ไนต์คลับอลองเซส
เจมส์สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ เมื่อไม่กี่นาทีเขาได้รับข้อความกวนส้นเท้าจากพวกเพื่อนบรรลัย ต่างคนต่างมีเมียกันหมดเหลือแต่เขาที่...
แต่ตอนนี้ก็มีเมียแล้ว แต่เป็นเมียลับซุกซ่อนไว้ไม่อยากให้พวกมันรู้ กลัวถูกหัวเราะเยาะสมน้ำหน้าว่าหาเอาสาวแว่นอยู่ใต้อาณัติตัวเองจับทำเมีย
เพียงขายาวไม่ทันเดินก้าวเข้ามาอยู่บนโซนชั้นสอง เขาเปิดไนต์คลับตอนเย็น ส่วนตอนบ่ายมีแค่พนักงานคอยอยู่ทำงานสองสามคน เสียงของเพื่อนสนิทสามคนไม่พกเมียไม่ลูกอุ้มกระเตงมาด้วยดังเข้มขึ้นมาซะนี่
“ว่าไงไอ้เสือยังไม่สิ้นลาย” เสียงนี้เป็นเสียงของพยัคฆ์ คนที่เพิ่งแต่งงานเอาเมียเมื่อไม่กี่เดือน
“พวกมึงมาหากูทำไมวะ”
เจมส์นึกว่าพวกเพื่อนสนิทสามคนต่างมีครอบครัวกันหมดแล้วจะไม่มีเวลาว่างมาก๊งเหล้าสังสรรค์เหมือนแต่ก่อนทุกวัน และแปลกใจคือการันย์ กลับมาจากต่างประเทศเมื่อไหร่ ทำไมเขาไม่เคยรู้เรื่อง
‘shit แม่งเอ๊ย ต้องเป็นกูไม่ใช่เหรอวะ!’
“ไอ้การันย์ มึงกลับมาคนเดียวเหรอ” คนอื่นเขาไม่ค่อยแปลกใจเพราะอยู่ละแวกบริเวณเดียวกัน
สี่หนุ่มเสือเพลย์บอยต่างเข้ามานั่งบนโซฟาด้วยท่าทีสบาย การันย์ตอบเพื่อนรักคนแรก
“กูได้ยินข่าวว่ามึงยอมกลับเข้าไปทำงานบริษัทของป๊ามึง กูก็เลยเอาของขวัญแสดงความยินดีให้ เป็นไงถูกใจสาวๆ ของมึงเปล่า?”
“ขอบใจมากเพื่อนรัก”
แต่ทีหลังไม่ต้องพกมาเยอะก็ได้ กล่องของขวัญหวานแหววแต่ข้างในกลิ่นน้ำหอมจากฝรั่งเศสโชยติดตรึงปลายจมูกเขา
ทีหลังไม่ต้องเสือกก็ได้นะ ไอ้การันย์!
“กูอยากรู้จริงว่ามึงจะแจกขวดน้ำหอมให้สาวๆ มึงครบได้ยังไงกัน เอามาแค่สิบขวด แต่สาวๆ มีไม่ต่ำกว่ายี่สิบคน” เซซาราชะเง้อหน้าขึ้นมามองดู ในฐานะคนนั่งอยู่ใกล้กับเจมส์
“ไอ้เซต! มึงหุบปากไปเลย” แต่อีกคนกลับไม่สนใจอยู่ดี และจะกวนประสาทมันต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่ได้คำตอบชัดเจน
“โมโหกลบเกลื่อนหรือเปล่าวะ”
พยัคฆ์แสร้งถามเพื่อนสนิทคนเดียวที่ยังไม่เอาเมีย พูดเหมือนกับว่ามันไปรู้อะไรกันมา หรือว่าความลับเก็บเงียบเอาไว้จะรั่วไหล
‘หรือว่าป๊าจะบอกพวกมันว่าฉันแต่งงานกับเลขาสาวแว่นของตัวเอง ฉิบหายแล้ว’
“พวกมึงไม่ต้องอ้อมค้อม บอกมาว่าที่พวกมึงรวมตัวกันมาหากูถึงที่นี่! มีอะไร?” คนถามเลิกคิ้วสูง สีหน้าบ่งบอกว่าเขาจริงจังหนัก
ตกอยู่ในความเงียบสักพัก พยัคฆ์เป็นคนแรกตบเข้าประเด็นเอ่ยปากถามกับเรื่องที่เพิ่งรู้มา
“พวกกูแค่สงสัยว่าทำไมคนที่บอกว่าไม่มีวันเข้าไปทำงานบริษัทของพ่อมึง แล้วทำไมมึงถึงเปลี่ยนใจง่ายดาย แถมที่มึงหายหน้าหายตาสองสามวัน เกี่ยวกับคู่หมั้นคู่หมายมึงหรือเปล่า”
อันที่จริงไม่แปลก พวกเขารู้จักน้ำค้าง ฐานะคู่หมายของเจมส์ เพียงแค่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเจมส์ถูกป๊าบังคับแต่งงานกับเธอเป็นสามีภรรยากันเรียบร้อย แค่นิตินัย ส่วนทางพฤตินัย ค่อยว่ากันอีกครั้ง
“ถ้าพวกมึงเสือกรู้เรื่องของกูมามากแล้ว พวกมึงจะถามหากูหาพระแสงอะไรอีกวะ”
“กูก็แค่อยากรู้ว่ามันจริงหรือไม่จริง พวกกูก็จะได้ช่วยแก้ข่าวให้เท่านั้นเอง” เซซาราถามไถ่ด้วยน้ำเสียงเข้มเป็นห่วงเป็นใย
“เรื่องของกู พวกมึงไม่ต้องเอาตัวมาเกี่ยว เอาเวลาไปหาพวกเมียมึงแต่ละคนดีกว่า ไหนว่าติดเมียหนักหนายังไงล่ะวะ”
คนตกเป็นหัวข้อบทสนทนาส่ายหัวพัลวัน โบกมือปัดผ่านไปเลย ในใจเขาคิดถึงยัยเลขาสาวแว่น ขนาดตัวเองยังตกใจเลยว่าอาการเริ่มหนักลงแล้ว
“อย่าเพิ่งหัวเสียตอนบ่ายสิ”
การันย์ยักคิ้วสูงก่อนเรียกพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตรงหน้าพวกเขาสี่คนนั่งอยู่ก่อนหน้านั้น
“มาดื่มฉลองกันดีกว่า นานๆ พวกเราสี่คนจะหาเวลาว่างมารวมตัวกัน พอวันหนึ่งมึงมีเมียตามพวกกูไปอีกคน อย่าหวังว่าจะนัดพวกกูออกมาง่ายๆ เหมือนวันนี้”
“เอ๊ะ หรือว่ามันแอบซุ่มเงียบแต่งงานโดยไม่บอกให้พวกเรารู้หรือเปล่าวะ”
คำพูดจากพวกสนิมเพื่อนสามคนทำเอาเจมส์แอบสะดุ้งจนตัวโยนเล็กน้อย สักพักกลับคลี่ยิ้มขบขัน พูดติดตลกกลบเกลื่อนความลับบางอย่างไว้
“คนอย่างกูไม่เคยแอบซุ่มเงียบจัดแต่งงานหรอกเว้ย แค่ตอนนี้ยังหาเจ้าสาวตัวจริงไม่ได้เลยต่างหาก”
เจมส์หาข้ออ้างให้เอาตัวเองรอด แก้วเหล้าในมือถูกกระดกลงคอรวดเดียว รสชาติขมเปร่าลงผ่านเข้าไป น้ำค้างเป็นเพียงเจ้าสาวแก้ขัดคั่นเวลาเท่านั้นแหละ
ไม่มีวันเป็นตัวจริงในใจเขา...
แต่หารู้ไม่ว่าคำพูดของเจมส์แสดงออกร่วมกับพวกเพื่อนสนิท คนแอบตามมาเงียบๆ กลับสะอึกกับความจริง แววตาคู่สวยหลังกรอบแว่นใสหนาเตอะไร้ความรู้สึก ไร้รอยยิ้ม มีแต่น้ำตาคลอหน่วยแห่งความเสียใจ
“ฉิบหายแล้วไอ้เรเปล มึงตายแน่”
คนสนิทขัดคำสั่งนายหญิงของบ้านจรูญเพทายไม่ได้ เมื่อเห็นท่าทางของอีกฝ่ายเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ เพียงออกมาจากไนต์คลับไม่ถึงสิบนาที
“นายหญิง เอ่อ...”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะคุณเรเปล ฉันสัญญาว่าจะไม่บอกเจ้านายคุณว่าพาฉันมาที่นี่ พาฉันกลับเข้าไปบริษัทเถอะค่ะ”
“ครับ”
น้ำค้างเดินเลี่ยงคนสนิทของสามี ขณะรอรถมารับตรงหน้าที่ยืนอยู่ ผ้าเช็ดหน้าถูกหยิบออกจากกระเป๋าขึ้นมาซับน้ำใสๆ ไหลจากตาคู่สวยเล็กน้อย ไม่อยากสร้างความอับอายให้ตัวเองมากกว่านี้
จากนั้นรถของเรเปลเข้ามารอรับนายหญิงของเขา ใช้เวลาขับรถไม่นานก็มาถึงบริษัทJKL Group น้ำค้างหันมากล่าวขอบคุณก่อนจะก้าวเข้าสู่ ไม่ลืมทักทายลุงยามหน้าบริษัทที่ยืนรักษาความปลอดภัยอยู่
พอกลับมาถึงหน้าห้องที่ติดป้ายชื่อว่า ‘เจมส์ จีรกิตต์’ เลขาสาวแว่นเฉิ่มถอนหายใจหนัก พยายามปัดคำพูดเมื่อกี้ออกไป เลี่ยงจังหวะหลบเข้าห้องน้ำ มองดูตัวเองผ่านกระจก
แว่นกรอบใสที่เปื้อนด้วยรอยหยดน้ำตาคลอเบ้าถูกมือเรียวสวยถอดออก น้ำค้างสูดน้ำมูกเข้าแรงๆ ใช้ผ้าเช็ดแว่นจนกว่าจะสะอาด
ผู้หญิงที่ยืนอยู่หน้ากระจกใช่น้ำค้างจริงหรือเปล่า...
เปลือกภายนอกที่คนอื่นเห็นก็แค่ยัยเลขาหน้าแว่น จะมีใครสักอีกคนจะมองเห็นเปลือกด้านใน ที่ซุกซ่อนผู้หญิงสาวสวยเอาไว้
-แกร๊ก-
เมื่อแน่ใจว่าฝีเท้ายาวตวัดก้าวเดินเข้ามาในห้องอาจเป็นเจ้านายตัวเอง น้ำค้างรีบสวมแว่นกรอบใสเข้ากับที่เดิม กลายเป็นเลขาสาวแว่นที่เขาเกลียด
ทำไมชายหนุ่มถึงกับมาเร็ว ไหนบอกว่าไม่เข้าบริษัท?
“คุณเจมส์” กว่าจะควานหาเสียงตัวเองเจอเรียกชื่อเขา
คนถูกเรียกกลับเลิกคิ้วสูง “เมื่อกี้เธอหายไปไหนมา”
แสดงว่าเจมส์รู้ว่าเธอใช้เรเปล คนสนิทของเขาขับรถแอบสะกดรอยตามเข้าไนต์คลับอลองเซส ท่าทางเลิ่กลั่ก เก็บซ่อนพิรุธเอาไว้เลยทำให้คนมองยกยิ้มมุมปาก หน้าตาใสซื่อๆ แบบนั้นหลอกเขาไม่มิดหรอก
“ฉันให้เวลาเธอตอบความจริง”
ว่าแล้วร่างสูงก้าวขายาวเขยิบเข้าใกล้ ด้วยความที่เธอตัวเล็ก ถึงแม้จะสวมใส่รองเท้าส้นสูง ต้องเขย่งปลายเท้าเงยหน้าขึ้นมามองอยู่ดี น้ำค้างทำตัวไม่ถูก
“เอ่อ...” ทำไมลิ้นเธอจะพันตอนนี้ด้วย ไหนจะถูกตาคมเข้มกดดันอีก
อย่าเพิ่งดุได้ไหม เธอยังเตรียมใจรับมันไม่ทัน!
“เธอแอบตามฉันเข้าไปที่นั่น”
น้ำค้างแก้ตัวไม่ออกเพราะคำพูดทุกอย่างจากเจมส์เป็นความจริง เขาเห็นอีกฝ่ายก้มหน้าหลุบตาต่ำหวังจะมองฝ่ามือตัวเอง ใช้มือหนาจับปลายคางมนเงยหน้าสบตาเขา
“ค่ะ”
“ทำไมไม่บอกฉันล่ะ ฉันจะได้พาเธอเข้าไป”
คราวนี้น้ำค้างตกใจกับคำพูดของเสือยังไม่สิ้นลาย กลิ่นแอลกอฮอล์โชยออกมาจากลมหายใจของเขา บ่งบอกว่าท่านรองประธานหนีงานช่วงบ่ายแอบไปดื่มสังสรรค์กับกลุ่มเพื่อน มีหรือเธอจะไม่รู้
เสือเจ้าชู้ก็ยังเป็นเหมือนเดิม น้ำค้างกลอกตาอย่างระอาใจ ไม่ว่าอย่างไรสันดานเก่าไม่เคยเปลี่ยนแปลง ก่อนแต่ง เธอยอมมาเป็นภรรยาที่เขาไม่ได้ขอหรือต้องการได้ยังไงกัน
‘เมื่อไหร่จะครบหนึ่งปี’ คนตัวเล็กได้แต่โอดครวญ
“คุณเจมส์!”
“อยากรู้เรื่องของผัวเหรอว่าผัวตัวเองมีผู้หญิงที่เคยนอนด้วยกันกี่คน หรือว่าเธออยากเข้ามาเป็นหนึ่งในนั้นล่ะ”
ไม่ได้ต้องการจะล้อเมียแต่งตัวเองเล่น เพียงแค่เขาเอาจริง ตาคมสำรวจรูปร่างเพรียวระหง แปลกใจว่าวันก่อนๆ ตาฝาดหรือเปล่า ทำไมไม่เจอแม่สาวแว่นเฉิ่มแต่ร่างกายตรงความต้องการของเสือร้าย
“....” เธอกำมือแน่นด้วยความโกรธ
“แต่เธอคงกลายเป็นผู้หญิงหนึ่งในนั้นของฉันไม่ได้ เพราะเห็นหน้า ฉันยิ่งหมดอารมณ์แล้ว”
“แล้วท่านรองจะได้รู้ว่าสาวแว่นเฉิ่ม หน้าตาไม่มีอะไรดีอาจจะซุกซ่อนความสวยบางอย่างจากด้านในที่ผู้ชายห่วยๆ อย่างคุณไม่มีวันได้เห็นขาอ่อนของฉัน”
มือเรียวเล็กออกแรงผลักไสแผงอกตึงเรียบออก อาจเป็นเพราะความโกรธจึงทำให้เธอกล้าจะลับฝีปากกับคนที่พ่วงตำแหน่งสามีและเจ้านาย
“น้ำค้าง!”
คนที่ไม่เคยถูกผู้หญิงคนไหนปฏิเสธใบหน้าหล่อเหลาได้เลยสักคน กลับมีภรรยาสาวเป็นคนแรกกล้าแหกปากร้องลั่น
“ก่อนจะว่าคนอื่น หัดมองดูตัวเองด้วย และฉันจะเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ไม่หลงหน้ามืดตามัวเอาคุณ!”