‘ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแล้วนะคะคุณภู
เป้าหมายเชื่อหมอดูแล้ว แผนบีต่อได้เลยค่ะ
ป.ล. แต่แน่ใจเหรอคะว่าจะเอานาง สตินางไม่ค่อยดี พอๆ กับไม่ค่อยมีสตางค์นะคะ’
ภูธเรศยิ้มออกมาเมื่อได้รับข้อความจากสายของตัวเอง ทุกอย่างกำลังไปได้สวย และไม่นานเขาก็คงจะได้สิ่งที่ต้องการ
ก่อนที่จะมีมือไหนเข้ามาแทรกแซง
แน่นอนว่าช่วงนี้เขารู้ว่ากำลังมีคนพยายามเข้าหาน้อง แต่โดนสกัดไว้จนสุดความสามารถ น้องคิดเสมอว่าหลังๆ ตัวเองไม่โดนใครจีบหนักๆ จริงๆ แล้วไม่ใช่ แต่เป็นเพราะถูกสกัดไปเยอะมากแล้วต่างหาก
พอเห็นว่าแผนของตัวเองคืบหน้า เขาก็อดอารมณ์ดีขึ้นมาไม่ได้ แม้เมื่อหลายวันก่อนจะอารมณ์ไม่ค่อยดีเพราะคุณแม่ประกาศตัวชัดเจนว่าไม่เอาน้องก็ตาม
แต่ไม่เป็นไร คุณแม่ไม่เอา เขาก็จะเอาอยู่ดี...
เขากำลังนั่งกินข้าวเที่ยงอยู่ในตอนนี้ อันที่จริงก็อยากกินคนเดียว แต่เพื่อนสนิทเจ้าของห้องที่ชั้นแปดสิบสองไม่ยอม ท่าทางจักรินทร์จะยังไม่ล่าเหยื่อใหม่ถึงได้มีเวลาขลุกมากวนอารมณ์เขาแบบนี้ และแน่นอนว่าตอนนี้พอมันเห็นเขายิ้ม ก็ร้องทักเขาได้อย่างน่าถีบมากออกมา
“ยิ้มอะไรวะภู โอ้โฮ ยิ้มหวานเลยมึง แสดงว่าเกิดเรื่องดีๆ ขึ้นแน่นอน”
แต่วันนี้เขาอารมณ์ดีเกินกว่าจะสนใจความกวนบาทาของมัน
“ก็ดีนะ”
ชายหนุ่มหั่นสเต๊กปลาเข้าปากหลังจากตอบ อืม...อร่อย
“แล้ว...?” อีกฝ่ายร้องเสียงสูงเป็นเชิงเร่งเร้าให้พูดต่อ
ภูธเรศเลิกคิ้วขึ้นสูง “แล้วอะไร” เขาถามกลับ
พอเห็นเขาไม่พูด อีกฝ่ายก็เร่งเร้าอีก
“เอ้า เล่ามาสิมึง นี่รอฟังอยู่”
“จบแล้ว” ภูธเรศตอบหน้าตาเฉย “ไม่มีอะไรจะเล่า”
แผนนี้เขาตัดสินใจปุบปับเล่นเอง ไม่ได้บอกมันเท่าไรว่าจะทำอะไร เพราะแค่นี้ไอ้จักรก็ป่วนพออยู่แล้ว รำคาญเวลามันอยากช่วย บางทีก็ช่วยเกินเลยเหมือนก่อนหน้านี้
“โห งกอะ” เพื่อนสนิทประท้วงอย่างหงุดหงิด “หลอกใช้งานกูเสร็จก็ทิ้งกูไว้กลางทาง”
ภูธเรศได้แต่ส่ายหัวกับความเล่นใหญ่ของอีกฝ่าย “เพ้อเจ้อว่ะจักร”
คนเพ้อเจ้อมองเขาแล้วค้อนควักใส่จนตาแทบกลับ แล้วหันมาจิกกัดว่า
“ไม่เพ้อรักเหมือนมึงก็แล้วกัน”
ภูธเรศเลยได้แต่ส่ายหน้าช้าๆ อย่างอ่อนอกอ่อนใจ “เย็นนี้อย่าลืมไปงานล่ะ ถ้ามึงไม่มามึงก็พลาดสิ่งที่มึงเอาใจใส่สมกับเป็นคนขี้เสือกขนาดนี้นะจักร”
ตอนท้ายเขาอดจิกกัดอีกฝ่ายไม่ได้ ขณะที่จักรินทร์พอได้รับสัญญาณว่าจะมีเรื่องให้ตามติดก็คึกคักขึ้นมาทันตา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้มันทำท่าเหมือนจะไม่อยากไปงานเลี้ยงเย็นนี้ที่เขาต้องไปอยู่เลย
“กูจะให้อภัยที่มึงด่ากูว่าขี้เสือกนะภู เห็นแก่ที่เย็นนี้จะมีของเด็ดให้ชม”
อีกฝ่ายบอกด้วยท่าทีตื่นเต้นสนุกสนาน เหมือนมีใครไปกดเติมแต้มเสือกให้มันถึงได้ระริกระรี้อยากรู้เรื่องชาวบ้านขนาดนี้
อ้อ ลืมไป เขาเองกดให้มันเอง
“เออ”
ภูธเรศตอบรับ
“ได้” อีกฝ่ายตอบรับแล้วคลี่ยิ้มกว้างออกมาด้วยท่าทีสนุกสนานคึกคัก “งั้นจะไม่หลบ กูจะไปรอดูความสนุกและไปเอาใจช่วยมึงเอง”
แล้วหมอนี่ก็หัวเราะอย่างมีความสุข บางทีเขาควรยุให้มันไปหาแฟนใหม่อะไรอย่างนี้ เผื่อมันจะได้ยุ่งเรื่องผู้หญิงจนไม่ต้องมาสนใจเขา หรือไม่ก็ขับไล่ให้มันไปทำงานทำการอะไรบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ใช้ชีวิตล่องลอยไปมาไม่คิดจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันแบบนี้
“มึงควรเอาเวลาเสือกเรื่องกูไปทำงานบ้างนะจักร ป๋ามึงโทร.มาบ่นกับกูตลอดเลยว่ามึงหนีงาน”
ภูธเรศเปลี่ยนเรื่องพูดมาเป็นเรื่องจริงจังบ้าง วันก่อนเจ้าสัวเจตน์พ่อมันก็โทร.มาปรับทุกข์กับเขาเรื่องความขี้เกียจของลูกชาย เขาละอดเห็นใจป๋าของมันไม่ได้เลยจริงๆ ถึงไอ้จักรจะมีพี่ชายคอยช่วยเหลือป๋าอยู่ก็ตามเถอะ แต่มันไม่ควรใช้ชีวิตได้เหลวแหลกแบบนี้อะนะ
“กูไม่ได้หนี กูแค่ไปตามหาความฝันอยู่ จุๆ” อีกฝ่ายส่ายหน้าให้เขาอย่างไม่ชอบใจ “เลิกพูดเรื่องกูแล้วพูดเรื่องมึงเถอะว่ะ”
พอมันวกกลับมาหาเขา ภูธเรศก็เป็นฝ่ายขึงตาปรามให้มันอยู่ในความสงบบ้าง
“ไม่มีอะไรจะพูด รอเย็นนี้ดูเอาเอง”
พอมันเห็นว่าเขาไม่คิดจะพูดอะไรออกมาอีกแล้วเป็นแน่แท้ ก็ยกมือขึ้นยอมแพ้แล้วร้องออกมาเหมือนกับจะเป็นทำนองเพลง
“ก็ได้ๆ ก็ด๊าย กูจะอดทน”
....................
เนื่องจากช่วงนี้งานหาย นอกจากเอกนรีจะไลฟ์คุยกับแฟนๆ บ่อยๆ แล้วก็ทำคลิปอัปเดตไปสองคลิป หนึ่งคือคลิปรีวิวอาหาร และสองคือวล็อกพูดคุยเกี่ยวกับงานมีตติ้งดาราเกาหลีที่แม่เธอชอบเพื่อให้เอฟซีที่ตามเธอได้รู้ข่าวแล้วไปซื้อบัตรกันเยอะๆ งานจะได้ไม่ยกเลิก แม่เธอจะได้ไม่นกตามที่แม่เธอสั่งมา แน่นอนว่าทุกงานล้วนแล้วแต่เป็นงานไม่ได้เงิน แต่ก็ทำเอาใจตัวเองและเอาใจแฟนๆ ไป นอกนั้นชีวิตเธอก็ไม่มีอะไร
ไม่สิ มีงานอีกทีก็ตอนเย็นนี้แหละ
ฉะนั้นช่วงเช้าเอกนรีซึ่งไม่มีอะไรทำก็เลยสวมหน้ากากอนามัย แล้วเดินทางไปยังพระพรหมเอราวัณในเมืองเพื่อขอพรเรื่องงาน โอเค ยอมรับก็ได้ว่าไอ้งานที่ว่าก็คือการขอให้ปฏิบัติการจีบผู้ชายของเธอในครั้งนี้ประสบผลสำเร็จด้วย!
ที่เลือกมาขอพระพรหมก็เพราะเธอคิดว่ามันเป็นงาน หลังจากไหว้ขอท่านเสร็จ เพื่อความชัวร์ เธอเลยเดินข้ามฟากไปไหว้พระตรีมูรติด้วยอีกเลย เพราะท่านขึ้นชื่อเรื่องความรัก ดักทางไว้จะได้สมหวัง
แล้วที่ตรงนี้เองที่เธอได้พบกับคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี
เอกนรียอมรับว่าตัวเองเป็นสายมูเตลู เก้าวัดสิบแปดวัด ต่างจังหวัด ต่างประเทศวัดไหนที่ไหนขึ้นชื่อเธอก็ไป มันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เธอทำแล้วสบายใจไม่เดือดร้อนใคร
ทว่าถึงอย่างนั้นการไปของเธอก็สมพงศ์กับใครคนหนึ่งเสมอ ตอนแรกก็คุ้นหน้ากันดี มียิ้มให้กันบ้าง หลังๆ จึงได้รู้ว่าคนที่เธอเจอนั้นก็คือ ‘คุณโบ’ หรือ ‘โบนิตา[1]’ เจ้าของธุรกิจลอนดรี้และสปากระเป๋าแบรนด์เนมร้านดังคนนั้นนั่นเอง
เธอกับคุณโบค่อนข้างถูกคอกันดี เพราะว่ามีความสนใจเดียวกัน แม้เธอจะพุ่งเรื่องงานเป็นหลัก แล้วคุณโบเหมือนจะขอผัวเป็นหลักก็ตาม
เธอเคยถามเหมือนกัน อีกฝ่ายกลับบอกว่ามีคนที่อยากให้เขารักเขาหลงมากๆ อยู่หนึ่งคน เธอไม่ใช่สเปก แต่ไม่ย่อท้อ นอกจากจะตามจีบแล้วก็อยากจะให้พระเจ้าท่านช่วยเหลือบ้างอะไรบ้าง ก็เลยวนเวียนมาขอผัวบ่อยๆ
สำหรับเอกนรี ไอ้พิธีกรรมการไหว้ของานนี่เธอเชี่ยวชาญ และคุณโบก็เชี่ยวชาญด้านการขอผัว บางทีพวกเธอก็แลกเปลี่ยนความรู้และทักทายกันเสมอ
ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
พอคุณโบเห็นเธอเก้ๆ กังๆ ไม่รู้ว่าจะไหว้ขอคู่จากพระตรีมูรติอย่างไรก็แนะนำแล้วชี้จุดให้อย่างชำนาญ แม้จะมีรอยยิ้มล้อเลียนมาให้บ้าง เพราะปกติเธอมักจะไม่ค่อยขอเรื่องนี้ แล้วอีกฝ่ายก็รู้ดี
หลังจากแนะนำการไหว้และสารพัดเคล็ดลับให้เธอเรียบร้อย ท่ามกลางความโล่งใจของเธอที่กลัวว่าตัวเองจะไหว้ผิด แล้วคืนนี้แทนที่จะได้ก็จะกลายเป็น ‘ชวด’ แทน คุณโบก็ขอตัวไปดูงานของตัวเอง
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะมีร้านอยู่ในห้างแถวนี้เหมือนกัน คุณโบมีร้านสปากระเป๋าอยู่หลายสาขาในกรุงเทพฯ เพราะขึ้นชื่อว่างานดี แม้จะราคาสูงแต่ก็สมกับฝีมือ เนื่องจากจะหาร้านที่มีฝีมือการสปาและไว้ใจให้ดูแลรักษาของแบรนด์เนมนี้ได้ยากสักหน่อย ผู้คนเลยไว้ใจร้านของคุณโบกันทั้งนั้น
ก่อนแยกจากกัน เธอปรึกษาคุณโบว่าจะเอากระเป๋าไปทำ วันก่อนเธอทำดิออร์ลูกรักเปียกน้ำไป น้ำตาแทบไหล ถึงจะรีบดูแลเบื้องต้นไปแล้วเพราะไม่มีใครว่างเอามาส่งร้านให้เธอ พอเจอเจ้าของร้านเลยนัดแนะเวลากันเสียเลย อีกฝ่ายบอกให้เธอเอาเข้ามาพรุ่งนี้สาขาแถวบ้านเธอก็ได้เพราะเดี๋ยวจะแวะเข้าไปที่นั่นพรุ่งนี้พอดีเช่นกัน เธอกับคุณโบเลยนัดกินข้าวมื้อเที่ยงด้วยกันเสียเลย แล้วแยกกันไปเพราะคุณโบต้องรีบไปทำงาน
ส่วนเธอเหรอ...ไหว้เสร็จก็กลับไปหาพี่เป้ยสิ อย่างไรก็ต้องรีบกลับไปงานอีเวนต์คืนนี้ที่โรงแรมซีซีชลธาร เป็นงานที่เครือซีซีว่าจ้างเธอนั่นแหละ
แน่นอนว่าเธอไม่เคยรอคอยไปงานไหนเท่างานนี้ เพราะงานนี้เธอจะไม่ได้แค่ไปทำงาน
แต่เธอจะไป ‘อ่อย’ หนึ่งในผู้บริหารที่รู้มาว่าเขาก็ไปงานนี้เช่นเดียวกัน!
.............
[1]ติดตามเรื่องราวของ โบนิตา ได้ใน ปรารถนารักจอมอิทธิพล ชุด เจ้าสาวแสนกล โดย ณจันทร์นรา