ตอนที่ 9 ทำงานนอกสถานที่

1397 คำ
ระหว่างรอเธอล้างหน้าล้างตาเขาก็ไปเตรียมผ้าสำหรับเช็ดหน้าให้เธอ เมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำภวินทร์ที่ยืนรออยู่จึงยื่นผ้าให้เธอ “ขอบคุณค่ะ” “ไปกินข้าวกัน” เป็นอีกครั้งที่ภวินทร์จูงมือเธอเดินเพื่อไปที่โต๊ะอาหาร พราวฟ้ามองอาหารมากมายเต็มโต๊ะและนั่งลงทานข้าวเงียบๆ ส่วนภวินทร์ก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ “ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วต้องทานยาอีกรอบนะคะ ไม่งั้นกลางคืนไข้จะกลับมาอีก” “อืม”เขาตอบรับเธอสั้นๆอย่างว่าง่ายโดยไม่บ่นสักคำ “ยอมทานยาง่ายๆแล้วหรอคะ”พราวฟ้าถามด้วยความประหลาดใจ “อืม” หลังจัดการให้ภวินทร์ทานยาเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขอตัวกลับบ้าน “ดึกแล้วฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ” “เดี๋ยวผมไปส่ง” “ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไม่หายป่วย ฟ้ากลับเองได้ค่ะ” “ไม่ได้ ถ้าไม่ให้ไปส่งก็นอนที่นี่”เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่งจ้องตากัน “เอ่อ ผมหมายถึงนอนห้องนอนแขก พรุ่งนี้ผมมีธุระต้องพาคุณออกไปข้างนอกด้วย” “เดี๋ยวตอนเช้าฟ้ารีบมาเลยค่ะ” “คือผมยังไม่หายดี คุณอยู่เป็นเพื่อนผมได้มั้ย” “คุณวิน”เมื่อได้ยินคำขอร้องของเขาพราวฟ้าก็ใจอ่อน “ได้มั้ย” “แต่ฟ้าไม่มีชุดเปลี่ยน” ภวินทร์หยิบชุดที่เตรียมไว้ให้เธอตั้งแต่ช่วงเย็นตอนเธอนอนหลับขึ้นมา “ผมสั่งมาไว้ให้แล้ว ขอแค่คุณตกลง” “เอ่อ…ก็ได้ค่ะ” “คุณไม่ต้องห่วงวันนี้ที่อยู่เป็นเพื่อนผม ผมจะจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาให้” “ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้าไม่ได้ทำไปเพราะเงิน” ภวินทร์ยิ้มให้กับคำตอบของเธอก่อนจะเดินนำพราวฟ้าขึ้นไปที่ห้องนอนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของเขา คืนนั้นทั้งสองคนนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาคิดถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ความรู้สึกประหลาดแล่นเข้ามาในหัวใจ แค่คิดถึงใบหน้า แววตาและรอยยิ้มของกันและกันใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ทั้งคู่ได้แต่สับสนว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่ เช้าวันรุ่งขึ้นพราวฟ้าตื่นนอนแต่เช้าลงมาทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้เขาก่อนขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ภวินทร์เมื่อตื่นนอนและจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วลงมารอพราวฟ้าข้างล่าง เขาเดินผ่านโต๊ะอาหารเห็นมีอาหารวางอยู่บนโต๊ะหนึ่งชุด จึงเดินไปดูในครัวด้วยความแปลกใจ เขาเห็นมีอาหารวางอยู่ในครัวอีกชุดจึงเข้าใจแล้วว่าที่อยู่บนโต๊ะอาหารคือที่พราวฟ้าเตรียมไว้ให้เขา ส่วนที่อยู่ในครัวเธอน่าจะเตรียมไว้ให้ตัวเอง ภวินทร์จึงหยิบอาหารอีกชุดมาวางไว้บนโต๊ะข้างกัน “เสร็จแล้วหรอมาทานข้าวสิ” “คุณทานเลยค่ะเดี๋ยวฟ้าไปทานในครัว” “ทานด้วยกันตรงนี้ ผมหยิบมาแล้ว”เมื่อเห็นอาหารอีกชุดถูกยกจากครัวมาไว้บนโต๊ะทานข้าวพราวฟ้าจึงจำต้องเดินลงมานั่งตรงข้ามเขาและเลื่อนจานอาหารไปไว้ตรงหน้าตัวเองพร้อมกับนั่งทานข้าวเงียบๆ “ทำอาหารเก่งเหมือนกันนะ”อยู่ๆภวินทร์ก็ชมเธอขึ้นมา “ทำได้แค่อาหารธรรมดาแบบนี้ค่ะ ถ้าอาหารหรูๆฟ้าทำไม่เป็น”พราวฟ้าพูดพร้อมทั้งก้มลงมองอาหารเช้าตรงหน้าที่มีข้าวผัด ไข่ดาวและไส้กรอก “ผมชอบ อร่อยดี” คำพูดสั้นๆของภวินทร์ทำให้หัวใจของคนฟังพองโตด้วยความดีใจ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำชมจากปากเขา “ขอบคุณค่ะ”พราวฟ้ากล่าวขอบคุณเขาและก้มหน้าทานข้าวต่อ ภวินทร์ที่เห็นท่าทางเขินอายของคนตรงหน้าก็อมยิ้มพลางคิดในใจว่าน่ารักดี “หายปวดหัวรึยังคะ” “หายแล้ว” “แน่ใจนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินยา” “แน่ เห็นผมเป็นคนชอบโกหกหรอ” “ป่าวค่ะ ฟ้าแค่ถามให้แน่ใจเพราะคิดว่าแถวนี้น่าจะมีคนไม่ชอบกินยา” “รู้ทัน” “แล้ววันนี้เราต้องไปที่ไหนกันคะ” “ไปดูสถานที่ถ่ายโฆษณา”ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเขาและค่อนข้างเรื่องมากภวินทร์จึงอยากไปดูสถานที่ด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด ภวินทร์ขับรถมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงก็มาถึงบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ริมน้ำ รอบๆบริเวณบ้านถูกจัดเป็นสวนด้วยต้นไม้และไม้ประดับอย่างสวยงาม เมื่อทั้งสองคนก้าวขาลงจากรถก็มีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งเดินออกมาต้อนรับทั้งสองคน “คุณลุงคุณป้าสวัสดีครับ”ภวินทร์ทักทายทั้งสองคน “สวัสดีๆ มากันเหนื่อยๆเข้าบ้านไปดื่มน้ำดื่มท่าก่อนป้าเตรียมน้ำเย็นๆมาไว้ให้แล้ว”เมื่อทั้งคู่เข้าไปนั่งพักบนบ้าน ป้าดาผู้เป็นเจ้าของบ้านก็นำน้ำลอยดอกมะลิและสาคูไส้หมูมาให้ผู้มาเยือนทาน “น่าทานจังเลยค่ะคุณป้า” “ลองทานดูนะลูก ป้าทำเองเลยนะ” “ชื่นใจจังค่ะ สาคูก็อร่อยมาก”พราวฟ้าบอกป้าดาหลังจากดื่มน้ำลอยดอกมะลิเย็นๆหอมๆชื่นใจและชิมสาคูไส้หมูที่มีหลากหลายสีสัน “อร่อยก็ทานเยอะๆเลย ในครัวยังมีอีกเยอะ” “คุณวินลองทานดูสิคะอร่อยมาก”พราวฟ้าหันไปบอกภวินทร์พร้อมรอยยิ้มสดใส ทำเอาคนตัวโตที่นั่งข้างๆถึงกับหัวใจเต้นแรง หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วลุงศักดิ์ก็พา ภวินทร์และพราวฟ้าไปเดินดูรอบๆบ้าน บ้านเรือนไทยหลังนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ด้านนึงของบ้านอยู่ติดกับคลองน้ำมีศาลาริมน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มองออกไปในน้ำเห็นดอกบัวสีขาวและชมพูอยู่บนผิวน้ำแถมยังมีสะพานไม้ข้ามคลองไปยังสวนผลไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยซึ่งพื้นที่บ้านและสวนผลไม้ทั้งหมดนี่ล้วนแล้วแต่เป็นของป้าดาและลุงศักดิ์ทั้งหมด “สวยมากเลยค่ะ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด” “ชอบหรอ”ภวินทร์ถามพราวฟ้า พราวฟ้าไม่ตอบแต่ยิ้มให้เขาและพยักหน้ารับ ทั้งสามคนใช้เวลาเดินดูพื้นที่โดยรอบร่วมสองชั่วโมง ภวินทร์และพราวฟ้าจดบันทึกข้อมูลและถ่ายรูปพื้นที่ที่จะใช้ถ่ายทำโฆษณาไว้อย่างละเอียดเพื่อเก็บไว้ใช้นำเสนองาน “น่าจะได้ข้อมูลเยอะพอสมควรแล้ว กลับไปพักกันก่อนดีกว่าครับ”ภวินทร์หันไปบอกเจ้าของบ้านและพราวฟ้า เมื่อทั้งสามคนกลับเข้ามาในบ้านก็เห็นอาหารเที่ยงวางรออยู่ก่อนแล้ว แค่มองด้วยตาก็รู้ว่าอาหารแต่ละอย่างถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันและอาหารแต่ละชนิดล้วนเป็นอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากมากในสมัยนี้มีทั้งข้าวแช่ หมูสร่ง แกงคั่วหัวตาลกุ้งสดและยำทวาย ปิดท้ายด้วยแตงโมปลาป่น พราวฟ้ายืนตาโตมองอาหารและหันไปถามป้าดาด้วยความตะลึง “คุณป้าทำเองหมดนี่เลยหรอคะ” “จ้า”ป้าดาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูกับท่าทางน่ารักของสาวน้อย “ป้าเขาถนัดมากๆเรื่องอาหารไทยต้องยกให้คนนี้ ทำอร่อยทุกอย่าง”ลุงศักดิ์ชื่นชมภรรยาให้ทุกคนฟัง “คุณป้าเก่งจังเลยค่ะฟ้าอยากทำได้แบบนี้บ้าง บ่ายนี้คุณป้าสอนฟ้าสักเมนูได้มั้ยคะ”พราวฟ้าถามด้วยแววตาเป็นประกาย “ได้สิ ทานข้าวเที่ยงให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวป้าสอนให้ ว่าแต่ไม่รีบกลับกันใช่มั้ย”พราวฟ้าที่ลืมคิดเรื่องนี้จึงหันไปมองหน้าภวินทร์เพื่อขอคำตอบ “ไม่รีบครับ”ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากเขาพราวฟ้าก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ “มาๆๆทานข้าวกันได้แล้วนี่ก็จะบ่ายโมงแล้ว เดี๋ยวได้กินข้าวเที่ยงพร้อมข้าวเย็นกันพอดี”ลุงศักดิ์บอกทุกคน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม