“ฟ้า… เราแย่แล้วลูก…” น้ำเสียงสั่นเครือของคุณเพ็ญพร แทบจะทำให้เพียงฟ้าต้องลุกขึ้นยืน “เจ้าหนี้… เจ้าหนี้เขาจะมายึดบ้านเรา!” คำพูดที่ทำให้เพียงฟ้าตกใจเป็นอย่างมาก อีกแล้วเหรอเหตุการณ์ลักษณะเดิมๆ เกิดขึ้นอีกแล้วเหรอ
เพียงฟ้ากำโทรศัพท์แน่น ใจเต้นแรงราวกับจะทะลุออกมา
“อะไรนะคะ!? บ้านของเรา…ทำไมถึงถูกยึด? แม่… แม่ทำอะไรอีกคะ!”
คุณเพ็ญพรสะอื้นจนแทบพูดไม่ออก แต่ท้ายที่สุดก็สารภาพเสียงเบาเต็มไปด้วยความละอาย
“แม่… แม่เอาบ้านไปจำนองไว้ ฟ้า…แม่แค่คิดว่าถ้าชนะพนันครั้งนี้ แม่จะหาเงินมาใช้หนี้คืน แต่แม่พลาด… แม่แพ้หมดตัว…”
ราวกับโลกทั้งใบหยุดหมุน เสียงหัวใจเพียงฟ้าดังก้องในหู น้ำตาร้อนผ่าวเอ่อคลอโดยไม่รู้ตัว
“แม่… ทำไมแม่ถึงทำแบบนี้…สมบัติของเราถูกยึดไปทีละชิ้น ทีละชิ้นไม่พออีกหรือคะ? ตอนนี้เหลือแค่บ้านหลังนี้… ที่เราอยู่อาศัยด้วยกันนะคะ!”
“แม่ไม่ได้อยากให้เป็นแบบนี้…แม่พยายามแล้ว แต่เขาไม่ให้เวลาเราอีกแล้ว ฟ้า… เขาบอกว่า…เขาจะมายึดบ้านเราแล้ว”
มือเพียงฟ้าสั่นเทา โทรศัพท์แทบหลุดจากมือ เธอรู้สึกเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างกำลังถล่มลงมาทับหัวใจ เธอเหลือเพียงบ้านหลังนี้เท่านั้น ที่เป็นทั้งที่พักพิงและความทรงจำกับครอบครัว แต่วันนี้มันกลับกำลังจะหายไปต่อหน้าต่อตา
“แล้ว… เจ้าหนี้คนนั้น…คือใครกันคะแม่?” เพียงฟ้ากัดฟันถาม น้ำเสียงสั่นเครือ
เสียงปลายสายเงียบไปครู่ ก่อนคุณเพ็ญพรเอ่ยออกมาอย่างอับจนหนทาง
“คุณภีม”
ชื่อเพียงสองพยางค์นั้น เสมือนคมมีดที่กรีดลึกลงไปในใจเพียงฟ้า ร่างของเธอสั่นสะท้านทันที ภีม…ชายคนนั้น ถ้าเธอจำไม่ผิดเขาคือเศรษฐีคนหนึ่ง ที่กำลังดังในหมู่ไฮโซรูปงาม ประวัติของเขาคลุมเครือเหลือเกิน ไม่มีใครรู้ว่าบิดามารดาของเขาคือใคร รู้แค่เพียงว่าเขาหล่อและรวยมากเท่านั้นเอง
บ้านหลังนี้…ไม่ใช่แค่บ้าน แต่มันมีความหมายของชีวิตเธอ และวันนี้เขากำลังจะพรากมันไปจากเธอด้วยน้ำมือของตัวเอง เธอจะยอมให้มันเป็นอย่างนั้นไม่ได้ บ้านที่เธอรักมากเหลือเกิน บ้านที่เป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เธอไว้ระลึกถึงบิดา เธอจะปล่อยให้มันถูกยึดไปไม่ได้
เสียงล้อแท็กซี่บดไปตามถนนสายยาว แต่ในความรู้สึกของเพียงฟ้า มันกลับเชื่องช้าเกินทน ใบหน้าสวยซีดเผือด มือน้อยกำโทรศัพท์แน่นจนแทบหัก ความกังวลตีรวนอยู่ในอกอย่างบ้าคลั่ง