Ep 6 จำได้
JJ : บอสค่ะงานวันมะรืนชุดมาส่งแล้วนะคะแต่...
LT : แต่?
JJ : มีอีกแบรนด์ส่งมาด้วยค่ะ
LT : ??
ชุดราตรีแบรนด์หรูที่เพิ่งออกมาจากรันเวย์ของฤดูกาลที่ผ่านมา ชุดถูกจัดการให้เหมาะหุ่นของฉันแบบพอดีเป๊ะ การ์ดที่ถูกลงลายมือจากคนใจร้ายที่มีแค่ฉันเท่านั้นที่รู้ว่าเป็นเขา ช่วงนี้ 1-2 วันนี้ใจฉันแทบไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอยู่แล้ว เลยไม่ได้สนใจเรื่องธีมงานวันมะรืนอารมณ์เหมือนไปงานเป็นหน้าที่แบบที่เราพี่น้องทุกคนทำกัน แปลกมากเราทั้ง 7 คนไม่มีใครชอบออกงานสังคมที่ไปก็เพราะธุรกิจล้วน ๆ เราทุกคนมีความชอบแตกต่างกันแต่ก็ไม่มีใครเป็นสายปาร์ตี้เลย ยิ่งพี่ทีโอรายนั้นไปสายกีฬาปีนเขา สกี อะไรก็ได้ที่เป็นเอ็กร์ตรีมพี่ทีโอทำหมด เพราะฉะนั้นเขาจะหาตัวยากหน่อยถ้าใครเป็นแฟนคงต้องอดทนขั้นสุด เขาเคยพูดว่าถ้าไม่ได้เป็นมาเฟียคงไปสมัครทหารออกรบแทน อยากยิง RPG สักครั้งในชีวิตแต่นั้นคือตอน 14-15 สุดท้ายอย่าว่าแต่ RPG มากกว่านั้นก็ทำมาแล้ว
JJ : เจ้าว่าบอสใส่ตัวนี้สวยกว่านะคะ
LT : แล้วที่ตัดมาล่ะ
JJ : ไว้ใส่งานเปิดตัวคอนโดเดือนหน้าของบอสแฝดก็ได้ค่ะ
LT : เชื่อเจ้าก็ได้
JJ : ว่าแต่ตัวย่อนั้นบอสรู้ใช่ไหมค่ะ
LT : อืม
JJ : ถ้ามีของมาส่งอ**บอสจะให้เจ้ารับหรือส่งคืน
LT : ถ้าไม่ใช่ระเบิดก็รับจ้ะ
ฉันก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าไอ้คนหน้ามึนจะไปสุดที่ตรงไหน นี่เรื่องคืนก่อนฉันก็เพิ่งมารู้จากจันทร์เจ้าว่าบริษัทเป็นคนแนะนำเขาไป เพราะเลขาของเขาถามว่ามีคลับที่ไหนเป็นส่วนตัวบ้าง เจ้านายของเขาแค่อยากดื่มไม่ต้องการบริการอื่นด้วย แล้วด้วยความที่เขาเป็น 1 ใน 6 ตระกูลที่เหลือทางบริษัทเลยจัดการส่งไปที่คลับพี่คริส ส่วนไอ้เรื่องที่เขากลายเป็นผู้นำของ Wannty ตระกูลมาเฟียที่ใหญ่ที่สุด ปกครองตั้งแต่จีน ฮ่องกง มาเก๊า รวมทั้งไต้หวัน ฉันยังปะติดปะต่อเรื่องไม่ได้คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย ถ้าถามพี่ไทม์ก็กลัวจะโดนถามกลับว่าจะอยากรู้ไปทำไม ถามเตอร์ก็ไม่ได้เพราะเตอร์ต้องบอกพี่ไทม์อยู่แล้ว สรุปถามใครไม่ได้สักคนนั้นละ เมื่อก่อนหน้าตาออกจะหล่อใสแบบไร้พิษภัย มาตอนนี้กลายเป็นคนละคนฉันเลยไม่รู้ว่าสรุปแล้วตัวตนจริง ๆ ของเขาคือคนไหนกันแน่
Message
MO : พี่เล็ทตี้น้องกลับมาแล้ว
LT : ตอนนี้อยู่ไหน
MO : อยู่คอนโดแล้วค่ะ
LT : งั้นตอนเย็นพี่ไปรับกินข้าว
MO : ได้ค่ะ
โมเน่ลูกสาวคนเล็กของคุณอากันต์กับอาเหมย แม้อายุจะห่างกันหลายปีแต่เราก็สนิทกันมาก โมเน่เป็นเหมือนน้องสาวคนเล็กของฉันเพราะว่าเป็นลูกของคนสนิทคุณลุงเทย์ ก็คล้ายจะเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเราอยู่แล้ว ปัจจุบันคุณอาทั้งสองได้ย้ายไปอยู่ที่จีนแล้วเพื่อดูแลงานทางโน้นแทนลุงเทย์กับแดดดี๊ พอโมเน่จบไฮสคูลก็ไม่ยอมเรียนมหาลัยที่จีนต่อบอกว่าอยากกลับมาเรียนที่ไทยมากกว่า เลยอ้อนขอพ่อกับแม่กลับมาอยู่ที่นี่ ฉันเลยออกตัวว่าจะเป็นผู้ปกครองให้โมเน่เอง มีเธอกลับมาอยู่ด้วยก็ไม่เหงาดี ส่วนพี่ชายของโมเน่ชื่อว่า "แม็กมัส" โตกว่าโมเน่นิดหน่อยชอบใช้ชีวิตที่จีนมากกว่า และด้วยความเป็นลูกชายของหนึ่งใน Black NOS ยังไงก็คงสานต่องานจากคนพ่อแน่นอน เด็กผู้หญิงแบบเราสองคนก็เลยได้ใช้ชีวิตที่เหมือนคนปกติแบบไม่ต้องกังวลใจอะไร โดยเฉพาะโมเน่ยิ่งได้ใช้ชีวิตที่ธรรมดาขั้นสุดนั่นก็เป็นอีกเรื่องที่ฉันอิจฉาอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน
LT : เย็นนี้ไปรับโมเน่ให้หน่อย
KT : ครับ
LT : ฉันติดรอสายจากอเมริกาเตอร์รับน้องไปเจอที่ร้านเลยนะ
KT : ...
LT : ไปร้านของแดดดี๊สาขาสุขุมวิทเจ้าโทรบอกที่ร้านแล้ว
KT : ให้ผมวนมารับคุณก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ
LT : ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวให้คนของพี่ไทม์ไปส่งจากที่นี่ไม่ไกลเตอร์จะได้ไม่ต้องวนไปวนมา
KT : ...
LT : มีอะไรหรือเปล่า
KT : เปล่าครับ
ฉันว่าฉันเห็นสายตาของเตอร์หลุบมองต่ำตอนที่ฉันบอกให้เตอร์ไปรับโมเน่ เป็นปฏิกิริยาที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อนซึ่งฉันอาจจะคิดมากไปเองก็เป็นได้ ไม่ทันจะคิดอะไรต่อเจ้าก็เดินมาตามให้ฉันไปดูงานของทีมการตลาดที่ห้องประชุมเสียก่อน ฉันก็เลยลืมทุกสิ่งทุกอย่างไปเลยรวมทั้งเรื่องข้อความจากการ์ดปิดผนึกของคนใจร้ายนั่นด้วย "****= รับสายพี่..."
Part KT
ผมไม่ได้คาดคิดว่าจะเจอกับเด็กกะโปโลยอมกวนประสาทนี่อีก ปีก่อนผมไปเจอเธอที่ยิมของ NOS เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ของบรรดาลูกหลาน Black NOS ทุกคนเลยถูกส่งตัวมาฝึกศิลปะป้องกันตัวที่นี่กันหมด แม้ว่าโดยหลักการแล้วโมเน่กับแม็กมัสจะเป็นแค่ลูกของการ์ดคนสนิทแต่ก็ได้รับอภิสิทธิ์บางอย่างมากกว่าปกติอยู่แล้ว เพราะพ่อของพวกเขาเป็นคนสำคัญและผ่านอะไรมามากมายกับผู้เป็นนายรุ่นที่สาม ขนาดนาย TM ของผมที่ตอนนี้ขึ้นตำแหน่งคุมองค์กรแล้ว ยังคงต้องยกมือไหว้พวกเขาด้วยซ้ำไป