ตั้งแต่วันที่ภวินทร์ไปส่งพราวฟ้าที่บ้านวันนั้นเขาก็พยายามไม่พูดจาถากถางให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจอีก แม้ในใจยังมีหนึ่งคำถามที่ยังค้างคาอยากถามเธอให้กระจ่างแต่ก็ไม่อยากให้เธอรู้สึกอึดอัดใจจึงได้แต่เก็บความสงสัยนี้ไว้ในใจ พราวฟ้าเองเมื่อเห็นเขาไม่พูดประชดประชันตัวเองแล้วก็เบาใจลงอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เกลียดเธอจนถึงขั้นพูดกันดีๆไม่ได้
“วันนี้คุณจะไปที่ร้านพร้อมผมมั้ย ผมจะเข้าร้านพอดี”ภวินทร์ถามพราวฟ้าขณะที่เธอนำเอกสารมาให้เขาเซ็น
“ไม่เป็นไรค่ะฟ้าไปเองได้ ขอบคุณมากๆนะคะที่ชวน”
“ตามใจ”
…Night club…
“ฟ้าจะลาออกจริงๆหรอ”เมย์ถามพราวฟ้าหลังจากที่เธอไปแจ้งเรื่องลาออกกับก้องภพเรียบร้อยแล้ว
“ค่ะพี่เมย์ฟ้าทำงานเดือนนี้เดือนสุดท้ายแล้วค่ะ ตอนนี้ฟ้าเรียนใกล้จบแล้วเริ่มมีบริษัทเรียกไปสัมภาษณ์งานบ้างแล้วค่ะ”
เมย์ดึงพราวฟ้าเข้าไปกอดดีใจกับน้องสาวคนเก่งคนนี้ที่อดทนส่งตัวเองเรียนจนจบ
“พี่ดีใจด้วยนะฟ้าในที่สุดวันนี้ก็มาถึง พี่ขอให้ชีวิตต่อจากนี้ของฟ้ามีแต่ความสุขนะ ขอให้กลับมามีโลกที่สดใสอีกครั้งนะ”เมย์พูดไปน้ำตาก็ไหลไปด้วยความตื้นตันใจ
“ฟ้าก็ต้องขอบคุณพี่เมย์กับคุณป้ามากๆนะคะที่ดูแลฟ้าเป็นอย่างดีเหมือนญาติคนนึง”
“เด็กโง่เราเป็นน้องพี่นะอยู่กันมาขนาดนี้พี่ก็รักเหมือนน้องสาวแท้ๆคนนึง มีอะไรให้พี่ช่วยบอกพี่ได้ตลอดเลยนะ”
“น่าเสียดายเหมือนกัน”ก้องภพบ่นไปพลางมองพราวฟ้าทำงานไป
“เสียดายอะไรของมึงวะไอ้ก้อง”ภวินทร์ที่พึ่งเดินเข้ามาในร้านถามเพื่อนรัก
“ก็น้องฟ้าคนสวยน่ะสิจะลาออกสิ้นเดือนนี้แล้ว”
“ลาออก”
“อืม เห็นว่าจะเรียนจบแล้วเลยอยากไปหางานทำ”
ภวินทร์แอบน้อยใจที่เธอมีอะไรไม่เคยบอกเขาเลยเป็นเขาที่ต้องรู้คนสุดท้ายตลอด ขนาดทำงานด้วยกันแทบทุกวันเธอยังไม่เคยปริปากบอกเขาซักคำ
“ไอ้วินเป็นอะไรวะเงียบไปเลย มึงก็เสียดายเหมือนกูใช่มั้ย”
“เฉยๆ”ภวินทร์ตอบเพื่อนรักด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“แต่คิดไปคิดมาก็ดีแล้วแหละเพราะน้องมันไม่มีจริตมารยาอะไรเลย มาทำงานก็ทำแต่งานอย่างเดียว ไม่หาเงินทางอื่นเลย”
“ยังไงวะ”
“ก็ใครรุ่มร่ามจับแขนจับมือ เขาจะชวนไปต่อก็ไม่เคยเล่นด้วยเลย บอกตามตรงบางทีกูก็สงสารน้องเค้า ยิ่งน้องไม่พูดมีอะไรก็เก็บไว้คนเดียวกูก็ยิ่งเป็นห่วง”
“นี่หลงเสน่ห์เข้าแล้ว”ภวินทร์เลิกคิ้วถามเพื่อน
“กูก็แค่เอ็นดู”
“หึ หว่านเสน่ห์เก่งมิน่ามีแต่คนหลง”แม้เขาจะรู้สึกดีกับเธอมากแต่พอนึกถึงวันที่เธอขึ้นรถไปกับผู้ชายความขุ่นเคืองภายในใจก็ปะทุขึ้นมาอีกครั้ง
คืนนั้นภวินทร์ตั้งใจรอกลับบ้านพร้อมพราวฟ้า เขารอเวลาจนเธอเลิกงานและเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ถึงขับรถออกไปเพื่อรับเธอกลับบ้าน
“ขึ้นรถเดี๋ยวไปส่ง”ภวินทร์เลื่อนกระจกรถลงและเรียกพราวฟ้าให้ขึ้นรถ
“ฟ้ากลับเองได้ค่ะ ไม่รบกวนคุณวินดีกว่าค่ะ”
“มีเรื่องจะคุยด้วยขึ้นรถ”
เมื่อได้ยินเขาบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยพราวฟ้าจึงจำต้องเดินขึ้นรถไปกับเขา
“จะลาออกจาก Night club แล้วหรอ”
“ค่ะ ออกสิ้นเดือน”
“ทำไม”
“ตอนนี้ฟ้ามีรายได้จากงานแปลหนังสือเพียงพอที่จะใช้ชีวิตในแต่ละเดือนแล้ว เดือนหน้าก็จะเรียนจบแล้วรายจ่ายก็ลดลง จะได้มีเวลาไปหาสมัครงานประจำทำด้วยค่ะ”
“ไม่ใช่ว่ามีใครเลี้ยง”
“ไม่มีใครเลี้ยงทั้งนั้นแหละค่ะฟ้าดูแลตัวเอง คุณคิดว่าการที่ต้องนอนวันละสามสี่ชั่วโมงทุกวันมันสนุกหรอคะ ฟ้าเหนื่อยฟ้าแค่อยากพักอยากใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปบ้างมันไม่ได้เลยหรอคะ ถ้าคุณไม่มีอะไรจะถามแล้วจอดรถให้ฟ้าลงตรงนี้ก็ได้ค่ะ” พราวฟ้าน้อยใจที่เขายังคงคิดว่าเธอมีคนเลี้ยงดูจึงเผลอขึ้นเสียงใส่เขา จนสงบสติอารมณ์ของตัวเองได้จึงขอโทษเขา
“ฟ้าขอโทษค่ะ คงเหนื่อยมากไปหน่อยคุณจอดข้างหน้านี้แหละค่ะเดี๋ยวฟ้ากลับเอง”
ภวินทร์เห็นน้ำตาที่คลอเต็มสองลูกตาของหญิงสาวก็อดหวั่นไหวไม่ได้ ความรู้สึกผิดแล่นเข้ามาในหัว เค้าอยากดึงเธอเข้ามากอดปลอบและขอโทษที่พูดไม่ดีกับเธอ แต่ด้วยความปากหนักจึงทำได้เพียงนั่งนิ่ง
“เดี๋ยวไปส่ง”เขาตอบเธอเสียงเรียบ
“ไม่เป็นไรค่ะปล่อยฟ้าลงตรงนี้แหละ ฟ้าขอร้องนะคะฟ้าอยากอยู่คนเดียว”เธอหันไปบอกชายหนุ่มพร้อมกับดวงตาที่เอ่อล้นไปด้วยน้ำตาและความเหนื่อยล้า
ภวินทร์เมื่อเห็นเธอยืนยันหนักแน่นจึงยอมปล่อยเธอลง แต่จอดรถรอจนเธอขึ้นรถประจำทางและขับรถตามไปจนพราวฟ้าลงมาจากรถและเดินเข้าซอยบ้าน ภวินทร์ขับรถตามหลังเธอช้าๆเพื่อมาส่งจนถึงบ้านและรอจนพราวฟ้าเข้าเดินบ้านไป เขานั่งมองบ้านเธอพลางปล่อยตัวปล่อยใจคิดถึงเรื่องของเธออยู่นานก่อนจะขับรถออกไป ตอนนี้ในสมองของเขาตีกันไปหมดไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ ใจหนึ่งก็อยากใกล้ชิดอยากทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ ใจหนึ่งก็สับสนนึกโทษเธอว่าทำไมถึงต้องไปกับผู้ชายด้วย แต่เมื่อนึกถึงแววตาเศร้าปนเสียใจของเธอก็ทำให้เขาลังเลใจว่าสิ่งที่เขาเห็นวันนั้นเขาเข้าใจเธอผิดไปเองหรือไม่ หลังจากทะเลาะกับความรู้สึกตัวเองอยู่นานภวินทร์ตัดสินใจที่จะลองทำความรู้จักกับผู้หญิงที่เข้ามาปั่นป่วนในใจเขาตลอดช่วงสองเดือนมานี้ดูสักครั้ง แต่ปัญหาติดอยู่ตรงที่เขาพูดไม่ดีกับเธอไว้เยอะจึงคิดไม่ออกว่าจะควรเริ่มต้นยังไงดี
“ฟ้าพี่มีอะไรจะรบกวนหน่อย”นรินเลขารุ่นพี่ถามพราวฟ้าขณะนั่งทำงานอยู่
“พี่รินจะให้ฟ้าทำอะไรบอกมาได้เลยค่ะ”
“พี่จะรบกวนให้ฟ้าเอาเอกสารไปให้บอสเซ็นที่บ้านหน่อย วันนี้บอสไม่เข้าบริษัทพี่ต้องใช้เอกสารด่วน วันนี้งานยุ่งมากพี่ปลีกตัวไปไหนไม่ได้เลยไปกับรถตู้บริษัทได้มั้ยจ๊ะ”
“เอ่อ ก็ได้ค่ะ”
พราวฟ้านั่งรถตู้มากับคนขับรถของบริษัทสองคนใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงบ้านของภวินทร์ ทันทีที่รถเลี้ยวเข้ามาในตัวบ้านพราวฟ้าก็ใจเต้นแรง จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนทำให้เธอยังไม่ค่อยพร้อมที่จะเจอหน้าเขาเท่าไหร่แต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกนี้ไว้ได้แต่บอกตัวเองว่ามันคือหน้าที่
พราวฟ้ายืนสูดลมหายใจเฮือกใหญ่เข้าเต็มปอดเรียกความมั่นใจให้ตัวเองก่อนจะเดินไปกดกริ่งรอเขาอยู่หน้าประตูบ้าน
บ้านของภวินทร์เป็นบ้านโมเดิร์นสองชั้นสีขาว หลังไม่ใหญ่นักแต่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบแต่หรู ทุกอย่างถูกออกแบบมาให้เป็นโทนเดียวกันตั้งแต่รั้วบ้าน สวนและตัวบ้าน ทำให้มองดูแล้วสบายตาและน่าหลงใหล