรียบเย็นชาย้อนถามกลับทำให้เธอถึงกับนิ่งไปพูดอะไรไม่ออก จนเขาถามซ้ำด้วยน้ำเสียงเข้มดุมากขึ้นเธอจึงอ้อมแอ้มบอกเขาเสียงเบา “พี่พอร์ชมารับบัวได้ไหมคะตอนสามทุ่ม” “อืม...เดี๋ยวพี่ไป” “ค่ะ ขอบคุณนะคะงื้อ...พี่พอร์ชน่ารักที่สุดเลย เดี๋ยวบัวแชร์โลเคชั่นให้นะคะ” เสียงหวานเอ่ยอย่างกระตือรือร้น ตื้นเต้นดีใจขึ้นมาทันที “อืม” เสียงตอบรับสั้นๆดังจากในลำคอผ่านโทรศัพท์มือถือ ทำให้รอยยิ้มหวานฉีกกว้างขึ้น แววตาเป็นประกายจนเพื่อนทั้งสองถึงกับอมยิ้มขำกับท่าทีเหล่านั้น พอได้วางสายจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซว “อะไรกันยะ แกทำเหมือนกลัว เหมือนเกรงใจเขาซะงั้น ทั้งๆที่เขาเป็นแฟนแกนะเว้ย” “นั่นสิ ฉันฟังๆดูแล้ว อารมณ์แกกับพี่เขาเหมือนไม่ใช่คนเป็นแฟนคุยกันเลย แกดูกลัวๆเขายังไงก็ไม่รู้อะบัว” รัญลฎานิ่งไปทันที ก้มหน้ามองโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนตักหลังจากส่งโลเคชั่นให้คนรักเรียบร้อยแล้ว “ไม่รู้สิ เราแค่เกรงใจพี่เขา” อ้อมแอ้มตอบเสียงเบา ไม่กล้าสบตาเพื่อน “แกสวยมากนะบัว น่ารักด้วย อยู่กับเขาก็ไม่จำเป็นต้องทำตัวให้เล็กลงขนาดนี้ไหม” ไอลดามองหน้าเพื่อนด้วยความรู้สึกเป็นห่วงอย่างบอกไม่ถูก แต่ในเมื่อเพื่อนเลือกในสิ่งที่คิดว่าดีแล้วเธอก็ไม่อยากจะขวางอะไรนัก นอกจากคอยดูแลและซัพพอร์ตแบบนี้ไปเรื่อยๆอย่างที่ผ่านมา

editor-pick
Dreame - ขวัญใจบรรณาธิการ

bc

เชลยรักท่านอ๋องอำมหิต

read
15.3K
bc

คุณหนูสิบเจ็ดตระกูลเจียง

read
10.2K
bc

วิญญาณตามรัก

read
1K
bc

พะยอมอธิษฐาน

read
2.3K
bc

แม่หมอแห่งซูโจว

read
7.2K
bc

พันธะร้าย..ดวงใจรัก

read
1.9K
bc

รักต้นฉบับ(ไม่ลับ)แม่มดมนตรา

read
1K

สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป

download_iosApp Store
google icon
Google Play
Facebook