23.30 น.
ขณะนี้หยาดฝนกำลังโปรยปรายท่ามกลางมหานครอย่างลอนดอน และบางครั้งอากาศที่ไม่ใคร่แจ่มใสของลอนดอนก็ทำให้เขารู้สึกไม่ชอบใจนักหากแต่เพราะเสน่ห์ในหลายๆ อย่างของลอนดอนก็ทำให้เขาไม่อาจตัดใจไปอยู่ที่อื่นได้เช่นกัน
ในยามนี้ ‘นิโคลัส ธอร์นตัน’ กำลังควบขับเจ้ารถยนต์คันหรูของตน ชายหนุ่มชอบที่จะควบคุมเจ้ายานพาหนะสี่ล้อนี้ด้วยตนเองมากกว่าจะใช้คนขับรถ ประสบการณ์ที่บิดามารดาถูกพรากไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เนื่องจากคนขับรถของครอบครัวประมาททำให้นิโคลัสไม่ไว้ใจฝีมือการขับรถของใคร ยามเมื่ออยู่ด้านหลังพวงมาลัย นิโคลัสรู้ว่าตนเองจะไม่มีวันประมาทโดยเด็ดขาด
แม้ในยามนี้ที่ฝนกำลังโปรยปรายจะทำให้ทัศนวิสัยแย่ลงก็ตาม
นิโคลัสพารถคู่ใจของตนเองฝ่าจากโรงแรมธอร์นตันซึ่งตั้งอยู่ในย่าน เมย์แฟร์ไปสู่ที่พักของตนเอง ท่ามกลางสายฝนที่กำลังโปรยปราย สองข้างทางเงียบสงบเนื่องจากไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน หรือมีบ้างเป็นประปราย ทว่าต่างคนต่างเร่งรีบหาที่หลบสายฝนกันไม่สนใจผู้คนรอบกาย หากชั่ววินาทีที่สายตาของเขาไม่ได้ จับจ้องยังทางเบื้องหน้า เขาก็เห็นร่างคนวิ่งพุ่งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้โดยไม่สังเกตเลยว่ารถยนต์ที่เขาขับนั้นห่างจากร่างนั้นไม่ถึงเมตร!
นัยน์ตาสีฟ้าของนิโคลัสเบิกกว้าง แม้จะเหยียบเบรกหลังจากตั้งสติได้แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ชายหนุ่มรับรู้ได้ถึงแรงปะทะของรถยนต์กับร่างคนตรงหน้า
เอี๊ยด!
โครม!
แม้รับรู้ว่าตนเองพอจะลดแรงปะทะให้ลดลงได้ แต่ร่างตรงหน้าก็ทรุดฮวบลงต่อหน้าต่อตาอยู่ดี
นิโคลัสรีบวิ่งลงจากรถของตนเองอย่างรวดเร็วเมื่อเมื่อรถหยุดนิ่ง ถึงแม้เขาจะเหยียบเบรกอย่างแรงเท่าไรแต่เขาก็รับรู้ว่าแรงชนนั้นแรงพอสมควร ชายหนุ่มวิ่งลงจากรถโดยไม่สนใจเลยว่าสูทราคาแพงของตนเองจะเปียกไปด้วยฝนที่กำลังโปรยปรายในขณะนี้ สิ่งที่สนใจคือร่างของคนที่ถูกเขาชนต่างหาก
เมื่อวิ่งไปยังด้านหน้า นิโคลัสก็ได้รับรู้ว่าคนที่เขาชนเป็นผู้หญิง!
ภาพของหญิงสาวนอนนิ่งอยู่ตรงหน้าเขา ร่างเล็กอยู่ในชุดซ่อมซ่อเปียกชุ่มไปด้วยเม็ดฝนที่เริ่มกระหน่ำตกอย่างรุนแรงมากขึ้นทุกที ผมยาวๆ ของเธอเปียกชื้นตัดกับใบหน้า ซีดเซียวแลจนดูเป็นเหลืองจัดของหญิงสาวส่งผลให้คนมองรู้สึก ใจหาย แล้วยิ่งเลือดที่ไหลออกมาแล้วถูกฝนชะออกเป็นคราบแดงๆ อยู่บนพื้นทำให้นิโคลัสใจหายวาบ ชายหนุ่มสบถอย่างหัวเสียแต่ก็รีบช้อนร่างหญิงสาวที่ตัดหน้ารถเขาขึ้นอย่างรวดเร็ว รับรู้ได้ถึงน้ำหนักตัวที่เบาหวิวของเธอ
ชายหนุ่มรีบเปิดประตูรถตอนหลัง วางเธอลงบนเบาะโดยไม่สนใจว่าน้ำจากร่างกายที่เปียกปอนของเธอจะทำให้รถราคาแพงของเขาเปื้อน
ทว่า...คนที่เขาคิดว่าสลบกลับค่อยๆ ปรือตาขึ้น เขาเห็นเธอหรี่ตามองราวกับเห็นไม่ชัด
นิโคลัสเห็นเปลือกตาของเธอขยับไหวก็ชะงัก ชายหนุ่มก้มหน้าลงจนแทบจะชิดใบหน้าของหญิงสาวแล้วบอกเธอเสียงเบาว่า “ไม่เป็นไร...ผมกำลังจะพาคุณไปโรงพยาบาล”
และเพียงได้ยินคำนั้น...แม้ตอนนี้เธอจะเจ็บปวดไปทั่วร่างเหลือเกิน แต่หญิงสาวก็พยายามส่ายหน้าและพร่ำพูดแต่ว่า “ไม่ไปโรงพยาบาล...ไม่ไป”
เธอพูดเสียงเบาหวิว...น้ำเสียงวิงวอนแทบขาดใจทำให้นิโคลัสถึงกับนิ่ง แล้วก็เห็นหญิงสาวสลบไปต่อหน้าต่อตา
และด้วยอะไรก็ไม่รู้ทำให้นิโคลัสทำตามที่หญิงสาวคนนี้ขอร้อง...ชายหนุ่มตัดสินใจพาเธอกลับไปที่บ้านของเขาเอง!
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือคฤหาสน์หลังใหญ่ราวกับปราสาทของนิโคลัส ชายหนุ่มหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในเขตรั้วคฤหาสน์ธอร์นตันของตนเอง เขาจอดรถพรืดแล้วรีบสาวเท้าตรงไปเปิดประตูเพื่อช้อนร่างหญิงสาวที่ตอนนี้นิโคลัสรู้ แล้วว่าเลือดที่เห็นในตอนนั้นคือบาดแผลจากศีรษะของเธอนี่เอง ชายหนุ่มไม่สนใจดวงตาเบิกกว้างอย่างตกใจของพ่อบ้านวัยหกสิบกว่าปีของตน เขารีบสาวเท้าตรงดิ่งไปยังห้องพักห้องแรกที่เขาเดินไปถึงในระหว่างทางนั้นก็ส่งเสียงถามเฟรดเดอริก พ่อบ้านของเขาด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“หมอสมิธมาถึงรึยัง?”
“อีกไม่เกินห้านาทีคงจะมาถึงครับ”
เฟรดเดอริกตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ขณะที่นิโคลัสเดินมาถึงห้องนั้นพอดี แล้วพ่อบ้านของเขาก็รีบเปิดประตูห้องนั้นให้อย่างรู้ใจ นิโคลัสสาวเท้าไปที่เตียงกว้างแล้ววางร่างเปียกปอนของหญิงสาวนิรนามลงบนเตียงกว้างอย่างนุ่มนวล
“เฟรด คุณช่วยไปหาเสื้อผ้าสะอาดมาให้ผมสักชุดได้ไหม เดี๋ยวคงต้องเปลี่ยนให้เธอก่อนที่เธอจะเป็นอะไรหนักมากกว่านี้”
ชายหนุ่มสั่งอย่างรวดเร็ว มองร่างมอมแมมและเปียกปอนบนเตียงด้วยสายตาสำรวจ เขาคิดว่าเธอคงไม่เป็นอะไรมากนอกจากศีรษะกระแทกพื้นอย่างแรง และรอยฟกช้ำตามตัวนิดๆ หน่อยๆ กระนั้นดวงหน้าขาวซีดของเธอก็ทำให้เขาอดห่วงไม่ได้
“ครับ”
เฟรดรับคำแล้วรีบไปปฏิบัติตามที่ทายาทเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ของตระกูลธอร์นตันสั่งให้เขาทำ แม้จะไม่เข้าใจก็ตามว่าทำไมนิโคลัส ธอร์นตันจึงพาผู้หญิงสกปรกมอมแมมราวกับขอทานเข้ามาที่คฤหาสน์หลังนี้ก็ตาม
“เธอเป็นอะไรมากไหม”
นิโคลัสปราดเข้าไปหานายแพทย์วัยกลางคนผู้ถูกตามตัวในเวลากลางดึกซึ่งเดินออกมาจากห้องที่เขาจัดให้หญิงสาวแปลกหน้าคนนั้นพัก สีหน้าและแววตาห่วงใยคงฉายชัดบนดวงหน้าของมหาเศรษฐีหนุ่มกระมัง จึงทำให้นายแพทย์ วัยกลางคนถึงกับยิ้มปลอบประโลมชายหนุ่มพร้อมกับบอกอาการของหญิงสาวที่บัดนี้ยังคงไม่ได้สติ
“ก็แค่มีแผลฟกช้ำจากแรงกระแทก ศีรษะแตกเลยทำให้สลบไปครับ แต่อาการโดยรวมก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่ มีที่ให้กังวลก็แค่แผลที่ศีรษะเท่านั้น แหละครับ หมอคิดว่าถ้าเธอฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ค่อยเช็กดูอีกที”
ได้ยินคำตอบเช่นนั้น นิโคลัสก็พ่นลมหายใจพรูออกมาจากปากด้วยอาการโล่งใจไปเปลาะหนึ่ง แม้จะรู้เต็มอกว่าเธอไม่ได้รับบาดเจ็บมากมายนัก และคนที่ผิดก็คือเธอไม่ใช่เขาที่วิ่งเข้ามาตัดหน้ารถกระทันหัน แต่เขาก็อดห่วง หญิงสาวแปลกหน้าคนนี้ไม่ได้อยู่ดี
ภาพใบหน้าขาวซีดเซียว ผมสีดำยาวราวแพรไหมหากเปียกชื้นแนบใบหน้าเล็กเรียวตัดกับสีหน้าซีดเซียวนั้นดึงดูดใจเขาอย่างน่าประหลาดนัก ทั้งที่ตนเองแค่พาเธอไปโรงพยาบาลแล้วปัดภาระนั้นออกไปได้โดยทันที หากเขาก็ไม่คิดกระทำเช่นนั้น เรือนร่างบอบบางเบาหวิวที่ตนอุ้มขึ้นมาจากกลางถนนทำให้นิโคลัสถือสิทธิ์ว่าตนเองคือเจ้าของนับแต่วินาทีนั้นโดยไม่รู้ตัว
“ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยตอบหมอด้วยน้ำเสียงแสดงความโล่งใจ แล้วเบือนใบหน้าไปทางซ้ายมือเพื่อมองหาพ่อบ้านของตนเอง และพบว่า เฟรดเดอริกยืนอยู่ ณ ตรงนั้นอย่างที่คาด “เฟรด ช่วยส่งหมอสมิธด้วย”
“ครับ”
พ่อบ้านวัยกลางคนค้อมกายลงแล้วปฏิบัติตามแต่โดยดี ทิ้งให้นิโคลัสยืนอยู่หน้าห้องนั้นเพียงลำพัง แล้วสักพักชายหนุ่มก็ตัดสินใจเปิดประตูบานนั้นแล้ว ก้าวขาพาตนเองเข้าไปภายในห้องแห่งนั้น