แสงแดดร้อนแรง แต่สายลมกลับหนาวยะเยือก ราวกับจะกรีดเลือดเนื้อ เฉือนหัวใจของเหล่าสรรพสัตว์ให้แหลกลาน...
สายลมแรกในฤดูหนาวของปีนี้...หนาวจับจิตจับใจจนธารน้ำจวนกลายเป็นน้ำแข็ง แต่ต้นไม้และพืชนานาพันธุ์กลับเขียวสดสวยเหมือนหยกอัญมณี ดอกไม้ป่าส่งกลิ่นหอมละมุนกำจายไปทั่ว
“ครบ 10 ปีแล้ว”
“พวกนั้นส่งสัญญาณมาแล้ว”
ความหวาดกลัวของคนในหมู่บ้านริมเขาเริ่มแผ่กระจายไปเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะคนแก่คนเฒ่าที่เชื่อตำนานลี้ลับเกี่ยวกับชนเผ่าลึกลับกลางหุบเขา
คนป่าเถื่อนกายแกร่งเหมือนยักษา กำลังจะออกจากป่าเพื่อมาลักพาตัวหญิงสาวบริสุทธิ์ไปบูชายัญ !
“อีกสิบหกวันก็จะถึงคืนพระจันทร์เต็มดวงแล้ว พวกนั้นจะต้องออกมาหาหญิงพรหมจรรย์ไปทำพิธีแน่ ใครมีลูกมีหลานที่นมตั้งเต้าแตกพาน มีประจำเดือนแล้ว ก็ให้รีบจัดการซะ จะพาไปหลบที่อื่นเสีย หรือให้แต่งงานมีผัวก็รีบกันหน่อย”
หญิงสาวที่เข้าข่ายว่าพวกนั้นต้องการ ก็คือหญิงสาวบริสุทธิ์ ที่ยังมีพรหมจรรย์หอมหวาน เป็นวัยแรกแย้มที่มีประจำเดือนแล้วเท่านั้น
เพราะงั้น เด็กน้อยเด็กนิด ก็ถือว่ายังปลอดภัยอยู่ ก็เหมือนกับเธอเมื่อสิบปีที่แล้ว
สิบปีที่แล้ว...ตอนที่คนทั้งหมู่บ้านเกิดความหวาดกลัวต่อลมหนาวยะเยือกชวนขนลุก กลิ่นหอมของดอกไม้ป่าที่ไหลเอื่อยเข้ามาในหมู่บ้าน หมอกขาวหนาแน่นปกคลุมไปทั้งหุบเขาจนมองไม่เป็นท้องฟ้า
วันนั้น...ลดาละมัยอายุได้สิบเอ็ดขวบพอดี เธอเป็นลูกสาวคนเล็กของผู้ใหญ่บ้าน ก็เลยไม่ต้องหลบไปอยู่ที่อื่นเหมือนกับพี่สาวอีกสองคน ที่อายุเกือบยี่สิบทั้งคู่ ซึ่งยังเป็นสาวพรหมจรรย์
“เอายัยลดาไปด้วยสิแม่” ผู้เป็นพ่อคะยั้นคะยอเมียให้หอบหิ้วลูกสาวคนเล็กไปด้วย
“ก็ว่าจะเอาไปนั่นแหละ”
“ไม่จำเป็นหรอกแม่ หนูยังไม่มีประจำเดือนซะหน่อย” ยัยเด็กรู้มาก แถมแก่นแก้วเกินวัย เป็นหัวโจกของเด็ก ๆ ทั้งหมู่บ้าน ออกความคิดเห็นอย่างฉะฉาน
“ถึงยังไม่มี แต่แกก็นมแตกพานแล้ว”
“โอ๊ยแม่ พูดอะไรอย่างนั้น หนูก็แค่อ้วน”
“อ้วนอะไรของแก แกแค่แตกเนื้อสาว”
“ไร้สาระ ไปเล่นน้ำตกดีกว่า”
“อย่าแก้ผ้าเล่นน้ำล่ะ”
“งั้นใส่แค่กางเกงในตัวเดียว”
“ยัยลดา!”
“แล้วใครใส่กางเกงในหลายตัวล่ะแม่ ฮ่าๆๆๆ”
“ไอ้เด็กทโมนนี่ เดี๋ยวเหอะ จะฟาดให้!”