อิสระ

1478 คำ
ผักกาดTalk บ้านนันทปภากร... "เที่ยวเล่นพอยัง"  เสียงผู้ชายวัยกลางคนหัวหน้ามาเฟียตระกูลใหญ่อย่างตระกูลอย่าง นันทปภากร เอ่ยถามฉัน แต่ฉันกลับทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยิน จริงๆก็ได้ยินนะแต่ไม่อยากตอบ  "ผัดกาดป๊าเขาคุยด้วยไม่ได้ยินหรอลูก" ม๊าก็อีกคน ไม่รู้จะตามป๊าไปถึงไหน  "ได้ยินค่ะ จะให้หนูทำงานอะไร โกดังไหนบอกมาดิ" "ฉันไม่ได้จะให้แกทำงาน ฉันจะให้แกแต่งงาน" แต่งงาน!!!!! แต่งงานที่แปลว่ามีผัวหรอ "มันถึงเวลาที่เราต้องรวมตระกูลกับ เดชพิพัฒน์โชติแล้ว และเราจะเป็นตระกูลที่ใหญ่ที่สุด"  ต้องการความเป็นใหญ่โดยที่เอาลูกสาวไปแลกเหรอ เท่าที่มีอยู่ไม่พอรึไง มีแต่พวกบ้าอำนาจ "ไม่ค่ะ!!! ผักกาดไม่แต่งงานให้ตายยังไงก็ไม่แต่ง"  ให้ตายยังไงฉันก็ไม่แต่ง จะมีผัวก็ขอเลือกเองเถอะ "ฉันไม่ได้ขอความเห็นจากแก ฉันบังคับ" "ป๊า หนูถามหน่อยว่าชีวิตนี้หนูมีสิทธิ์เลือกอะไรเองบ้างไหม" "ยังไงแกก็ต้องแต่งกับตระกูลนั้นแล้วแกจะปลอดภัย" "หนูไม่แต่ง ใครอยากรวมก็ไปแต่งเอง" ฉันพูดทิ้งท้ายแล้วเดินออกจากโต๊ะอาหาร ชีวิตนี้ฉันไม่เคยได้ทำอะไรเองเลยสักอย่างฉันอายุ22แต่เรียนจบแล้ว เกินมา22ปีฉันไม่มีอิสระมีแต่ต้องทำตามที่ใครต่อใครบอก ไปเรียนก็มีคนไปรับไปส่ง มากกว่านั้นคือส่งคนไปเรียนกับฉัน ป๊าทำแบบนี้จนไม่มีใครกล้าคบกับฉัน มีเพียงแค่ไอ้ชานนท์ เพื่อนคนเดียวในชีวิต ตั้งแต่เรียนจบมา2เดือน ฉันได้ออกบ้าน3ครั้ง อยากไปไหนก็ต้องแอบไป แต่จะไปไหนก็ได้นะ แต่ต้องมีลูกน้องของป๊าตามไปอีก10กว่าคน 'เที่ยวเล่นพอรึยัง' ฉันได้เที่ยวด้วยหรอวะ ไปไหนก็ห้าม อ้างแต่ว่าจะมีคนทำร้าย ฉันจะไม่ปลอดภัย ฉันไม่อยากเกินมาเป็นลูกสาวมาเฟียเลย "ชานนท์ ป๊ากูจะจับแต่งงาน" ฉันรีบยกโทรศัพท์โทรหาเพื่อนคนเดียวในชีวิตของฉัน (แต่งงานหรอ กับใครวะ) "ตระกูลอะไรไม่รู้ มึงช่วยกูด้วยดินนท์" (เดียวกูเข้าไปหา)  ไอ้ชานนท์เป็นคนเดียวที่พ่อฉันไว้ใจ และมันก็สามารถเข้ามาหาฉันได้ตามสบายเลย  "ไง คุณผักกาดจะมีผัวแล้วว่างั้น"  มันเดินมาตบที่ไหล่ฉัน "นนท์กูไม่อยากแต่งงานอะ กูโดนบังคับมาทั้งชีวิตก็จริงนะ แต่ไม่คิดว่าจะโดนบังคับแต่งงาน" "ผักกาดแต่กูมองว่าแม่งดีต่อมึงนะเว้ย" "ดีอะไรมึงแต่งแทนกูไหมอะ"   หน้าตายังไม่เคยเห็นเลยอยู่ๆจะมาแต่งงานกันได้ไง "มึงคิดดูนะ แต่งงานแล้วมึงก็จะไปอยู่บ้านผัวมึง มึงเริ่มมองเห็นมันยัง"  ไอ้นนท์มันชี้ให้ฉันดูบนท้องฟ้า แต่เดียวนะ... เห็นอะไรวะ "มึงชี้อะไร" "อิสระไงผักกาด อิสระมาแล้ว"  พอมันพูด ฉันก็เริ่มมองเห็นเลย ใช่แล้วนั้นมันคือแสงเเห่งอิสระไง ถ้าแต่งงานแล้วก็จะได้ออกจากบ้านหลังนี้ และหลังจากนี้มันก็คือชีวิตที่ฉันรอมานาน "จริงวะ กูต้องแต่งงาน กูจะแต่งงาน"  ฉันไม่สนว่าเขาจะเป็นใคร หน้าตายังไง มาแค่ชีวิตอิสระรอฉันอยู่ แต่ขอไม่แก่นะ ฉันไม่อยากให้ใครตายก่อนกลัวผี "แล้วมึงรู้ชื่อเขายัง ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่ หน้าตาเป็นยังไง"  ฉันส่ายหน้าไปมาให้มัน แม้แต่ชื่อฉันยังไม่รู้เลย "เราเรียกเขาว่า เทพเจ้าแห่งอิสระดีไหม"  "เป็นเอามากนะมึงอะ แล้วแก่ไหม มึงไม่ชอบคนแก่ไม่ใช่หรอ" "ม๊าบอกว่าเป็นหัวหน้ามาเฟีย คงไม่แกหรอกมั้ง" "พ่อมึงก็เป็นหัวหน้าแล้วนะ " นั้นไง... ถ้ามารุ่นป๊าจะทำไงดีล่ะ "ก็ช่างเถอะ" "ยอมทุกอย่างเลยว่างั้น"  "คุณชานนท์ คุณผักกาดคะ นายเรียกลงไปทานขนมค่ะ"  ฉันพาไอ้ชานนท์ลงมากินของขนมที่ม๊าเตรียมไว้ให้  "ไงชานนท์ ทำงานแล้วหรอ" ป๊าถามไอ้นนท์ "ครับ พึ่งขึ้นบริหาร"  "ดีๆ ไม่เหมือนคนแถวนี้หรอกเนาะ อะไรๆก็ไม่เอา"  คนเเถวนี้หรอ.... พูดชื่อฉันก็จบแล้วจะมาคนแถวนี้อะไร "หนูจะแต่งงานตามที่ป๊าบอก"  "ดี นี้เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่แกฟังฉันบ้าง" ครั้งแรกหรอ ฉันก็ยอมเขามาตลอดนั่นแหละ มาครั้งแรกอะไร "แต่.....เขาเป็นใคร แก่หนูไม่แต่งนะ" "แพนเตอร์ หัวหน้าตระกูลเดชพิพัฒน์ พึ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน"  "ไม่แก่ใช่ไหม" "อืม อายุ26" พอรู้เรื่องอายุฉันถึงกลับต้องหันไปยิ้มกับไอ้ชานนท์เลย  "แล้วจะแต่งเมื่อไหร่"  "...."  ทุกคนเงียบและทำหน้างง ทำไมอะฉันพูดอะไรผิดหรอ ไอ้ชานนท์รีบเอาเท้าสะกิดฉันไว้ "ก็แค่ถามดู ไม่ได้หรอ" "เขาพึ่งบอกป๊าขอเลื่อนไปก่อน พึ่งรับตำแหน่งยังมีอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ลงตัว" "เลื่อน แล้วเลื่อนไปนานแค่ไหนอะ"  "อยากแต่ขนาดนั้นเลยหรอ" เอาแล้วไงนี้ฉันดูรีบจนป๊าจับได้เลยหรอ  "เปล่าหรอก หนูก็แค่ถาม"  "ป๊านัดให้หน่อยได้ไหม หนูอยากเจอเขา" "นัด? " "อืม ทำความรู้จักกันไว้มันก็ดีไม่ใช่หรอ ใช่ไหมนนท์" ฉันเริ่มหาพวก เพราะป๊าดูเหมือนกำลังสงสัยอยู่ "อืม ป๊าจะนัดให้"  เอาแล้วใกล้เข้ามาแล้ว อิสระของฉันรอก่อนนะ แพนเตอร์Talk ผับหรูใจหลางเมือง... "นาย ครับนายใหญ่นัดทานข้าวที่บ้านครับ" ลูกน้องคนสนิทผมไอ้นีโน่เอ่ย นัดกินข้าว ก็คงไม่พ้นเรื่องแต่งงานนั่นแหละ ผมว่การแต่งงานมันงี่เง่าที่สุดสำหรับผมเลย ผู้หญิงมีแต่จะเป็นจุดอ่อนใจชีวิตผม ไม่รู้ว่าจะรวมตระกูลไปทำไมทั้งๆที่ตระกูลเราก็ใหญ่มากพออยู่แล้ว "นายจะไปไหมครับ " "ไป บอกเขาด้วย"  ผมไม่เคยขัดป๊าได้หรอก ยิ่งเป็นม๊ารายนั้นยิ่งไปใหญ่ ผมพึ่งรับตำแหน่งได้ไม่นาน ยังไม่อยากคิดเรื่องอื่น แต่ป๊าม๊าหาแต่เรื่องมาให้คิด แล้วให้เหตุผลว่าถ้าเราร่วมตระกูลกันแล้วจะทำงานสะดวกมากกว่าเดิม "นึกว่าจะไม่มาซะแล้ว" "งานเสร็จแล้วก็เลยมาได้ครับ" "รู้ใช่ไหมว่าป๊านัดมาทำไม" "ครับ " "แกต้องแต่งงานกับลูกสาวตระกูลนันทปภากรให้เร็วที่สุด" เรื่องนี้อีกแล้ว  "ผมขอเหตุผล" "ถ้าเรารวมตระกูลกัน เราจะเป็นใหญ่ที่สุดไม่ว่าใครก็กลัวเราทั้งนั้น มันจะทำให้งานทุกอย่างเราราบรื่นขึ้นเยอะ" "แต่ทุกวันนี้มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรแล้วนิครับ" "ฟังพ่อนะแพนเตอร์ ตระกูลนั้นจะช่วยให้แกทำงานได้ง่ายขึ้นมากๆ และคนอื่นๆก็จะยอมรับแกตั้งแต่ที่อายุเท่านี้" ตั้งแต่ผมรับตำแหน่งมา ก็ไม่ค่อยมีใครเชื่อผมหรอกครับ ต่างก็บอกว่าผมยังเด็กไม่สามารถทำงานได้เท่าป๊าตอนนี้เลยยังไม่มีคนยอมรับในการทำงานของผมเท่าไหร่ และธุรกิจที่เคยทำร่วมกันต่างก็ถอนออกไปบาง  "ถ้าแกต้องการให้คนยอมรับเร็วๆ เขาช่วยแกได้" "แกอายุ26แล้วนะแพนเตอร์ที่กลับมาจากฮ่องกงก็เพราะรับตำแหน่งไม่ใช่หรอ " ม๊าพูดขึ้นอีกคน "ผมมารับตำแหน่ง ไม่ได้มาแต่งงาน" "การรับตำแหน่งก็ต้องแต่งงาน ตอนนี้แกเป็นหัวหน้าแล้ว แกต้องมีคนยืนข้างๆและมีทายาท" "ผมเข้าใจแล้วครับ" ผมทำอะไรได้หรอครับ นอกจากเข้าใจและทำตามมัน "ป๊าบอกเลื่อนเขาไปแล้วแหละตามที่แกเขาขอ แต่ป๊าอยากให้รีบเคลียร์ทุกอย่างแล้วแต่งให้เร็วที่สุด" "ครับป๊า" ผู้หญิงคือสุดอ่อนของผม ที่ผมชอบพูดคำนี้เพราะว่าผมต้องมาเสียเวลาดูแลเธอ ต้องมาดูว่าเธอจะปลอดภัยไหม ทั้งๆที่ผมอยู่คนเดียวผมไปได้เร็วกว่าโดยไม่ต้องห่วงใครเลย  แต่สุดท้ายผมก็เหมือนคนที่กำลังกลืนน้ำลายตัวเอง เพราะผมกำลังจะแต่งงาน  ฝากติดตามพี่แพนเตอร์และน้องผักกาดด้วยนะคะ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม