พราวฟ้าเดินไปกดกริ่งที่ประตูบ้านและยืนรอซักพักภวินทร์ในชุดนอนก็เดินออกมาเปิดประตูให้เธอพร้อมกับสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
“เข้ามาข้างในก่อนสิ”
ภวินทร์พาพราวฟ้าเดินไปนั่งที่ห้องรับแขกและรีบเซ็นเอกสารโดยไม่อ่านรายละเอียดข้างในเลย
“บอสจะให้ฟ้าอ่านรายละเอียดให้ฟังมั้ยคะ”พราวฟ้าถามเขาเมื่อเห็นว่าเขาไม่สนใจอ่านเอกสารสักนิด
“อยากอ่านก็อ่านสิ”
พราวฟ้าก้มลงอ่านเอกสารให้ผู้เป็นนายฟังเพราะไม่อยากให้เขาเซ็นเอกสารไปโดยไม่รู้รายละเอียด พราวฟ้าเงยหน้าขึ้นมาหาภวินทร์หลังอ่านเอกสารจบก็พบว่าเขานั่งหลับไปแล้วจึงพยายามเรียกแต่เรียกเท่าไหร่เขาก็ไม่ตื่น เธอเห็นเขานอนหน้าแดงและหายใจแรงจึงถือวิสาสะเดินเข้าไปหาและเอามือแตะหน้าผากเขาพราวฟ้าถึงกับสะดุ้งเมื่อพบว่าหน้าผากของเขาร้อนเป็นไฟ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นรินโทรมาพอดี
“ฮัลโหลค่ะพี่ริน เอกสารบอสเซ็นเสร็จแล้วค่ะฟ้าจะรีบไปเดี๋ยวนี้ค่ะ”
พราวฟ้ารีบเดินขึ้นรถทันทีที่วางสายเพราะนรินโทรมาตามแล้ว ขณะที่คนขับรถกำลังจะเลี้ยวรถออกจากประตูบ้านเธอก็ตัดสินใจไม่กลับไปกับคนขับรถ รีบบอกให้เขาเอาเอกสารไปให้นริน และโทรบอก นรินว่าบอสไม่สบายขอเธออยู่ดูบอสสักพักก่อนถึงจะกลับบริษัท นรินจึงให้เธออยู่เป็นเพื่อนบอสเลยวันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทแล้ว เพราะนรินรู้ว่าบอสอยู่บ้านคนเดียวเมื่อรู้ข่าวว่าไม่สบายก็เป็นห่วงบอสเหมือนกัน
เมื่อวางสายจากนรินแล้วพราวฟ้ารีบเดินเข้าบ้านไปดูอาการของภวินทร์ทันที เธอถือวิสาสะเดินสำรวจบ้านเขาเพื่อหาผ้ามาเช็ดตัวให้เขา พราวฟ้าจับภวินทร์นอนลงบนโซฟาอย่างเบามือที่สุดและเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้เขาเพื่อลดไข้ เธอนั่งเช็ดตัวเฝ้าไข้เขาอยู่อย่างนั้นเป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงก่อนที่ภวินทร์จะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา
“บอสตื่นแล้วหรอคะ”พราวฟ้าถามเขาพร้อมกับเอามืออังหน้าผากเพื่อเช็คว่าไข้ลดลงหรือยังอย่างลืมตัว
“เฮ้อ ค่อยยังชั่ว”เธอถอนหายใจโล่งอกเมื่อตัวเขาไม่ร้อนมากเหมือนเมื่อเช้าแล้ว
ภวินทร์ที่นอนนิ่งเพราะพิษไข้อยู่หัวใจเต้นแรงไม่เป็นจังหวะเมื่อเห็นเธอคอยเช็ดตัวและเฝ้าไข้ตัวเองไม่ห่าง
“ก่อนฟ้ามาบอสทานอะไรรึยังคะ”
“ยัง”
“ฟ้าขออนุญาตเข้าครัวไปทำอาหารให้ทานนะคะ ทานข้าวเสร็จจะได้ทานยา”
ภวินทร์ไม่ตอบแต่พยักหน้าเป็นการอนุญาต พราวฟ้าเช็คดูวัตถุดิบในตู้เย็นเห็นมีแตงกวาและหมูสับอยู่จึงตั้งใจจะทำต้มจืดแตงกวายัดไส้หมูสับให้เขาทานจะได้ซดน้ำร้อนๆ ระหว่างที่พราวฟ้าง่วนกับการทำอาหารอยู่ในครัวภวินทร์ที่อาการดีขึ้นบ้างแล้วลุกขึ้นมานั่งทำงานต่อแต่กลับไม่มีสมาธิทำงานเลยเพราะมัวแต่คิดถึงภาพที่พราวฟ้าดูแลตัวเองอยู่จนเผลอยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อพราวฟ้าทำอาหารเสร็จแล้วและยกมาเตรียมไว้ให้เขาที่โต๊ะอาหารแล้วจึงเดินมาตามภวินทร์ให้ไปทานข้าว
“บอสคะอาหารเสร็จแล้วค่ะ บอสยังไม่หายเลยทำไมไม่นอนพักล่ะคะมานั่งทำงานแบบนี้เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีกหรอกค่ะ”พราวฟ้าลืมตัวเผลอดุเขา ภวินทร์ที่นั่งทำงานอยู่ถึงกับตกใจรีบปิดโน้ตบุ๊คทันทีและนั่งจ้องหน้าเธอนิ่งก่อนที่พราวฟ้าจะได้สติและขอโทษที่ดุเขา
“เอ่อ ฟ้าขอโทษค่ะ”
ภวินทร์ไม่ตอบแต่เดินตรงไปที่โต๊ะอาหารพลางเผลอหลุดอมยิ้มเอ็นดูในความน่ารักของเธอ เขาเองไม่เคยเห็นเธอในมุมนี้เลยได้แต่คิดในใจว่าน่ารักดี เขานั่งลงทานข้าวฝีมือเธออย่างเอร็ดอร่อยจนดูไม่เหมือนคนป่วยเลยสักนิด
“ยาค่ะ”พราวฟ้าส่งยาให้เขารับไปทานหลังจากทานข้าวเสร็จแล้ว ภวินทร์มองยาในมือเธอนิ่งไม่ยอมหยิบมากิน
“ไม่กินได้มั้ย หายแล้ว”เมื่อได้ยินเขาพูดดังนั้นพราวฟ้าก็รู้ได้ในทันทีว่าเขาต้องไม่ชอบทานยามาก
“ต้องทานค่ะ ตอนนี้คุณแค่ดีขึ้นแต่ยังไม่หาย”เมื่อได้ยินเธอยืนยันเสียงแข็ง ภวินทร์จึงจำใจต้องรับยามาทานอย่างเลี่ยงไม่ได้ พราวฟ้ายืนมองท่าทางของเขาและหลุดยิ้มออกมา เธอไม่คิดว่าคนตัวโตอย่างเขาจะไม่ชอบทานยาได้ขนาดนี้
“กินแล้วพอใจยัง”ภวินทร์เงยหน้าบอกเธอก็เห็นเธอยืนยิ้มอยู่ นี่เป็นครั้งแรกตั้งแต่รู้จักกันที่เขาเห็นเธอยิ้มทั้งดวงตาและใบหน้า เขาจ้องมองใบหน้าที่สดใสนี้ก่อนจะบอกขอบคุณเธอ
“ขอบใจนะที่อยู่เป็นเพื่อน แล้วก็ขอโทษเรื่องเมื่อคืนด้วย”
“เรื่องอะไรคะฟ้าลืมไปหมดแล้ว ถ้าบอสอิ่มแล้วฟ้าขอตัวไปล้างจานก่อนนะคะ”เธอบอกเขาและรีบเก็บจานเดินเข้าครัวไป เพราะไม่อยากให้เขาเห็นใบหน้าที่แดงก่ำของตัวเอง พราวฟ้าไม่เข้าใจตัวเองว่าทำไมถึงใจเต้นแรงและหน้าแดงขนาดนี้แค่เขาบอกขอโทษเอง
ภวินทร์ที่นั่งรอหญิงสาวล้างจานอยู่ก็แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ยอมกินยาตามคำสั่งเธออย่างว่าง่ายทั้งที่เกลียดการกินยามากที่สุด
“ถ้าบอสดีขึ้นแล้วงั้นฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ”พราวฟ้าบอกภวินทร์หลังเดินออกมาจากห้องครัว
“เดี๋ยว”
“คะ”
“ช่วยพิมพ์งานให้ผมหน่อย”
“ค่ะ”
ภวินทร์เดินไปหยิบโน้ตบุ๊คและเอกสารมาให้พราวฟ้าและทำเป็นนอนพักบนโซฟาแต่สายตาจดจ้องไปที่เธอตลอดเวลา พลางคิดไปว่าต้องขอบคุณเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปเมื่อคืนทำให้วันนี้เขาได้มีโอกาสอยู่กับเธอ เมื่อคืนหลังกลับจากบ้านพราวฟ้าเขานอนไม่หลับคิดมากเรื่องของเธอจนต้องดื่มเหล้าย้อมใจเพื่อให้นอนหลับแต่พอตื่นมากลับไม่สบายจนต้องหยุดงานแบบนี้
“เรียบร้อยแล้วค่ะ”พราวฟ้าบอกภวินทร์แต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากเขา เธอจึงละสายตาจากเอกสารหันไปมองเขาพบว่าเขานอนหลับอยู่ เธอกลัวว่าไข้เขาจะกลับมาอีกจึงเดินไปหาและเอามือแตะหน้าผากเขา
“ตัวร้อนอีกแล้วหรอเนี่ย”ด้วยความเป็นห่วงเธอจึงรีบเอาผ้าชุบน้ำมามาเช็ดตัวให้เขาอีกรอบ พราวฟ้านั่งเฝ้าภวินทร์อยู่ข้างโซฟาจนเผลอหลับไป
ภวินทร์ที่อาการดีขึ้นมากแล้วลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีดำแล้ว แต่เขายังเห็นพราวฟ้านั่งหลับอยู่ตรงนี้ข้างๆตัวเองก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ พร้อมกับยื่นมือไปลูบหัวเธอเบาๆ
“ขอบคุณนะที่ไม่หนีกลับก่อน”เขาพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะลุกขึ้นไปอุ้มพราวฟ้าให้ขึ้นมานอนบนโซฟา ส่วนเขาก็จัดการโทรไปลางานที่ Night club ให้เธอและสั่งอาหารมารอเพราะกลัวว่าหลังจากเธอตื่นนอนแล้วจะหิว
พราวฟ้างัวเงียตื่นและรีบลุกขึ้นนั่งทันทีเมื่อมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นว่าฟ้ามืดแล้ว
“คุณวินคะฟ้ากลับก่อนนะคะต้องรีบไปทำงาน”เธอดีดตัวลุกขึ้นและเดินไปเก็บกระเป๋าเตรียมตัวออกจากบ้านแต่โดนภวินทร์ดึงแขนเอาไว้
“ลางานให้แล้ว บอกว่าวันนี้อยู่ทำโอทีให้ผม ไม่ต้องรีบแล้ว ไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะได้มาทานข้าว สั่งอาหารมาให้แล้ว ตั้งแต่เที่ยงยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ”ภวินทร์พูดพร้อมทั้งจูงมือเธอออกจากห้องนั่งเล่นเดินตรงไปห้องน้ำ ส่วนพราวฟ้าตอนนี้ทำตัวไม่ถูกอึ้งกับการกระทำของเขาได้แต่เดินตามเขาไปเงียบๆ