ตอนที่ 6 เด็กฝึกงาน 3

1527 คำ
“ถ้าเขาไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปบังคับเขาหรอกผมไปคนเดียวได้”ภวินทร์บอกเลขาเมื่อเห็นท่าทางของพราวฟ้าที่แสดงออกชัดว่าไม่อยากไปกับเขา “ฟ้าว่าไง นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้โชว์ฝีมือแล้วนะ”เลขารุ่นพี่กระซิบบอกพราวฟ้า “ฟ้าจะไปค่ะ ถ้าบอสไม่ว่าอะไร”พราวฟ้าครุ่นคิดและแอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนตอบทั้งสองคน เพราะเธอไม่อยากทำให้นรินผิดหวังจึงยอมตกลงไปกับเขา คนที่เธอรู้ดีแก่ใจว่าเขาไม่ชอบตัวเอง เมื่อพราวฟ้าเดินตามภวินทร์มาถึงลานจอดรถก็ต้องประหลาดใจเพราะมีแค่เธอกับภวินทร์เพียงสองคนจริงๆ เธอคิดว่าผู้บริหารระดับสูงอย่างเขาต้องมีคนขับรถให้แน่นอน แต่ปรากฎว่าเขาขับรถเอง โดยปกติแล้วถ้าต้องออกไปประชุมข้างนอกกับคนอื่นเขาจะเอารถตู้ไป แต่วันนี้เพราะเป็นเธอคนที่เขาทั้งคิดถึงทั้งไม่ชอบหน้าเขาจึงอยากขับรถไปกับเธอเพียงลำพัง “เราไปกันแค่สองคนหรอคะ” “ทำไมจะเปลี่ยนใจก็ได้นะ ผมไม่ได้ว่าอะไร” “เอ่อ ไม่เปลี่ยนใจค่ะ” “งั้นก็ขึ้นรถคงไม่ถึงขั้นต้องเปิดประตูให้เหมือนตอนขึ้นรถไปกับคนอื่นหรอกนะ” พราวฟ้าที่เริ่มชินชากับคำดูถูกดูแคลนของเขาเดินขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหน้าข้างคนขับโดยไม่พูดอะไร เธอนั่งนิ่งตลอดทางจนรถเลี้ยวเข้าบริษัทลูกค้า ตลอดการประชุมของวันนั้นพราวฟ้าทำหน้าที่เลขาแทนนรินได้เป็นอย่างดี จนภวินทร์นึกชื่นชมเธออยู่ในใจและแอบอมยิ้มอยู่หลายครั้งเมื่อหันมองเธอครั้งใดก็เห็นเธอตั้งใจทำงานอย่างขมักขเม้น วันนี้ภวินทร์ใช้เวลาประชุมร่วมสามชั่วโมงกว่าจะเสร็จก็ปาไปห้าโมงเย็นแล้ว “บอสคะถ้าเรียบร้อยแล้วฟ้าขอตัวกลับเลยนะคะ”พราวฟ้าบอกชายหนุ่มหลังออกมาจากห้องประชุมเพราะเธอตั้งใจจะกลับบ้านเอง “จะกลับเอง” “ค่ะ” “รีบไปหาใครวันนี้วันหยุดไม่ใช่เหรอ”ภวินทร์ถามเธอเพราะรู้ว่าวันนี้เป็นวันหยุดของเธอจึงไม่ต้องรีบกลับไปทำงานที่ร้าน “ค่ะ ฟ้าแค่ไม่อยากรบกวนบอส” “ทีกับคนอื่นไม่เห็นจะเกรงใจแบบนี้เห็นรีบวิ่งขึ้นรถเขาเลยไม่ใช่หรอ” “ฟ้าไม่รู้ว่าบอสกำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ ถ้าฟ้าไปเผลอทำเรื่องที่ไม่ถูกใจบอสฟ้าขอโทษนะคะ แต่ตอนนี้เวลานี้เป็นเวลาที่ฟ้าเลิกงานแล้ว เพราะฉะนั้นฟ้าจะทำอะไรจะไปไหนกับใครก็ได้ ขอตัวนะคะ”พราวฟ้ารีบเดินละจากเขาทันที “โถ่ โว้ย”ภวินทร์สบถกับตัวเอง เขาไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่คุยกันถึงเป็นแบบนี้ และยิ่งไม่เข้าใจตัวเองมากขึ้นทุกวันที่สนใจชีวิตของเธอขนาดนี้ ทั้งๆที่สมองพยายามจะลืมแต่ใจเจ้ากรรมกลับยิ่งจำ เมื่อเดินออกมาจากบริษัทพราวฟ้าก็เดินมารอรถประจำทางที่ป้าย ภวินทร์เมื่อปล่อยให้พราวฟ้ากลับบ้านแล้วก็แวะไปคุยงานต่อสักพักก่อนจะขับรถกลับ เมื่อขับมาถึงป้ายรถประจำทางยังเห็นพราวฟ้านั่งรอรถอยู่ทั้งที่ผ่านเวลามาครึ่งชั่วโมงแล้ว ภวินทร์จึงตัดสินใจขับรถไปจอดตรงหน้าเธอและลดกระจกลงเรียกเธอให้ขึ้นรถ แต่พราวฟ้าไม่ยอมลุกไปหาเขาทำให้คุณป้าที่นั่งรอรถอยู่ข้างๆบอกเธอให้ขึ้นรถไปกับเขาได้แล้วเพราะแฟนมาง้อแล้ว “แม่หนูแฟนมาง้อแล้วกลับบ้านไปกับเขาได้แล้ว เป็นผู้หญิงอย่างอลนานมันไม่ดี” “หนูไม่ใช่…” “เอาน่าจะโกรธอะไรค่อยไปคุยกันที่บ้านตอนนี้กลับบ้านไปก่อนค่อยคุยกันดีๆ”หญิงสูงวัยเดินมาจูงมือเธอให้ขึ้นรถไปกับเขา พราวฟ้าจำต้องเดินขึ้นรถอย่างขัดไม่ได้ ทำให้ภวินทร์ที่นั่งมองอยู่หลุดยิ้มออกมาที่คุณป้าบอกว่าพวกเขาสองคนเป็นแฟนกัน “ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”พราวฟ้ากล่าวขอบคุณเขาหลังจากรถของภวินทร์เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าบ้านเธอ ส่วนภวินทร์ก็นั่งนิ่งปากหนักไม่ยอมพูดกับเธอ ในขณะที่เขากำลังจะขับรถออกไปอยู่ๆก็ปวดท้องกระทันหันจนต้องเอามือกุมท้อง พราวฟ้าที่เห็นท่าทางของภวินทร์รีบถามเขาด้วยความเป็นห่วงทันที “บอสปวดท้องหรอคะ เป็นอะไรมากมั้ยคะเข้าไปนั่งพักทานยาในบ้านก่อนมั้ยคะ”ด้วยความเป็นห่วงเขาจนลืมตัวเธอจึงเผลอชวนเขาเข้าไปพักในบ้านตน “แค่กรดไหลย้อนไม่เป็นไรผมชินแล้ว” “ไม่ได้ค่ะขับรถกลับทั้งที่ไม่สบายแบบนี้มันอันตรายเข้ามาพักในบ้านก่อนค่ะ หายแล้วค่อยกลับ”พราวฟ้าเดินไปเปิดประตูรถและพาเขาเดินเข้าบ้าน “บอสนั่งพักตรงนี้ก่อนนะคะ เก่าไปหน่อยแต่อดทนอยู่ให้ดีขึ้นก่อนค่อยกลับ”พราวฟ้าบอกเขาให้นั่งพักที่โซฟาตัวเก่าแต่ดูสะอาดตาก่อนจะเดินหายไปสักพักและกลับมาพร้อมยาลดกรด “ทานยาก่อนนะคะเดี๋ยวฟ้าไปทำอะไรง่ายๆให้บอสทานรองท้องสักหน่อย” ภวินทร์ไม่พูดแต่รับยามาทานและนั่งพักรอเธอทำอาหาร เขามองไปรอบๆบ้านไม้หลังเล็กที่ถึงภายนอกจะเก่าแต่ภายในบ้านกลับสะอาดสะอ้าน ข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ก่อนจะมาสดุดตากับรูปครอบครัวของเธอที่มีพ่อแม่และพราวฟ้าสมัยมัธยม ภวินทร์ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจว่าทำไมถึงไม่มีรูปถ่ายที่เป็นปัจจุบัน “บอสทานข้าวต้มหมูร้อนๆซักหน่อยนะคะ ถึงจะไม่ใช่อาหารราคาแพงแต่ก็พอทำให้หายปวดท้องได้” “แล้วไม่ทานด้วยกันหรอ”เขาถามเธอเมื่อเห็นเธอยกข้าวต้มออกมาถ้วยเดียว “บอสทานเลยค่ะ ฟ้ายังมีงานต้องทำต่อ”เธอบอกเขาก่อนนะเดินไปนั่งทำงานรอเขาทานข้าว เมื่อภวินทร์ตักข้าวต้มเข้าปากคำแรกก็ต้องแปลกใจที่รสชาติดีมาก เขาคิดในใจว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรให้เขาแปลกใจได้ตลอดเวลาจริงๆ เขานั่งทานข้าวเงียบๆพร้อมกับมองพราวฟ้าทำงานไปด้วยอย่างเพลิดเพลินแป๊บเดียวก็ทานข้าวต้มจนเกลี้ยงชาม “ขอเข้าห้องน้ำได้มั้ย” “เชิญค่ะ อยู่ด้านนั้นนะคะ” เมื่อภวินทร์เข้าห้องน้ำเสร็จไม่เห็นพราวฟ้าอยู่ในห้องจึงเดินมาหยุดดูงานที่เธอวางเอาไว้ว่าเธอกำลังทำอะไรก็เห็นว่าเธอกำลังแปลหนังสืออยู่ ความสงสัยแล่นเข้ามาในหัวเขาอีกครั้งว่าเธอจะทำงานเยอะแยะไปทำไมกัน “บอสหายดีแล้วหรอคะ”พราวฟ้าที่พึ่งออกจากห้องครัวถามเขา “อืม” “งั้นกลับเลยมั้ยคะเดี๋ยวฟ้าไปส่ง” “ไล่?” “เปล่าค่ะ แค่เห็นว่ามันดึกแล้ว” ภวินทร์จึงจำใจต้องเดินออกมาเมื่อมองดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาเกือบสามทุ่มแล้วทั้งที่ใจยังอยากนั่งมองเธออยู่ตรงนั้นอีกหน่อย “ขอบใจสำหรับอาหารและยา” “ไม่เป็นไรค่ะเป็นสิ่งที่ฟ้าต้องทำอยู่แล้ว” “แล้วอยู่คนเดียวหรอ”อยู่ดีๆเขาก็ถามเธอขึ้นมาเพราะค่ำแล้วยังไม่เห็นใครซักคนนอกจากเธอ “ค่ะ ฟ้าส่งแค่นี้นะคะต้องรีบไปทำงานต่อ” ภวินทร์จอดรถรอจนเธอเดินเข้าบ้านไปจึงขับรถออกมา อยู่ๆเขาก็นึกเป็นห่วงเธอขึ้นมาเมื่อรู้ว่าเธออยู่ที่บ้านหลังเก่านี้คนเดียว “ไอ้คิณกูมีเรื่ิองจะถามมึงหน่อย”ภวินทร์ตัดสินใจโทรถามเพื่อนรักเพื่อให้คลายสงสัย “เออเรื่องอะไรว่ามาสิ” “เพื่อนของพอใจคนนั้น” “คนไหนอ้อน้องฟ้าน่ะหรอมีอะไร” “อืม เค้าอยู่คนเดียวหรอ” “เออสิวะนี่มึงไม่รู้หรอวะว่าพ่อแม่น้องเค้าเสียไปตั้งนานแล้ว ถึงได้ทำงานตัวเป็นเกลียวอยู่นี่ไง” ภวินทร์อึ้งกับคำตอบที่ได้รับพลางนึกย้อนไปถึงรูปภาพที่เขาเห็นเมื่อเย็นที่ถ่ายพร้อมกันสามคนพ่อแม่ลูกตอนที่เธออยู่มัธยมนั่นน่าจะเป็นรูปครอบครัวรูปสุดท้ายของเธอ “ไอ้วินทำไมเงียบ นี่มึงฟังกูอยู่รึเปล่าวะ” “ฟังอยู่” “มึงอย่าใจร้ายกับน้องเค้ามากนะโว้ย ถึงจะไม่รักไม่ชอบก็อย่าทำร้ายเธอ เท่านี้ชีวิตน้องเค้าก็เหนื่อยมากพอแล้ว มีอะไรอีกมั้ยถ้าไม่มีกูวางแล้วนะ” “อืม”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม