“หน้าฉันเหมือนคนที่กำลังล้อเล่นกับแกอยู่เหรอ” คุณหญิงจินดาเอ่ยเสียงเรียบ
“ไม่มีทาง ผมไม่มีทางแต่งานกับยัยเด็กอัปสรของคุณยายอย่างแน่นอน” ก้องภพส่ายหน้าพร้อมกับเอ่ยออกมาเสียงเครียด อารมณ์ดีหลังจากเลิกงานและกำลังจะได้ไปปลดปล่อยที่ผับประจำมลายหายไปหมดสิ้น เมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นยายเอ่ยกับตน
“แกจะไม่แต่งก็ได้ แต่สมบัติทุกอย่างของฉันมันจะตกเป็นขององค์กรการกุศล” คุณหญิงจินดารีบขู่หลานชายทันที
“คุณยายไม่มีทางทำแบบนั้นกับผมหรอกครับอย่ามาขู่ซะให้ยาก” ก้องภพมั่นใจว่าผู้เป็นยายไม่มีทางทำเช่นนั้นอย่างแน่นอน เพราะคุณหญิงจินดานั้นรักและตามใจเขามาตลอดนั่นเอง
“ถ้าแกคิดอย่างนั้นงั้นก็ดูเอกสารนี่ซะ ถ้าฉันเซ็น ทุกอย่างมันก็จะมีผลทันที” คุณหญิงจินดายื่นเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สมบัติ ทุกอย่างของคุณหญิงจินดาให้กับองค์กรการกุศล
“คุณยายจะบังคับผมแบบนี้ทำไม ในเมื่อผมไม่เคยมองอัปสรเป็นอย่างอื่นนอกจากเด็กในบ้านเท่านั้น” เมื่อเห็นเอกสารที่อยู่ตรงหน้า เขาก็รู้ทันทีว่าผู้เป็นยายจริงจังกับเรื่องนี้มากแค่ไหน
“ก็เพราะฉันอยากให้แกได้อยู่กับคนที่เหมาะสมกับแก และจะชักนำแกไปในทางที่ดี ไม่ใช่พากันลงเหวเหมือนทุกวันนี้” คุณหญิงจินดากล่าวเสียงเข้ม ท่านไม่พอใจในพฤติกรรมของหลานชาย แต่เพราะเขาโตเกินกว่าที่จะห้ามปรามได้แล้ว ดังนั้นทางที่ดีที่สุดควรรีบให้หลานชายแต่งงาน เพราะบางทีเสือตัวพ่ออย่างหลานชายท่าน อาจจะยอมหยุดอยู่กับผู้หญิงธรรมดาอย่างทรงอัปสรก็ได้
ระหว่างที่สองยายหลานโต้เถียงกันอยู่นั้น ทรงอัปสรก็ได้แต่แอบมองด้วยความไม่สบายใจ เธออึดอัดใจเหลือเกิน เธอไม่อยากให้มันเป็นเช่นนี้ แต่เพราะคำว่าบุญคุณทำให้เธอต้องอดทน
และที่สำคัญที่ไม่เคยมีใครรู้ นั่นก็คือก้องภพเป็นคนที่ทรงอัปสรแอบรักมาตลอด แต่เธอไม่อาจเอื้อมที่จะตีตัวเสมอหลานชายของผู้มีพระคุณ แต่มาวันนี้เขาต้องถูกบังคับให้แต่งงานกับเธอ เธอรู้สึกไม่ได้มีความสุขกับสิ่งที่เธอกำลังจะได้ เพราะความสุขของเธอมันอยู่บนความทุกข์ของผู้ชายที่เธอแอบรัก