“มึงจะให้กูล้างตัวตรงนี้จริง ๆ หรอวะ”
มันว่าพร้อมกับก้มมองดูน้ำในลำธารที่ไม่ห่างจากถนนใหญ่มากนักด้วยสายตาลังเล
“มึงจะไม่ลงไปล้างตัวก็ได้นะ ถ้าทนกลิ่นเยี่ยวไอ้เข้มได้น่ะ หึหึ”
ผมกลั้วหัวเราะในลำคอเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่
“ลงก็ลงวะ”
มันว่าก่อนจะถอดรองเท้าแล้วก้าวขาลงน้ำอย่างจำยอม
มึงนี่ก็จริง ๆ เลยนะ น้ำมันก็ไม่ได้สกปรกอะไรนักหนา ติดไปทางใสสะอาดด้วยซ้ำยังจะเรื่องมากอีก
“ไอ้เชี่ย! น้ำแม่งโคตรเย็นเลยว่ะ”
มันหันมายิ้มแฉ่งก่อนจะควักน้ำขึ้นมาพรมที่ต้นคอ
“รีบล้างตัวแล้วก็รีบขึ้นมาได้ละ กูไม่ได้มีเวลามากขนาดนั้น”
ผมเดินไปนั่งหย่อนขาลงน้ำพร้อมกับเตะเท้าด้วยท่าทางสบาย ๆ น้ำนี่แม่งเย็นจริงอย่างที่มันบอกด้วยว่ะ
“มึงไม่ลงมาล้างตัวหรอวะ เสื้อผ้ามึงก็เลอะเหมือนกัน”
มันชี้นิ้วมาที่เสื้อยืดของผมที่มีรอยเปื้อนเป็นบางจุด
“ไม่เอาอะ เปื้อนนิดเดียว เดี๋ยวกูกลับไปซักที่บ้าน”
“เอางั้นหรอวะ”
“เออ เรื่องของกูเถอะ มึงก็ขึ้นมาได้ละ จะหกโมงละเนี่ย เดี๋ยวฟ้ามืดจะกลับลำบาก”
“ช่วยดึงกูขึ้นหน่อยดิ ตอกตะปูทั้งวันแขนไม่มีแรงเลย”
มันแหวกว่ายเข้ามาใกล้ก่อนจะยื่นแขนมาตรงหน้าผม
อ่อนแอจริง ๆ เลยนะมึง ทำงานแค่นี้ทำเป็นสำออย
ผมกลอกตามองบนอย่างเบื่อหน่ายแต่ก็ยอมยื่นมือเข้าไปจับมือมันไว้ก่อนจะออกแรงดึง
ตู๊มมมม!!
ไม่ทันทีผมจะได้ออกแรง ผมก็ต้องหน้าคะมำลงน้ำด้วยแรงกระชากของคนตรงหน้า
“ไอ้ศิวะ ไอ้เหี้ย!!”
ผมโวยวายวักน้ำสาดใส่หน้ามันยกใหญ่
“ฮ่า ๆ เป็นไง เย็นดีมั้ย”
มันระเบิดหัวเราะออกมาด้วยความสะใจที่แกล้งผมได้สำเร็จ
คนอย่างมึงนี่นะ มันไว้ใจไม่ได้เลยจริง ๆ
“เอาน่าา~ อย่าทำหน้าอย่างงั้นสิ หันมานี่มาเดี๋ยวกูล้างตัวให้”
ไอ้ศิวะรั้งแขนผมเข้าไปชิดตัวแต่ก็โดนผมสะบัดออกด้วยความฉุนเฉียว
“ไม่ต้องมาจับตัวกู!!”
ผมฮึดฮัดด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะควักน้ำในระดับเอวขึ้นมาขยี้เสื้อที่เปื้อน
“อย่าดื้อสิ เดี๋ยวกูทำให้”
ไม่พูดเปล่าไอ้ศิวะกำคอเสื้อผมกระชากเข้าไปชิดตัวก่อนจะวักน้ำขึ้นมาขยี้คราบเปื้อนที่แผ่นอก
ผมขี้เกียจต่อปากต่อคำกับมันเลยยอมยืนนิ่ง ๆ ให้มันขยี้เสื้อตามที่มันต้องการ
คนตรงหน้าวักน้ำขึ้นมาลูบวนที่แผ่นอกกว้างสัมผัสที่หัวนมผมอยู่หลายครั้ง ถ้าไม่ติดว่ามึงซักเสื้อให้กูอยู่ กูคงคิดว่ามึงกำลังแกล้งกูแน่ ๆ
“เสร็จยังวะ”
ผมถามอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เมื่อมันเริ่มขยับตัวเข้ามาแนบชิดตัวผมขึ้นเรื่อย ๆ จนใบหน้าเราอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ
“ยังไม่เสร็จ ทำไมมึงจะเสร็จแล้วหรอวะ”
มันพูดกำกวมจนผมไปไม่เป็น
“หึหึ ทำไมใจมึงเต้นแรงจังวะ เขินหรอ?”
มันเอาแต่พูดหยอกล้อไม่เลิกจนผมทำตัวไม่ถูกจึงใช้ฝ่ามือดันอกแกร่งของมันออกให้พ้นตัว
“เขินเหี้ยไร เร็ว ๆ กูอยากกลับบ้านแล้ว”
ผมรีบเบี่ยงประเด็น ทั้งที่หน้ากำลังแดดแปร๊ดจนปิดไม่มิด มือก็วักน้ำขึ้นมาพรมจนทั่วตัว
“หึหึ งั้นหรอ”
มันขมวดคิ้วถามอย่างยียวน จนผมชักหงุดหงิด
“กูจะกลับละ มึงไม่กลับก็ตามใจ”
ผมผละออกหวังจะเดินหนีแต่ก็ถูกมันรวบตัวไปกอดไว้แน่น
“เชี่ย!! ทำไรของมึงวะ”
ผมโวยลั่น พยายามดิ้นขัดขืนสุดฤทธิ์ จะแกล้งอะไรกูอีกไอ้ชาติหมา!!
“อย่าเพิ่งไปได้มั้ย กูขออยู่อย่างนี้ซักพักก่อน”
มันพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนลง
“ห้านาที กูขอแค่ห้านาทีนะ”
มันกระชับกอดแน่นขึ้นจนผมที่เหนื่อยหอบจากแรงดิ้นขัดขืนยอมสยบลง
ไอ้ศิวะค่อย ๆ คลายแขนจากการกอดรัดผมลง แต่ยังสวมกอดเอาไว้ หลวม ๆ อยู่
“มึงต้องการอะไรวะ”
ผมถามมันออกไปด้วยความสับสน มันต้องการอะไรกันแน่ เข้ามาทำแบบนี้กับผมทำไม?
ตั้งใจจะปั่นประสาทผมเล่นอย่างงั้นหรอ
“กูก็ไม่รู้ กูแค่อยากอยู่กับมึง อยากจ้องหน้ามึงแบบนี้ไปนาน ๆ”
มันพูดพร้อมกับมองสบตาผมนิ่ง
“กูถามจริง ๆ นะ มึงบอกว่าไม่ได้เป็นเกย์ แล้วมึงมาเอากูทำไม”
ผมถามมันออกไปตรง ๆ อย่างไม่อ้อมค้อม ด้วยนิสัยตรงไปตรงมาของผม
“ก่อนหน้านี้ก็มีอะไรกับผู้หญิงมาตลอด แต่กูคงรุนแรงไปมั้ง ไม่มีใครทนกูได้ซักราย กูก็คิดมาตลอดว่าถ้ากูลองกับผู้ชายดูบ้าง เขาจะทนกูได้มั้ย จนกระทั่งวันที่ไปเจอมึงในสภาพนั้น กูแม่งห้ามใจตัวเองไม่ได้เลยว่ะ
พอผ่านคืนนั้นไปกูก็มานั่งคิดนะ ว่ามันอาจจะเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบ กูอาจจะแค่เผลอไผลไปชั่วขณะ แต่พอกูบุกไปที่ห้องมึงจนเรามีอะไรกันรอบที่สอง กูถึงได้รู้ว่ากูไม่ได้เผลอไปแค่ชั่วขณะ แต่ว่ากู….”
ผมนิ่งอึ้งฟังมันพรั่งพรูความในใจออกมาด้วยความไม่เข้าใจ
“มึงจะบอกว่าชอบกูงั้นหรอ ทั้งที่มึงไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนเนี่ยนะ น้ำเน่าไปป่ะ”
“กูบอกมึงไปหมดแล้ว กูไม่รู้ว่ามันเรียกว่าชอบรึเปล่า แต่กูอยากอยู่ใกล้มึงตลอดเวลา เห็นหน้ามึงตอนไหนกูก็ใจเต้นแรง แบบนี้มันเรียกว่าอะไรวะ”
มันว่าพร้อมกับจับมือผมเข้าไปทาบที่หน้าอกแกร่ง ที่ในขณะนี้มันกำลังเต้นโครมครามราวกับจะระเบิดออกมา
ผมนิ่งงันไปชั่วขณะ ความสับสนก่อเกิดขึ้นมาภายในจิตใจ
“มึงรังเกียจกูมั้ย แค่มึงตอบว่าใช่ กูจะตัดใจ”
มันจ้องเข้ามาในดวงตาของผมนิ่งแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ผมไม่รู้จะตอบมันว่ายังไง ผมเกลียดขี้หน้ามันก็จริง แต่ยิ่งได้เจอได้คุย ผมกลับไม่นึกรังเกียจในสิ่งที่มันทำกับผมเลยสักนิด
“กู….”
ผมอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ กลัวว่าถ้าเผลอตอบอะไรพลาดไปแล้วจะต้องมานั่งนึกโทษตัวเองทีหลัง
“ครบห้านาทีแล้ว”
ผมรีบเบี่ยงหน้าหลบเพราะทำตัวไม่ถูก มึงเล่นพูดตรง ๆ แบบนี้กูก็ไปไม่เป็นสิวะ
“ขออีกหนึ่งนาทีได้มั้ย”
มันร้องขอเสียงแผ่วเบา ก่อนจะเชยคางผมขึ้นมาสบตา
“มึงใจเต้นกับกูบ้างมั้ยวะ”
มันเอ่ยถามก่อนจะทาบมือหนาลงแผ่นอกแกร่งของผมแล้วโน้มใบหน้าเข้า มาใกล้
ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ควรทำยังไง ควรผลักมันออกมั้ย? แต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีริมฝีปากฉ่ำนุ่มก็ทาบทับลงมาที่ริมฝีปากผมเสียแล้ว
หัวใจผมเริ่มเต้นระส่ำไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง และผมคงปกปิดมันไม่ได้อีกต่อไปเพราะฝ่ามือหนาของอีกฝ่ายทาบลงบนหัวใจของผมอยู่
มันใช้มือที่คล้องเอวเลื่อนขึ้นมาคล้องที่หลังคอผมจากทางด้านหลังก่อนขยำเส้นผมที่ท้ายทอยอย่างเบามือ
คนตรงหน้าค่อย ๆ แทรกลิ้นร้อนเข้ามาภายในโพลงปากนุ่มชื้นของผมอย่างง่ายดาย เพราะผมเผยอปากเตรียมรับสัมผัสอยู่ก่อนแล้ว เราทั้งคู่ต่างสลับกันดูดดุ้นลิ้นของกันและกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
ลิ้นร้อนเกี่ยวพันจนเกิดเสียงบดเบียดในโพลงปาก เราบดจูบกันอย่างดูดดื่มและเนิ่นนานจนทั่วริมฝีปากเปียกชื้นไปด้วยน้ำลาย
เหมือนไอ้ศิวะจะตั้งสติได้รีบถอนริมฝีปากออก แต่ผมก็คว้าคอมันไว้หวังจะบูดจูบต่อให้หนำใจ แต่ก็โดนมันห้ามปรามไว้ก่อน
“พอก่อน กูไม่ไหว ไม่งั้นกูได้เอามึงกลางป่าแน่”
มันพูดเสียงหอบกระเส่าสายตาหยาดเยิ้ม บ่งบอกว่าอารมณ์ตอนนี้ไปสุดมากแค่ไหน
ผมจึงพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจ ก่อนจะผละออกแล้วเดินขึ้นจากน้ำ
เราทั้งคู่เดินออกมาที่ถนนใหญ่เงียบ ๆ โดยไม่มีใครยอมพูดอะไรออกมา
แม่งเอ๊ย!! อึดอัดชะมัด
“มึงจะเอาไงกับไอ้สองตัวนี่วะ”
ผมพยักพเยิดหน้าไปที่ไอ้ลูกหมาสองตัวที่นอนซบกันอยู่ใต้พุ่มไม้
“ก็คงปล่อยมันไว้นี่ล่ะ” มันพูดอย่างปลง ๆ
“เหอะ มึงนี่ยอมแพ้อะไรง่ายดีเนาะ”
“แล้วมึงจะให้กูทำไง”
ผมครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ก่อนจะตัดสินใจอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“งั้นเอางี้มึงเอาไปเลี้ยงตัวนึง กูก็จะเอากลับไปเลี้ยงตัวนึงเหมือนกัน”
ผมเสนอ
“หึหึ งี้ก็เท่ากับว่าหมาคู่อะดิ”
มันกระตุกยิ้มออกมาอย่างล้อ ๆ
“งั้นก็เชิญมึงเอาไปเลี้ยงเองสองตัวเลยละกัน กูไม่เลี้ยงช่วยแม่งละไอ้สัส!!”
“เอ้า! ได้ไง มึงเป็นคนเสนอเองนะ”
มันมุ่ยหน้าลงจนน่าถีบ
“มึงเอาตัวนี้ไป กูจะเอาตัวนี้”
ผมอุ้มลูกหมาตัวสีน้ำตาลขึ้นสวมกอดไว้ในอกก่อนจะเดินแยกออกมา ทิ้งลูกหมาสีน้ำตาลลายขาวนอนแผ่หลาอยู่ตรงนั้น
“มึงจะไปไหน”
ไอ้ศิวะตะโกนถามไล่หลัง
“กลับบ้านสิวะ จะอยู่ทำซากอะไร”
ผมตะโกนตอบมันโดยไม่หันหลังกลับไปมอง
ผมเดินตามทางมาเรื่อย ๆ วันนี้ถนนเปลี่ยวกว่าทุกวันเพราะไฟตามสองห้างทางเสีย สงสัยพรุ่งนี้ผมคงต้องสั่งให้ลูกน้องเข้ามาซ่อมแล้วล่ะ
ปิ๊ก ปิ๊ก!!
เสียงบีบแตรดังไล่หลังพร้อมกับตีไฟสูงสาดขึ้นมาจนแสบตา
“ขึ้นมา”
ทันทีที่รถจอดเทียบข้าง ไอ้ศิวะก็กวักมือเรียกผมขึ้นไปนั่ง
ผมทำหน้าลังเลอยู่เล็กน้อย กลัวว่าใครจะมาเห็นว่าผมอยู่กับมันเข้า คงจะไม่ใช่เรื่องดีแน่
“ขึ้นมาเถอะน่า กูไปส่งแค่ปากทาง มึงค่อยเดินกลับเข้าบ้าน”
ไอ้ศิวะร้องบอก ราวกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่
ผมชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยอมเปิดประตูขึ้นรถตามที่มันบอก
มันขับรถมาเรื่อย ๆ ปากก็ฮำเพลงตลอดทาง มึงจะอารมณ์ดีอะไรนักหนาวะ
“มึงว่าเราจะตั้งชื่อมันว่าไงดีวะ”
อยู่ ๆ ไอ้ศิวะก็เอ่ยถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ว่าไงตัวเล็ก อยากชื่ออะไรเราอะ”
มันเอื้อมมือไปลูบหัวหมาที่นอนอยู่บนตักแผ่วเบา ผมถึงเข้าใจในประโยคที่มันพูดเมื่อสักครู่
“หมามึงชื่อไอ้น้ำตาลดีมั้ยวะ ตัวมันสีน้ำตาล ส่วนหมากูก็ชื่อไอ้ด่าง ตัวมันลาย ๆ”
ไอ้ศิวะหันมาเสนอ
“ไม่เอาอะ ชื่อแม่งโคตรโหล เรียกทีนึงหมาวิ่งมาทั้งซอย เอาอันที่มันแปลก ๆ แต่จำง่าย ๆ น่ะ”
“มึงอยากได้แปลก ๆ แต่จำง่าย ๆ ว่างั้น”
มันปลายหางตามามองผมครู่หนึ่งก่อนจะหันกลับไปมองถนนต่อ
“อืม”
“งั้นต้องชื่อนี้เลย หมากูชื่อไอ้เหี้ย หมามึงชื่อไอ้สัส รับรองจำง่ายไม่ซ้ำใครแน่นอน”
“หึหึ มึงไม่แปลกซักเรื่องจะได้มั้ยวะ”
ผมหลุดยิ้มออกมาก่อนจะส่ายหน้าด้วยความปลง
“ชื่อออกจะเท่ มึงน่ะเข้าไม่ถึง”
“หึหึ ใครเข้าถึงก็คงแปลกเหมือนมึงนั่นแหละ”
ไอ้ศิวะตีไฟเลี้ยวก่อนจะเหยียบเบรกจนล้อรถจอดสนิท
“กูส่งถึงแค่ตรงนี้นะ มึงเดินกลับเองได้ใช่มั้ย?”
“ทำไมจะไม่ได้ นี่มันทางกลับบ้านกู”
ผมว่าพร้อมกับอุ้มลูกหมาแล้วผลักประตูออกไป
“เดี๋ยวก่อน!”
ไอ้ศิวะคว้าแขนผมไว้ทำให้ผมต้องหยุดชะงัก
“อะไรอีกล่ะ”
ผมชักสีหน้าหงุดหงิด ยื้อกูทั้งวันเลยนะไอ้สัส ทำอย่างกับเด็กติดแม่ไปได้
“ฝันดีนะ”
ไอ้ศิวะว่าพร้อมกับไล่มือลงมาจับที่มือผมก่อนจะยกมันขึ้นมากดจูบแผ่วเบา ที่ หลังมือ
ผมเห็นดังนั้นก็สติหลุดลอย อึ้งอ้าปากค้างจนงับไม่ลง นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นมันทำตัวอ่อนโยนแบบนี้
บ้าจริง! ผมกำลังใจเต้นแรงให้กับคนอย่างมันอีกแล้ว
ผมพยายามรวบรวมสติก่อนจะชักมือกลับแล้วรีบยกก้นออกมาจากรถของมันทันที ผมรีบเดินจ้ำอ้าวมาตามถนนโดยไม่หันกลับไปมองมันอีก กลัวมันจะรู้ว่าผมกำลังแอบหวั่นไหวให้คนอย่างมันอยู่
“เอ้าลูกพี่ ไปไหนมาพวกผมเป็นห่วงแทบแย่”
ทันทีที่ผมก้าวขาเข้าบ้าน ลูกน้องที่จับกลุ่มกันอยู่ก็พากันกรูเข้ามาถามไถ่หน้าตาตื่น
“แล้วทำไมลูกพี่ตัวเปียกอย่างงี้ล่ะ”
“แล้วนี่หมาใครวะลูกพี่”
พวกมันยิงคำถามเข้ามารัว ๆ จนผมเลือกตอบไม่ถูก
“แล้วทำไมลูกพี่…”
“พออออ!!!”
ผมรีบยกมือห้ามก่อนที่พวกมันยิงคำถามอะไรมากมายไปกว่านี้
“คือกูกลับไปเอากระเป๋าตังค์ ขากลับกูเดินไปเห็นลูกหมาตกน้ำ กูก็เลยลงไปช่วยมันขึ้นมา ไม่รู้จะเอามันไว้ไหนเลยเอามันกลับมานี่แหละ”
“อ๋ออออ~”
พวกมันลากเสียงยาวพร้อมกับพยักหน้า
“ลูกพี่จะเลี้ยงไอ้หมาหน้าโง่นี่หรอ”
ไอ้เข้มชี้มือไปที่ลูกหมาตัวสีน้ำตาลในอ้อมกอดผม
“นั่นดิ ผมจำได้ว่าลูกพี่รำคาญเสียงหมาร้องยิ่งกว่าอะไรดี”
ผมลืมไปเสียสนิทว่าพวกนี้มันเคยเอาหมามาเลี้ยงแต่ผมก็ไล่ตะเพิดหนีเพราะหนวกหูเสียงร้องหงิง ๆ ที่น่ารำคาญของมัน
“ก็…หมาตัวนี้มันร้องที่ไหนล่ะ พวกมึงดูสิ”
ผมชูไอ้ลูกหมาตัวเล็กที่กำลังทำตาปริบ ๆ ให้พวกมันดู
“หงิง ๆ ๆ บ๊อก ๆ ๆ”
ทันทีที่ผมเอ่ยชม ไอ้หมาหน้าโง่นี่ก็เห่าออกมาอย่างรู้จังหวะ
ไอ้เวรเอ้ย กูเพิ่งโฆษณาไปหยก ๆ เล่นกูซะแล้ว
พวกมันยิ้มกรุ้มกริ่มกันยกใหญ่พยายามกลั้นขำสุดชีวิต และไม่มีใครกล้าหัวเราะออกมา คงกลัวว่าผมจะถีบยอดหน้าให้
“แล้วได้ชื่อมันยังอะลูกพี่”
ไอ้บอมถามพร้อมช้อนลูกหมาในมือผมเข้าไปอุ้มไว้ในอ้อมแขนอย่างเอ็นดู
ผมนิ่งครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับไป
“ไอ้สัส”
“ด่าผมทำไมอะลูกพี่”
ไอ้บอมทำหน้างุนงงเป็นไก่ตาแตก เมื่ออยู่ ๆ ก็โดนผมด่าเข้าให้
“กูไม่ได้ด่า ไอ้ลูกหมาเนี่ย ชื่อไอ้สัส”
“ห้ะ!! ไอ้สัส!!!”
พวกมันต่างตะโกนออกมาด้วยความงุนงงหนักกว่าเดิม
“ทำไมต้องชื่อนี้อะลูกพี่ ผมว่ามันทะแม่ง ๆ นะ”
ไอ้เข้มเกาหัวด้วยความสงสัย
“ไม่ต้องถามมาก ฝากหาอะไรให้มันแดกด้วย กูไปนอนละ”
ผมปัดป่ายก่อนก็รีบเดินแยกออกมา ท่ามกลางสายตามึนงงของพวกบรรดาลูกน้อง
หลังจากผมอาบน้ำเสร็จผมก็รีบเข้านอนทันที แต่ไม่รู้ทำไม นอนเท่าไหร่ก็นอนไม่หลับ ในหัวมันคิดถึงแต่เรื่องช่วงเย็น
‘มึงใจเต้นแรงกับกูบ้างมั้ยวะ’
ผมเลื่อนมือขึ้นมาสัมผัสที่หน้าอกแผ่วเบา เสียงตึกตักดังขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากที่นึกถึงภาพริมฝีปากบางของมันที่ประกบเข้ามา
เพียงแค่นึกถึงใจผมก็เต้นระส่ำราวกับจะกระโดดออกมา ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ผมปล่อยให้มันเข้ามามีผลต่อการเต้นของหัวใจผม
จะกระโดดออกมา ตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ ที่ผมปล่อยให้มันเข้ามามีผลต่อการเต้นของหัวใจผม