แพนเตอร์Talk
วันนี้ผมเข้าบริษัทครับ มาทำงานของผมตามปกติ
"แพนเตอร์ลูก"
ม๊าผมมาอีกแล้วหรอ มาทำไมวะ
"วันนี้ทางนันทปภากรเขานัดให้ไปทานข้าวที่บ้าน"
"ผมก็บอกไปแล้วไงว่าผมขอเลื่อนออกไปก่อนม๊า"
"เขาไม่ได้รีบหรอก แต่เขาแค่อยากให้ลูกสองคนได้เจอกันแค่นั้นเอง"
ทำไมวุ่นวายจังวะ น่าเบื่อฉิบหายเลย
"ถ้าผมว่างจะไปครับ"
"ไม่จ้ะ ลูกต้องไป แล้วเจอกันนะ"
ผมโกรธที่ผมไม่เคยขัดป๊าม๊าได้เลย จริงๆผมทำได้นะแต่ผมไม่อยากทำแค่นั้นแหละ พอผมไม่ทำมันก็เป็นแบบนี้แหละ เขาอยากให้คนอื่นยอมรับผมแต่ชอบมารบกวนเวลางาน
บ้านนันทปภากร
ผมมาตามนัดที่ม๊าบอก วันนี้มาทั้งป๊าทั้งม๊าผมเลย แต่คนที่ผมจะแต่งงานด้วยยังไม่เห็นหรอกนะ
ผมคิดว่าคงจะเป็นผู้หญิงแซ่บๆหน่อย ตามสไตล์ลูกมาเฟียแหละ ขอหน้าตาดีหน่อยแล้วกัน ผมขอแค่ข้อเดียวนี้แหละ
"ยินดีสำหรับตำแหน่งใหม่ด้วยนะแพนเตอร์"
คุณลุงเอ่ยอวยพรผม ผมก็พอรู้จักท่านบ้างแหละครับเคยเห็นตามงานใหญ่ๆ คนรู้จักท่านเยอะมากๆ
"ขอบคุณครับ"
"ช่วงนี้ขาดรายได้เยอะเลยครับพี่ใหญ่ พวกที่เคยร่วมทุนด้วยก็ถอยกันไปหมด พวกนั้นยังไม่เชื่อในตัวเจ้าแพนเตอร์เขา"
"หึ รับตำแหน่งใหม่ก็งี้แหละ "
"แบบนี้ต้องฝากหน่อยนะพี่ใหญ่" ป๊าผมเอ่ยฝากกับคุณลุง
"ไม่มีปัญหา ถ้าแต่งงานกับลูกสาวผมแล้ว จะช่วยเต็มที่"
"ขอบคุณครับที่เอ็นดูเด็กมัน"
"อืมๆ แล้วผักกาดล่ะ ยังไม่ลงมาอีกรึไง"
ผักกาด.... คนนี้น่าจะเป็นคนที่ผมต้องแต่งงานด้วย แต่เดียวนะชื่อผักกาดหรอวะ จืดชืดแน่นอน
ผมนั่งฟังผู้ใหญ่เขาคุยกันได้ไม่นาน ผักกาดที่คุณลุงพูดถึงก็เดินลงมา
"คุณน้าสวัสดีค่ะ คุณอาสวัสดีค่ะ"
"ไม่คิดเลยนะครับว่าลูกสาวพี่จะสวยขนาดนี้"
เธอสวยจริงครับ หน้าตาหน้ามอง แต่ดูๆแล้วจืดชืดจริงๆ ไม่สมเป็นลูกสาวมาเฟียใหญ่เลย ผมก็นึกว่าจะแซ่บๆ
"ผักกาดนี้แพนเตอร์ คนที่ลูกต้องแต่งงานด้วย"
"สวัสดีค่ะ"
ผมรับไหว้เธอแล้วหันหน้าหนี คนนี้หรอจะมาเป็นเมียผมเอาจริงๆไหมไม่ตรงสเปกผมสักอย่าง
"แล้วที่บอกว่าขอเลื่อนงานแต่งออกไป มันนานแค่ไหนหรอ"
"ไม่นานครับพี่ใหญ่ ขอให้แพนเตอร์ได้เคลียร์ทุกอย่างก่อน งานมันยังไม่ค่อยเข้ามือเขาเท่าไหร่"
ป๊าผมตอบทุกอย่างแทนผม
"ดีๆ ฉันชอบนะคนเอาการเอางาน"
"ครับ " ผมได้แต่พยักหน้าให้เขา
"ผักกาดไม่พูดกับพี่เขาหน่อยหรอไหนบอกป๊าว่าอยากเจอ"
อยากเจอ... อยากเจอผมหรอ รึว่าเธอเองที่ขอร้องพ่อให้จับผมแต่งงาน
"ป๊า"
"ฮ่าๆ เด็กๆคงจะเขินแหละครับ"
เขิน.... เธอคนนี้ไม่มีอะไรที่ทำให้ผมเขินเลยสักนิดเดียว
ผักกาดTalk
ผู้ชายคนนี้ไม่ได้เป็นแบบที่ฉันคิดเลย เขาไม่ได้แก่หน้าตาก็พอได้ แต่หน้านิ่งมาก เย็นชาที่สุด เป็นคนรึผีดิบหรอ
ฉันแอบเดินตามเขามาข้างนอกหลังจากที่กินข้าวเสร็จ อยากคุยเรื่องแต่งงานว่าเขาจะเลื่อนไปนานแค่ไหน
~แค่ก แค่ก~
กลิ่นบุหรี่ลอยฟรุ้งออกมา
"สูบบุหรี่ด้วยหรอ" ฉันนั่งลงข้างๆเขา
"รับไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่ง"
รับไม่ได้ก็ไม่ต้องแต่ง.... ไม่มีทาง ฉันจะต้องแต่งงานกับเขาให้ได้
"เราจะแต่งงานกันตอนไหน"
"อยากแต่ง?"
"ใช่ ก็ป๊าฉันบังคับนิ"
"แต่ฉันไม่อยากแต่ง"
คำพูดของเขาเหมือนฉันกำลังโดนบอกเลิกทั้งๆที่ยังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย ถึงจะไม่ได้รักเขาก็เถอะมันเหมือนฉันไร้ค่ามากๆที่มาพูดเรื่องนี้ทั้งๆที่เขาไม่อยากแต่ง
"ไม่อยากแต่งก็ต้องแต่งอยู่ดี เพราะเขาตกลงกันแล้ว"
ถึงไม่อยากแต่งก็ต้องแต่ง!!! มีใครไหมที่ขัดป๊าฉันได้
"แต่ฉันไม่อยากแต่งกับเธอ"
"ทำไมแต่งกับฉันแล้วมันทำไมห๊ะ"
"ผู้หญิงคือจุดอ่อนของมาเฟีย"
จุดอ่อนหรอ... พ่อเขาก็มีเมียไม่เห็นว่าจะเป็นจุดอ่อนตรงไหนเลย ข้ออ้างสำหรับคนไม่อยากแต่งหรอ
เขาทิ้งบุหรี่ลงที่พื้นก็จะใช้เท้าขยี้ก่อนจะเดินออกไปจากฉัน
ค่อยดูนะยังไงฉันก็จะทำให้เขาแต่งงานกับฉันให้ได้เลย เพราะมันเป็นทางเดียวตอนนี้ที่ฉันมองเห็นอิสระ
2อาทิตย์ผ่านไป...
มันนานมากๆแล้วนะ ป่านี้นานแพนเตอร์อะไรนั้นยังไม่มีอะคืบหน้าเลย จะเลื่อนไปถึงไหนหรอ
"ป๊า ขอเบอร์เเพนเตอร์หน่อยดิ"
"...."
แล้วป๊าจะทำหน้างงทำไมเนี่ย
"จะนัดกินข้าวกัน"
แล้วเข้าก็ค่อยๆยื่นเบอร์ให้ฉัน พอได้สิ่งที่ต้องการมาแล้วฉันก็รีบวิ่งกลับเข้าห้องแล้วโทรหาเขา
(แพนเตอร์พูดครับ)
"ฉันผักกาด เมื่อไหร่นายจะแต่งงานกับฉันสักที"
(ฉันจะไม่แต่งงานกับเธอ)
ทำไมเป็นผู้ชายที่หัวแข็งแบบนี้วะ พ่อแม่บอกให้ทำอะไรก็ทำๆไปเถอะ
"แต่ฉันต้องการแต่ง"
ฉันที่ยังพูดไม่จบก็โดนตัดสายทิ้งไป โอเคแล้วจะได้รู้ว่าคนอย่างผักกาดไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ
"พี่เจย์ มานี้หน่อย" ฉันเดินมาหาลูกน้องป๊าคนที่คอยตามดูแลฉันตลอดเวลา
"ครับคุณหนู"
"ไปหามาหน่อยว่าแพนเตอร์ทำงานอยู่ที่ไหนตอนนี้"
พูดดีๆแล้วไม่ยอมก็ต้องตามให้มันถึงที่หน่อย จะยื้อไปถึงไหนก็รู้ทั้งรู้ว่าไม่มีใครขัดพวกเขาไม่ได้หรอก
ฉันให้พี่เจย์พามาที่บริษัทเขา และลูกน้องอีก3-4คน ก็ไม่รู้จะขนมาเยอะอะกันขนาดนี่
พี่เจย์เคลียร์ทุกอย่างให้ฉันแล้วพาขึ้นมาที่ห้องทำงานเขา
"ผมรอหน้าห้องนะครับ" เจย์เปิดประตูห้องทำงานเขาให้ฉัน
"เธอมาได้ไง"
คนที่ทำงานอยู่ใจที่เห็นฉันเดินเข้ามา
"ก็มาหาว่าที่สามีไง"
มาได้ไงหรอ ก็มาคุยให้รู้เรื่องไง
"เมื่อไหร่นายจะแต่งงานกับฉัน เลื่อนออกมา2อาทิตย์แล้วนะ ไหนบอกไม่นานไง"
"ฉันไม่แต่ง"
อยากจะทุบหัวตานี่จริงๆเลย เขาให้แต่งก็แต่งไปเถอะ จะอะไรหนักหนาวะ
"แต่นายต้องแต่ง"
"เธออยากแต่งมากรึไง"
"ใช่ ก็ป๊าฉันบังคับ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้อยู่แล้ว"
"งั้นฉันขอทดลองของก่อนได้ไหม"
อยู่ๆเขาก็ทำหน้าตาเจ้าเล่ห์ คงไม่ได้มีแผนอะไรใช่ไหม
"ทดลองอะไร"
"ทดลองเธอไง ว่าจะทำหน้าที่เมียได้ดีรึเปล่า"
หน้าที่เมีย?
"หน้าที่เมียหรอ... ฉันทำอะไรไม่เป็นหรอก มากสุดก็ไข่ดาวโง่ๆ ชามไม่เคยล้าง ผ้าไม่เคยซัก เพราะม๊าไม่ให้ทำ"
จะมาทดสอบทำไม แม่บ้านเขาไม่มีรึไงละ ฉันไม่เคยทำอะไรหรอกนะ เคยทำไข่ดาวครั้งนึ่งในชีวิตเเล้วก็เลิกทำไปเลย
"แต่กวาดถูก็พอได้นะ" อันนี่แค่ก็ทำได้ ไม่ต้องให้ใครมาสอนหรอก
"ไม่ใช่แบบนั้น ถ้าจะเป็นเมียฉันต้องนอนให้ฉันเอา เพราะฉันเหนื่อยทำงานเหนื่อยๆ ก็อยากจะกลับไปเอากับเมียให้หายเหนื่อย"
ฉันถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เหงื่อเริ่มตก และกำลังเดินถอยหลังออกจากโต๊ะทำงานเขา มัวแต่คิดเรื่องอิสระจนไม่คิดถึงเรื่องอะไรแบบนี้เลย
"จะถอยไปไหนล่ะ"
แต่เขาก็ลุกตากเก้าอี้แล้วเดินไล่ต้อนฉันจนติดกำแพง
"ฉะ ฉันไม่เคยทำเรื่องแบบนั้นหรอก"
"ฉันจะสอนให้ พอแต่งงานกันแล้วก็จะได้ทำเป็นไง"
สอนให้... นี้แสดงว่าจะต้องมีอะไรกันก่อนแต่งหรอ แต่เดียวนี่ใครเขาก็ไม่ถือกันหรอก แต่ฉันกลัวนิ
"ก็จะแต่งกันอยู่แล้วนิ จะกลัวไปทำไม"
เขาจับที่ปลายผมฉันขึ้นมาแล้วหอมมัน
ใช่!!! เราจะแต่งกันอยู่แล้วนิ มีอะไรกันก่อนไม่ผิดหรอก คนอื่นเขาก็มีกันถมไป ไม่เห็นจะต้องกลัวเลยนิผักกาด อิสระไง
ฉันกำลังพยายามปลอบใจตัวเองไม่ให้กลัวมัน
"แล้วจะไปทำที่ไหนล่ะ" ฉันถามเขาแต่ไม่ได้สบตา
"หึ ไปคอนโดฉันดีกว่า"
เขาเปลี่ยนจากจับปลายผมมาโอบเอวฉันแล้วพาเดินออกจากห้องทำงาน
"พี่เจย์เดียวกลับก่อนเลยนะ ฉันจะไปกินข้าวกับแพนเตอร์ แล้วเดียวเขาจะไปส่งเอง"
"ครับ" เจย์ก้มหัวให้ฉัน