@หลายวันต่อมา
รถคันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดตรงมุมด้านหลังของมหาวิทยาลัย ห่างจากทางเข้าอาคารหลักพอสมควร ที่ตรงนี้เงียบ ไม่มีใครเดินผ่าน และมันก็เหมาะที่จะซ่อนใครบางคนไว้จากสายตาคนอื่น
“ฉันจะจอดให้เธอลงตรงนี้”
อาชาพูดขึ้น ขณะยังมองตรงไปข้างหน้า ดวงตานิ่งเย็นและห่างเหิน
“แถวนั้นคนไม่ค่อยเยอะ จะได้ไม่มีใครเอาไปซุบซิบนินทา”
คำพูดของเขากรีดลงกลางใจฉันช้า ๆเหมือนมีดคมที่กดลึกลงทุกวินาที ฉันหันมองเขา อยากถามนักว่า...ฉันมันน่าอายขนาดนั้นเลยหรือไง
“ถ้ากลัวคนอื่นเห็น ก็ไม่ต้องลำบากให้เฟย์ติดรถมาด้วยก็ได้”
ฉันพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ ก่อนจะตอบอย่างไม่ไยดี
“หึ…ก็ไม่ได้อยากเอาเธอมาด้วยหรอก ถ้าไม่ติดว่าเธอพึ่งประสบอุบัติเหตุมา ให้มาเองก็คงจะใจดำเกินไปหน่อย"
"......" ฉันได้แต่ก้มหน้าเม้มปากตัวเองแน่น คำพูดที่ดูหมางเมินทำไมมันถึงได้เจ็บแสบต่อใจขนาดนี้
"ให้เธอลงตรงนี้ดีแล้ว...ฉันขี้เกียจเป็นขี้ปากชาวบ้าน และอีกอย่าง ฉันไม่อยากให้แฟนของฉันเข้าใจผิด”
‘แฟนของฉัน’ คำคำนั้นมันเหมือนลมหายใจของฉันสะดุดค้างกลางอากาศ เขาพูดมันออกมาง่ายดาย โดยไม่แม้แต่จะมองหน้าฉันด้วยซ้ำ
"ถ้ามีคนถามว่าระหว่างเราเป็นอะไรกัน เธอก็บอกไปว่าเธอเป็นญาติห่างๆของฉัน"
"อืม"
ญาติห่างๆที่เคยนอนด้วยกัน ญาติห่างๆที่เคยผูกพันธ์ทางใจ ความรู้สึกดีๆพวกนั้น มันคงไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาอีกต่อไปแล้ว
หลังจากที่เขาย้ำชัดสภานะของเรา ฉันไม่พูดอะไรอีก หันหน้ากลับไปมองนอกกระจกรถ มือกำกระเป๋าแน่น ก่อนจะเปิดประตูลงจากรถและเดินออกมาอย่างเงียบ ๆ
@ในคาสเรียนของเฟย์
กลิ่นเนยสดที่ละลายในกระทะกำลังหอมฟุ้ง เสียงฉู่ฉ่าของข้าวผัดกระเทียมกลบเสียงรอบข้างไปเกือบหมด กลุ่มเพื่อนผู้หญิงที่ยืนอยู่มุมโต๊ะฝั่งตรงข้าม กำลังพูดคุยซุบซิบเกี่ยวกับใครบางคน
“นี่ๆ มึงเห็นไอจีมายป่ะ เมื่อคืนลงสตอรี่อยู่กับพี่อาชาอีกแล้วนะ”
“ก็ไม่แปลกป่ะ เดี๋ยวนี้เขาควงกันออกหน้าออกตาขนาดนั้น ดาวบริหารกับเดือนวิศวะ ดูดีจะตาย”
“นั่นดิ แต่จะว่าไป เมื่อวานกูเห็นพี่อาชาควงยี่หวาคณะนิเทศนะ คนนั้นก็สวยเปรี้ยวดีอ่ะ”
"ก็คนหล่ออ่ะมึง พี่เขาออกจะหล่อ หล่อ รวยขนาดนั้น อยากได้ใครแค่กระดิกนิ้ว สาวๆก็รีบวิ่งเข้าหาแล้วป่ะ"
มือที่กำลังคนข้าวในกระทะสั่นน้อย ๆ
ทุกคำพูด ทุกเสียงซุบซิบนินทามันดังชัดเจน จนหัวใจมันเจ็บหน่วง
“ได้ข่าวว่าอาทิตย์ก่อนยัยมายประกาศกลางไอจีว่าคบกับพี่อาชาแล้ว เห็นท่าทางหวานๆ เรียบร้อย ไม่เบาเลยนะมึง"
"ก็แน่ล่ะสิ มีผัวหล่อขนาดนั้นก็ต้องแสดงตัวตนซะหน่อย เมื่อก่อนพี่อาชาเคยมีข่าวว่าไปควงกับเด็กคณะศิลป์คนหนึ่ง ชื่ออะไรนะ…มะปรางรึเปล่า?”
"ถ้าเป็นกู กูก็หวงนะ หล่อแถมยังน่ากินขนาดนั้น ควงสาวไม่ซ้ำหน้าไม่ใช่เรื่องแปลกอ่ะ"
เสียงของอีกคนเอ่ยขึ้นเบา ๆ แต่ชัดเจนพอจะทิ่มแทงความรู้สึก หัวใจฉันเต้นแรงจนเหมือนมันกำลังจะระเบิด มือเผลอกดตะหลิวแน่น ภาพในอดีตถาโถมเข้ามาในหัวฉัน เมื่อครั้งเรายังรักกัน
"พี่จะรักเฟย์คนเดียวตลอดไป"
ฉันกัดริมฝีปากแน่น พยายามระงับความรู้สึกแต่ภาพในหัวมันชัดเจน ทั้งรอยยิ้มของเขา
ทั้งคำพูดที่เคยบอกว่า "จะมีแค่ฉันคนเดียว" ทั้งหมดมันเป็นแค่คำสัญญาลวงๆ คำพูดนั้น มันไม่มีค่าอะไรเลย
"กำลังหวังอะไรอยู่ เธอหวังอะไรอยู่อีกเฟย์"
ฉันได้แต่คิดในใจ ฝืนหายใจ กลืนน้ำตาก้อนใหญ่ลงคอ แต่ไม่ทันจะกลั้นมันเอาไว้ได้ หยดใส ๆ หนึ่งหยดก็ร่วงลงบนไข่ในจาน แล้วก็ตามด้วยอีกหยด
“เฟย์…โอเคไหม ตาแดงมากเลยนะ”
เสียงของมีนเพื่อนใหม่ของฉันดังขึ้นเบา ๆ จากข้างตัว ฉันส่ายหน้า รีบก้มหน้าใส่ผ้ากันเปื้อน
“เปล่า ไม่มีอะไร…พริกไทยเข้าตาน่ะ”
"ไปล้างออกก่อนไหม?"
"งั้นเดี๋ยวเฟย์มานะ ขอไปเข้าห้องน้ำก่อน"
"ให้เราไปเป็นเพื่อนไหม"
"ไม่เป็นไร มีนทำต่อเถอะ เราไปเองได้ ขอบใจนะ"
คำโกหกที่ใครก็รู้ว่ามันไม่จริง ฉันได้แต่กลืนความเจ็บปวดนั้นเอาไว้ในใจก่อนจะขอตัวออกมาเข้าห้องน้ำ แต่เหมือนกัวใจฉันมันจะเจ็บปวดไม่พอ โชคชะตาถึงได้พาฉันมาเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดที่ฉันเองแทบกระอักออกมาเป็นเลือด เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้าทำฉันชาไปทั้งตัว.....
อาชาเดินออกมาจากห้องน้ำชายที่อยู่ติดกัน เสื้อเชิ้ตของเขาไม่ได้ติดกระดุมเม็ดบน ใบหน้าแดงระเรื่อเหมือนคนพึ่งจะออกกำลังกายมาอย่างหนัก เขากำลังสวมใส่เข็มขัดที่หลุดรุ่ย เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นมาเห็นฉันดวงตาของเราสบกันเพียงเสี้ยววินาที
"เฟย์"
เขาเอ่ยชื่อฉันเพียงคำเดียวจากนั้นไม่พูดอะไร เพียงแต่มองฉันอย่างกับคนที่ทำตัวไม่ถูก และไม่กี่วินาทีถัดมา...ผู้หญิงคนหนึ่งก็เดินตามออกมาในสภาพที่เสื้อผ้าหลุดรุ่ยไม่แพ้กัน
"มองอะไร รู้จักกันเหรอ" ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นว่าฉันยืนนิ่งมองไปที่เขาและเธอ
"เปล่า ไปเถอะ"
และคำพูดเพียงคำเดียวของเขา มันชั่งชัดเจน ว่าเขาไม่สนใจในความรู้สึกของฉันอีกต่อไปแล้ว สายตาที่นิ่ง และคำเย็นชา ไม่มีคำอธิบาย ก่อนที่เขาจะเดินผ่านหน้าฉันไป การกระทำของเขาในตอนนี้มันเป็นสิ่งยืนยันว่าทุกคำที่คนอื่นเขาพูดกันปากต่อปากนั้น มันคือความจริง หนึ่งปีที่ผ่านมาเขาเปลี่ยนไปแล้ว ความสัมพันธ์ของเขากับผู้หญิงคนอื่น มันลึกซึ้งเกินกว่าที่ฉันคิดเอาไว้มาก ฉันได้แต่ยืนนิ่ง ร่างกายชาไปหมด ไม่มีคำถาม ไม่มีคำพูดใดๆ มีแค่เสียงหัวใจที่เต้นช้าลง…ช้าลง…เหมือนมันกำลังจะหยุดลงตรงนั้น