"เชี่ย! 8โมงกว่าแล้ว ทำไมยัยนั่นไม่มาปลุกวะ โอย...สายแน่เลย"
ผมลุกขึ้นจากที่นอนอย่างรีบเร่ง เมื่อนาฬิกาบอกเวลา 8โมงเช้าของอีกวันแล้ว แต่ทำไมยัยนุ่มนิ่มถึงไม่มาปลุก ยัยนี่ละเลยหน้าที่หรือยังไง สงสัยต้องโทรฟ้องคุณแม่ให้มาจัดการเสียหน่อย เป็นสาวใช้ภาษาอะไรไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง นี่ถ้าไม่เกรงใจว่าเป็นคนของคุณแม่นะ ผมไล่ออกไปนานแล้ว
ผมรีบอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะออกมาเพื่อทานอาหารเช้า แต่กลับกลายเป็นว่าในครัวเองก็มีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีอาหารอะไรเลยสักจาน แม้แต่คนทำกับข้าวก็หายหัว
"พี่นุ่มนิ่ม! ทำไมวันนี้ไม่ทำกับข้าวเนี่ย โอย...หายไปไหนวะ พี่นุ่มนิ่ม! "
ผมเดินตามหาเธอทุกซอกทุกมุมภายในห้องชุดคอนโดหรูของผม แต่ก็ไร้ซึ่งเสียงตอบกลับ แม้แต่คนที่ผมตามหาก็ไม่เจอแม้แต่เงา
ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องนอนของเธออย่างถือวิสาสะ ในใจแอบคิดไปว่าเธอยังอยู่ในห้อง แต่พอเปิดเข้าไปกับเจอแต่ความว่างเปล่า
"ไปมหาลัยแล้วเหรอเนี่ย หรือว่าจะโกรธเรื่องเมื่อคืนวะ"
ผมนึกไปถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็พาให้ใจสั่น เกิดอาการปั่นป่วนแปลกๆ ขึ้นมา จู่ๆ สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นบางอย่างที่โผล่ออกมาจากผ้าห่มที่คลุมอยู่บนที่นอนกว้าง ผมจึงเดินเข้าไปเปิดดู
~ครืด~ครืด~ครืด~
"โอ้ว! แม่เจ้า!"
ทันทีที่ผมเปิดผ้าห่มแล้วเจอกับกองทัพ Sextoy ของเธอ ผมถึงกับกลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอ เพราะอุปกรณ์ครบเซตมากมายของเธอ จนแทบจะหยิบจับใช้ไม่ถูก บางชิ้นยังสั่นค้างอยู่เลย ไม่รู้ว่าเธอลืมปิดมันหรือมันเป็นระบบสั่นอัตโนมัติกันแน่ เห็นแบบนี้แล้วผมก็ชักไม่แน่ใจ ว่าแท้จริงแล้วยัยสาวใช้สายอ่อยของผมคนนี้ เป็นพวกใสซื่อ เจนจัด หรือเป็นพวกซาดิสม์ หรืออะไรกันแน่ ยิ่งคิดผมก็ยิ่งปวดหัวไม่รู้จะต้องเจออะไรเกี่ยวกับเธออีก ถ้าอยากรู้จักเธอให้แน่ชัด เห็นทีผมคงต้องสะกดรอยตามเธอทุกวัน ถึงจะได้คำตอบนั้นมา
ผมยืนมองร่างบางที่กำลังโยกย้ายส่ายสะโพกอย่างยั่วยวนไปมาตามจังหวะเพลงCover Dance ยามที่เธอออกสเต็ปลีลาท่าทางพลางจิกตาใส่คนดู ช่างเป็นภาพที่กระตุ้นต่อมหงุดหงิดของผมได้ดีเหลือเกิน มองไปทางไหนก็มีแต่พวกหื่นกามน้ำลายหก ทั้งถ่ายภาพ ทั้งยืนจ้องแทะโลมยัยนั่นอยู่ตลอดเวลา ส่วนคนที่กำลังเต้นบนเวทีก็ส่งสายตาอ่อยซะทั่วถึง เห็นแล้วก็ของขึ้น นึกอยากจับมาหักคอให้ตาย
การได้ติดตามชีวิตของยัยนี้ในแต่ละวัน ทำให้ผมได้รู้จักเธอมากขึ้นหลายๆ มุม และยังได้เห็นถึงเสน่ห์อันเย้ายวนจนอันตรายของยัยนี่มากขึ้น วันดีคืนดีรุ่นพี่ยกพวกไปตีรุ่นน้องเพราะแย่งยัยนี่ ยัยนี่ช่างมีอิทธิพลมากมาย จนหนุ่มๆ ไม่ว่ารุ่นพี่รุ่นน้องต่างเทใจให้เธอทั้งนั้น งานกิจกรรมใดที่มีเธอเข้าร่วม ก็จะดูครึกครื้นไปหมด ชนิดที่ว่าตั๋วพิเศษงอกมาเป็นเบือ ให้เหล่าเสือหิวได้แย่งกันซื้อเป็นว่าเล่น
"ฮอตจริงนะแม่คุณ"
"อ้าว! คุณโช...มาร่วมกิจกรรมด้วยเหรอคะ แพงนึกว่าคุณโชไม่ชอบดูอะไรแบบนี้ซะอีก"
แพงขวัญเพื่อนสาวหนึ่งเดียวของผมเอ่ยขึ้น หลังจากที่มาเจอว่าผมกำลังยืนดูพี่รหัสของเธอเต้นแร้งเต้นกายั่วตัณหาผู้ชายอยู่ และยัยนั่นก็รักและเอ็นดูแพงขวัญยิ่งกว่าอะไร แพงขวัญเองก็รักยัยนั่นชนิดที่ว่าผมแตะต้องไม่ได้เลยเช่นกัน
"แค่ทางผ่านอ่ะ เลยแวะ...ว่าแต่เมื่อเช้าแพงมากับ...คุณพ่อไม่ใช่เหรอ ไปส่งกันถึงไหนมาถึงมาเรียนเอาจวนจะครึ่งชั่วโมงเรียนแบบนี้"
ผมแกล้งหยอกเย้าแพงขวัญ อันที่จริงผมก็รู้แหละ ว่าคนที่มาส่งแพงขวัญ เขาอยากเป็นอย่างอื่นมากกว่าพ่อหรือผู้ปกครอง แต่ผมแค่หมั่นไส้ที่เขาชอบชักสีหน้าใส่ผม ดูก็รู้ว่าหึงเด็กสาวคราวลูกจนออกนอกหน้า ทั้งที่ตัวเองอยู่ในสถานะที่ไม่ชัดเจนด้วยซ้ำ ผมก็ชอบยั่วประสาทเขาเล่นๆ ก็เท่านั้นเอง ใครจะคิดว่าคนที่รับกรรมดันเป็นแพงขวัญซะนี่
"อย่ามีเรื่องกับคุณอรรถดีที่สุด เวลาคุณโชมีเรื่องกับเขา คนที่เดือดร้อนคือแพง แล้วนี่...มาแอบให้กำลังใจพี่นุ่มนิ่มเหรอ สรุปพี่นุ่มนิ่มหายโกรธคุณโชรึยัง"
แพงขวัญถามถึงยัยนั่น เพราะตั้งแต่วันนั้น ที่ผมดันเผลอไปจูบเธอเข้า ยัยนุ่มนิ่มก็ไม่ยอมคุยกับผมเลย เอาแต่หลบหน้าหลบตา จนผมต้องเป็นฝ่ายตามหาเธอเองในแต่ละวัน คิดแล้วก็หงุดหงิดใจ ก็แค่จูบครั้งเดียวงอแงยังกะสาวแรกรุ่น เรียนจะปี 4อยู่แล้วแท้ๆ ยัยป้าเอ๊ย
"ไม่รู้เขา"
"แพงถามจริงเถอะ คุณโชชอบพี่นุ่มนิ่มหรือเปล่าเนี่ย ดูกระวนกระวายชอบกล"
"บ้า! ใครชอบ"
ผมรีบตอบเพราะตกใจในคำถามของแพงขวัญ ที่พยายามจะเดาใจผมอยู่เรื่อย
"ฮึ! ขอให้จริงเหอะ แพงจะคอยดูพวกปากแข็งแต่ใจอ่อนเนี่ย"
"ผมไม่ได้แข็งแค่ปากนะ อย่างอื่นก็แข็ง"
"ทะลึ่งอีกแล้ว เดี๋ยวเหอะ"
ถึงผมจะยียวนกวนประสาทกับทุกคน แต่แพงขวัญเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผมคุยด้วยแล้วสบายใจจริงๆ เรามีความเป็นเพื่อนที่สนิทใจต่อกันมากจนคิดเกินกว่านั้นไม่ได้ และเธอก็เป็นเหมือนจุดเชื่อมต่อระหว่างผมกับพี่นุ่มนิ่มของเธอแทบจะทุกเรื่อง หลายเรื่องของยัยนุ่มนิ่มผมก็รู้มาจากปากเธอ จนบางครั้งเธอคงนึกรำคาญที่ผมชอบถามถึงยัยนั่นบ่อยๆ แต่สุดท้ายผมก็ได้คำตอบจากเธอทุกครั้ง