ตอนที่ 10 ทำงานนอกสถานที่ 2

1482 คำ
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จป้าดากับพราวฟ้าจึงเข้าครัวเพื่อเรียนทำอาหาร “อยากทำอะไรเป็นพิเศษมั้ยจ๊ะลูก”ป้าดาถามพราวฟ้า “ฟ้าเห็นมีดอกบัวอยู่ในคลองหลังบ้านเต็มเลยค่ะเราเอามาทำเมี่ยงคำกลีบบัวได้มั้ยคะ” “ได้สิลูกแต่ใช้เวลาทำนานหน่อยนะหนูไหวมั้ย” “ไหวค่ะ ฟ้าอยากลองทำมานานแล้วค่ะวันนี้มีโอกาสแล้วจะตั้งเรียนให้เต็มที่เลยค่ะ” “อืม ดีๆๆ ป้าชอบคนใฝ่รู้ มาเริ่มกันเลย แต่ก่อนอื่นต้องไปเก็บดอกบัวมาก่อน เดี๋ยวป้าให้ลุงไปเก็บให้” “ผมไปเก็บให้เองครับ”ภวินทร์ที่พึ่งเดินเข้าครัวมาบอกทั้งสองคน “ขอฟ้าไปด้วยนะคะ” “งั้นก็ไปทั้งสองคนนั่นล่ะ ให้ลุงไปเป็นเพื่อนด้วย ส่วนป้าจะเตรียมของรออยู่ที่นี่” เมื่อทั้งสามมาถึงคลองหลังบ้านภวินทร์ก็อาสาเป็นคนพายเรือเองเพราะอยากลอง ภวินทร์ลงไปนั่งบนเรือเป็นคนแรกตามด้วยพราวฟ้า ระหว่างยื่นขาลงไปบนเรือเธอเกิดเสียหลักล้มลงไปนั่งทับบนตักของภวินทร์พอดี สองมือโอบรอบคอเขาโดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ส่วนภวินทร์ก็โอบเอวสาวน้อยไว้แน่นทั้งคู่มองหน้ากันใจเต้นแรง หน้าแดงหูแดงไปหมดก่อนที่พราวฟ้าจะตั้งสติได้รีบพยุงตัวลุกจากตักเขา “ฟ้าขอโทษค่ะ”พราวฟ้าขอโทษเขาพร้อมกับพยายามลุกออกจากตักเขาอย่างทุลักทุเล “ระวังกันหน่อยนะลูกเดี๋ยวจะตกน้ำตกท่าเอา” “ค่ะคุณลุง” “คุณลุงรอที่ท่าน้ำก็ได้ครับ เผื่อตกน้ำจะลำบากคุณลุงเปล่าๆ คุณว่ายน้ำเป็นมั้ย”ภวินทร์บอกลุงศักดิ์ก่อนหันหน้าไปถามหญิงสาว “พอได้ค่ะ” “เอางั้นเหรอ ว่าแต่พ่อหนุ่มพายเรือเป็นมั้ย” “ไม่เคยพายครับแต่อยากลองดู” “คุณวิน นี่คุณพาฟ้าลงมาเสี่ยงตายหรอคะ” “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง”ภวินทร์ตอบพราวฟ้าแบบไม่ค่อยมั่นใจนัก ทำเอาทั้งสามคนหลุดขำพร้อมกัน เพราะเขาแค่อยากลองพายแต่ไม่แน่ใจว่าจะพายได้มั้ย “เหอะๆๆ พ่อหนุ่มนี่สงสัยอยากพายเรือให้แฟนนั่ง เอาๆตามสบายเลยลุงจะคอยดูอยู่ตรงนี้แหละไม่ต้องห่วง” “เราไม่ได้…”พราวฟ้ากำลังจะปฏิเสธลุงศักดิ์ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นแฟนกันแต่โดนภวินทร์ชิงพูดตัดหน้าไปซะก่อนพราวฟ้าจึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย เธอคิดในใจว่าค่อยหาโอกาสบอกคุณลุงอีกทีก็ได้ “ลุงคอยดูฝีมือผมได้เลยครับ คุณพร้อมแล้วใช่มั้ย” “พร้อมก็ได้ค่ะ”เธอตอบเขาแบบไม่มั่นใจนัก ภวินทร์จ้วงฝีพายลงไปในน้ำซ้ายทีขวาทีไม่เป็นจังหวะจนทำให้เรือหมุนเป็นวงกลม “ฮ่าๆๆๆ ทำไมมันหมุนอย่างนั้นล่ะพ่อหนุ่ม เอาใหม่ๆมาลุงจะสอนให้ ค่อยๆจ้วงไม้พายลงไปแล้วงัดออกทางด้านข้างแบบนี้ ไหนลองทำตามลุงสิ”ลุงศักดิ์หยิบไม้พายมาลองทำท่าพายให้ภวินทร์ดูเป็นท่าทางประกอบ ภวินทร์ทำตามที่ลุงศักดิ์บอกจากเรือที่หมุนอยู่ก็ค่อยๆเคลื่อนที่ไปข้างหน้าเป็นเส้นตรงขึ้น ส่วนพราวฟ้าได้แต่นั่งอมยิ้มมองชายหนุ่มตรงหน้าหัดพายเรือ “ยิ้มอะไร กำลังหัวเราะเยาะผมอยู่ใช่มั้ย นี่แหนะ”ภวินทร์ถามพราวฟ้าที่นั่งยิ่มอยู่พลางวิดน้ำใส่เธอที่เธอแอบหัวเราะเขาในใจ “คุณวินพอแล้วค่ะ ฟ้าเปียกหมดแล้วเลิกเล่นได้แล้วค่ะ” “เลิกยิ้มเยาะยัง”เขายักคิ้วถามเธอ “เลิกแล้ว”เมื่อได้ยินคำตอบจากเธอเขาจึงหยุดแกล้งเธอ “ไปตรงนู้นค่ะ”พราวฟ้าชี้ไปบริเวณที่มีดอกบัวสีชมพูขึ้นอยู่เหนือผิวน้ำ “ได้ทีสั่งใหญ่เลยนะ” บ่ายนั้นทั้งคู่ช่วยกันเก็บดอกบัวอย่างสนุกสนาน เป็นช่วงเวลาที่เขาและเธอปล่อยตัวปล่อยใจไปตามธรรมชาติไม่มีตำแหน่งเจ้านายและลูกน้องคั่นอยู่ ทำให้พวกเขาดูสดใสร่าเริง และยิ้มหัวเราะให้กันอย่างมีความสุข “กว่าจะขึ้นกันมาได้นะเด็กๆ สนุกใช่มั้ย”ป้าดาถามเมื่อเห็นทั้งคู่กลับเข้าบ้าน “สนุกมากเลยค่ะ แต่คนแถวนี้น่าจะสนุกกว่าได้หัดพายเรือด้วยค่ะ”พราวฟ้าเหลือบมองภวินทร์ก่อนหันมาพูดกับป้าดา “เห็นเด็กๆชอบป้าก็ดีใจ จะไปพักก่อนมั้ยค่อยมาเรียนต่อ” “ไม่ค่ะ ฟ้าไม่เหนื่อย” “ขยันจริงๆแม่หนูคนนี้ใครได้เป็นเมียโชคดีไปทั้งชาติเลย ดูสิหน้าตาก็สวย มารยาทก็งามแถมยังขยันอีก”ภวินทร์มองพราวฟ้าและอยู่ดีๆก็อมยิ้ม ส่วนพราวฟ้าได้แต่ยืนก้มหน้าด้วยความเขิน “เราเริ่มกันเลยมั้ยคะคุณป้า คุณวินไปรอข้างนอกเลยค่ะผู้หญิงเค้าจะทำกับข้าวกัน” “ไล่หรอ” “ค่ะ” ภวินทร์มองพราวฟ้าอย่างเอาเรื่องที่เธอกล้าไล่เขาก่อนนะขอตัวออกไปนั่งเล่นข้างนอกกับลุงศักดิ์ “ก่อนอื่นก็แกะกลีบดอกบัวออกทีละกลีบล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่ทิ้งไว้ก่อน อย่างนั้นล่ะเก่งมาก เสร็จแล้วก็มาเตรียมเครื่องเคียงก่อน มีมะนาว หอมแดง ขมิ้นขาวสามอย่างนี้หั่นเป็นลูกเต๋า แล้วก็มีพริกขี้หนูซอย กุ้งแห้งแล้วก็นี่มะพร้าวนำไปคั่วให้หอมก่อน” พราวฟ้าตั้งใจทำตามที่ป้าดาบอกทุกขั้นตอน “แล้วก็นี่กะปิเอาไปย่างไปให้หอมก่อนนะลูก” “เท่านี้พอได้มั้ยคะคุณป้า” “ได้แล้ว ต่อไปก็มาทำน้ำเมี่ยงคำกัน แม่หนูเอา ข่า ตะไคร้ ขิง หอมแดง มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำมาคั่วให้หอมนะลูก อย่างนั้นแหละฝีมือใช้ได้เลยนะเราเนี่ย” “คุณป้าก็ชมฟ้าเกินไปค่ะแค่หั่นผักเองค่ะ” “ทำดีป้าก็ต้องชมสิ คั่วให้หอมนะเสร็จแล้วหนูก็เอาน้ำตาลปี๊บมาเคี่ยวเติมน้ำเปล่ากับเกลือลงไปนิดนึงนะ” พราวฟ้าเคี่ยวน้ำตาลจนได้ที่จากนั้นก็ใส่สมุนไพรคั่ว กะปิย่าง มะพร้าวคั่วป่น กุ้งแห้งป่นและ ถั่วลิสงคั่วป่นลงไปคนจนเข้ากัน เมื่อลองชิมรสชาติดูก็พบว่าอร่อยใช้ได้เลยทีเดียว น้ำเมี่ยงคำฝีมือเธอมีรสหวานปนเค็มนิดๆ “อื้ม อร่อยคุณป้าลองชิมดูค่ะ” “อร่อยใช้ได้เลยทำครั้งแรกฝีมือดีขนาดนี้เชียว”ป้าดาชมสาวน้อยยกใหญ่ทำเอาพราวฟ้ายิ้มไม่หุบ “เสร็จแล้วก็ตักไปเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงที่เราเตรียมไว้ตั้งแต่แรก มาเร็วจัดใส่จานไปให้หนุ่มๆลองทานกัน” เมื่อจัดจานเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอก็ยกออกมาให้หนุ่มๆชิม ส่วนป้าดาก็เดินตามหลังมาพร้อมกับของว่างอีกสองสามอย่าง “น่าตาดูดีใช้ได้เลย”ลุงศักดิ์กล่าวชม “คุณลุงลองชิมดูค่ะว่ารสชาติผ่านมั้ย” พราวฟ้ามองดูลุงศักดิ์ห่อเมี่ยงคำเข้าปากด้วยความตื่นเต้นลุ้นว่าจะถูกปากคุณลุงหรือไม่ “อื้ม อร่อย”ลุงศักดิ์ชมพร้อมกับยกนิ้วโป้งให้เธอทำให้พราวฟ้ายิ้มดีใจที่ลุงชอบ “คุณวินลองทานสิคะ” “ห่อให้หน่อยสิ”อยู่ๆภวินทร์ก็อ้อนเธอให้ทำให้ทาน ทำให้พราวฟ้าเขินจนไปไม่เป็น “ทำเองค่ะ โตแล้วไม่ใช่เด็กสักหน่อย”เธอดุเขาเบาๆ “แม่หนูก็ทำให้เขาหน่อย ผู้ชายมันทำไม่ถนัดเก้ๆกังๆไม่รู้จะหยิบจับอะไรก่อน จริงมั้ยพ่อหนุ่ม” “ครับคุณลุง คุณลุงนี่รู้ใจผมที่สุดเลยครับ” “ตาแก่นี่ไปยุ่งเรื่องเด็กๆเค้านั่งกินเงียบๆเลย”ป้าดาดุผู้เป็นสามี “ฟ้าทำให้ก็ได้ค่ะ”คำตอบของเธอทำให้ภวินทร์ยิ้มกว้างอย่างพอใจ ความจริงที่เขามาในวันนี้ไม่ได้แค่มาดูสถานที่ถ่ายทำโฆษณาแต่มาคุยเรื่องอาหารและที่พักสำหรับต้อนรับลูกค้าคนสำคัญของเขาด้วย เขาจึงได้มีโอกาสชิมอาหารฝีมือป้าดาหลายอย่าง ขณะที่ทุกคนนั่งทานอาหารว่างและคุยเล่นกันอย่างเพลิดเพลิน อยู่ก้อนเมฆก็เปลี่ยนจากที่ขาวเป็นสีดำท้องฟ้าที่เคยสดใสตอนนี้ถูกปกคลุมด้วยเมฆดำ เสียงฟ้าร้องและลมแรงมาก ตามด้วยพายุฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก จนทุกคนต้องรีบขนของเข้าไปอยู่ในบ้าน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม