“ดูท่าทางจะชอบอ่านมากๆ ที่บ้านคงมีหนังสือมากใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ที่บ้านหนูมีหนังสือมากแต่มาอยู่นี่หนูไม่ได้เอามาสักเล่มเลย ห้องอาเสือมีหนังสือไหมคะ”
“ห้องอามีหนังสือเกี่ยวกับธุรกิจแล้วก็หนังสือเกี่ยวกับอุปกรณ์การออกกำลังกายกับพวกเรื่องกีฬา เจ้าเอยคงไม่สนใจหรอกมั้ง”
“สนใจสินค้าขอให้เป็นหนังสือหนูอ่านได้หมดแหละ ขอเข้าไปอ่านหนังสือในห้องอาเสือได้ไหม”
“อาว่าไปเลือกเล่ม ที่ชอบเราเอากลับมาอ่านที่ห้องดีกว่านะ”
“ทำไมล่ะห้องอาเสือมีอะไรคะทำไมหนูจะอ่านที่นั่นไม่ได้”
“อาชอบดูหนังและเปิดเสียงดังถ้าเจ้าเอยคิดว่าจะนั่งอ่านได้แต่อาก็ไม่ว่าอะไร”
“อาเสือชอบดูหนังประเภทไหนคะ”
“ส่วนใหญ่อาจจะชอบดูหนังเก่า ของต่างประเทศน่ะจะได้ฝึกภาษาไปด้วย”
“หนูก็ชอบดูหนังนะ”
“เมื่อกี้บอกชอบอ่านหนังสือ แล้วตอนนี้ทำไมชอบดูหนัง”
“ก็หนังส่วนใหญ่มันก็สร้างมาจากหนังสือ หนูอ่านหนังสือแล้วก็อยากจะรู้ว่าคนที่เขาเอามาทำหนังเขาตีความจากนิยายได้ดีมากแค่ไหน หนูไปดูด้วยได้ไหม”
“ตกลงจะเข้าไปในห้องอาให้ได้เลยใช่ไหม”
“แล้วมันได้ไหมล่ะคะ”
“ถ้าอาห้ามเจ้าเอยจะไปฟ้องแม่ไหมล่ะ”
“เรื่องแค่นี้หนูไม่เอาเป็นไฟฟ้องคุณป้าหรอกค่ะ อาเสือสบายใจได้แต่ถ้าอาเสือปฏิเสธหนูบ่อยๆ ก็ไม่แน่นะคะ”
“นั่นไงสุดท้ายแล้วเจ้าเอยก็ไปฟ้องแม่อยู่ดี”
“ก็คุณป้าบอกว่าให้อาเสือดูแลหนูดีๆ”
“อาก็ดูแลรับส่งเรา พาไปซื้อของแต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องดูแลตลอด”
“ถ้างั้นหนูไม่เป็นรบกวนก็ได้แต่ขออย่างหนึ่งได้ไหม”
“อะไรอีกล่ะ”
“ถ้าสมมุติว่าวันนี้อาเสือจะดูหนังเรื่องอะไรอาเสือไลน์บอกหนูได้ไหมเผื่อหนูสนใจจริงๆ”
“ก็ได้แต่อาว่าเจ้าเอยคงไม่สนใจหนังทุกเรื่องที่อาดูหรอกนะเพราะบางครั้งอาก็ดูเรื่องเดิมวนไปซ้ำๆ”
“หนูก็ชอบอ่านหนังสือเล่มเดิมซ้ำๆ เหมือนกันทั้งที่รู้แล้วว่าหน้าต่อไปมันจะเป็นอะไร แล้วหนังที่อาชอบดูซ้ำๆ เรื่องอะไรคะ”
“อาบอกไปก็ไม่รู้จักหรอกมันเป็นตั้งนานแล้ว”
“ก็ลองบอกมาสิคะว่าชื่อเรื่องอะไร”
“มี Notting Hill กับ Music and Lyrics รู้จักไหมล่ะ”
“รู้จักค่ะสองเรื่องนี้พ่อกับแม่หนูชอบดูมากๆ แต่หนังมันนานแล้วนะคะ”
“อาถึงบอกไงว่าหนังมันเก่าแล้ว”
“หนูเคยดูกับพ่อกับแม่ตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ถ้าวันไหนอาดูเรียกหนูด้วยนะคะ”
“อือ” ปีขาลรับปากไปส่งเพราะถ้าไม่รับปากสาริศาก็คงเซ้าซี้อยู่แบบนี้ตลอดแน่ๆ
“ขอบคุณค่ะ”
“เย็นนี้เราจะกินอะไรกันดี” ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง
“อาเสือหิวแล้วเหรอคะ”
“ก็นี่มันจะ 6 โมงแล้ว อาว่าหาอะไรกินก่อนกลับดีกว่า”
“อาเสือมีร้านแนะนำไหมคะ”
“อยากกินอะไรล่ะ”
“หนูกินอะไรก็ได้ค่ะ แถวนี้มีร้านอาหารเหนือไหมคะ”
“จากบ้านมาไม่ทันไรคิดถึงอาหารเหนือแล้วเหรอ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ อาเสือกินอาหารเหนือได้ไหม”
“อากินได้ทุกอย่างไม่มีปัญหา แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าแถวนี้จะมีหรือเปล่าเพราะปกติก็ไม่ค่อยได้กินเท่าไหร่ เจ้าเอยลองเสิร์ซดูสิว่ามีร้านอาหารเหนือใกล้ๆ แถวนี้ไหม”
“ได้ค่ะ” สาริศารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดแอปพลิเคชันค้นหาตำแหน่งของร้านอาหาร
“อาเสือคะมันมีอยู่ร้านหนึ่งใช้เวลาขับรถครึ่งชั่วโมงค่ะ”
“ครึ่งชั่วโมงก็ไม่นานเท่าไหร่หิวหรือยัง”
“ยังไม่หิวค่ะแต่มันจะไกลไปหรือเปล่า”
“จะว่าไกลก็ไกลจะว่าใกล้ก็ใกล้เจ้าเอยมีอะไรต้องรีบกลับไปทำหรือเปล่า”
“ไม่มีค่ะ แล้วอาเสือต้องกลับไปทำงานไหมคะ”
“ไม่นะ ตกลงเราไปกินอาหารเหนือก็ได้ กด GPS ให้อาหน่อย”
“ได้ค่ะ เจ้าเอยขอเป็นเจ้ามือนะคะ”
“นี่ยังไม่เลิกคิดจะเปย์อาอีกเหรอ”
“แม่เพิ่งโอนเงินให้หนูเยอะเลยค่ะ บอกว่าเอาเป็นค่าใช้จ่ายแล้วให้หนูช่วยจ่ายค่าน้ำมันรถอาเสือด้วย แต่หนูคิดว่าอาเสือคงไม่เอาแน่ๆ เพราะฉะนั้นหนูขอเป็นคนเลี้ยงข้าวอาเสือดีกว่า ตกลงไหมคะ”
“มื้อนี้อาจะให้เจ้าเอยเป็นคนเลี้ยง แต่หลังจากนี้ไม่ต้องเลี้ยงอีกแล้ว”
“แล้วถ้าเงินเดือนหนูออกแล้วล่ะคะ หนูขอเลี้ยงได้ไหมคะ”
“ถึงตอนนั้นค่อยว่ากัน”
สาริศาเป็นคนไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่นในเมื่อปีขาลรับส่งเธอก็ควรจะมีน้ำใจกับเขา
จากระยะทางที่เห็นในแอปพลิเคชันมาถึงร้านอาหารบอกไว้ครึ่งชั่วโมงแต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็ใช้เวลาเกือบสี่สิบนาทีกว่าปีขาลจะพาหญิงสาวมาถึงเพราะรถค่อนข้างติดเอามากๆ
ร้านอาหารตั้งอยู่ในบ้านทรงไทยตกแต่งสไตล์ล้านนามีอาหารแบบเป็นขันโตกเหมือนกับมีแบบนั่งโต๊ะ
“อาเสืออยากนั่งแบบไหนคะ”
“ขอนั่งโต๊ะได้ไหมอาไม่ถนัดนั่งพื้น”
พนักงานพาทั้งสองคนไปยังโต๊ะอาหารทางด้านในซึ่งเป็นโซนห้องแอร์และมีโต๊ะอยู่ค่อนข้างเยอะพอสมควร
“อาเสือจะกินอะไรคะ” หญิงสาวหยิบเมนูขึ้นมาส่งให้ปีขาลช่วยเลือก
“เจ้าเอยอยากกินอะไรก็สั่งเลย อาว่าคงไม่ต้องดูเมนูไม่รู้หรอกนะ”
“ขอดูก่อนนะคะเผื่อมีอะไรที่นึกไม่ออก อาเสือกินข้าวเหนียวหรือข้าวสวย ขอเขาสวยนะ”
“หนูขอกินข้าวเหนียวได้ไหม”
“อยากกินก็กินสิใครห้าม”
สาริศาสั่งไส้อั่ว แคบหมู น้ำพริกหนุ่มแกงฮังเลและต้มข่าไก่อีกชามเพราะกลัวว่าปีขาลจะทานอาหารในเหมือนตนเองไม่ได้
“อาเสืออยากสั่งอะไรบ้างมั้ยคะ ที่นี่มีทั้งอาหารไทยและอาหารเลยนะ”
“เอาผัดผักรวมมิตรไหมอีกอย่างก็ได้”
“ค่ะอาเสือ” สาริศาหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน ก่อนจะหยิบหนังสือที่เพิ่งออกมาจากหอสมุดขึ้นมาอ่าน
“ไฟมีแค่นี้อ่านหนังสือเดี๋ยวก็ปวดตาหรอก”
“หนูไม่ได้อ่านค่ะ แค่เอามาดูเฉยๆ”
“มันก็คล้ายๆ กันนั่นแหละอดใจเอาไว้ไปอ่านที่คอนโดเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ” หญิงสาวรีบเก็บหนังสือลงกระเป๋าผ้าไม่ใช่เพราะเชื่อฟังปีขาลแต่เพราะตอนนี้พนักงานกำลังเอาไส้อั่วมาเสิร์ฟ
หญิงสาวรีบใช้ส้อมจิ้มขึ้นมากัดแล้วก็ยิ้มเมื่อรู้สึกว่ารสชาติคล้ายกับที่ตนเองเคยทาน
“อร่อยมากเลยค่ะ อาเสือลองกินสิคะ เหมือนแถวเชียงใหม่เลย”
ปีขาลชิมตามที่หญิงสาวบอกเขาพยักหน้าพอใจในรสชาติ
“อยากรู้แล้วว่าอาหารอย่างอื่นจะอร่อยเหมือนไส้อั่วหรือเปล่า” สาริศาตั้งหน้ารอคอยอาหารพอทุกอย่างมาเสิร์ฟครบก็ลงมือทานเพราะตอนนี้รู้สึกหิวมากๆ แล้ว
หลังทานอาหารเสร็จสาริศาก็สั่งไอติมกะทิมาทานส่วนปีขาลเลือกกินแตงโม
“อาหารที่นี่อร่อยมากเลยค่ะเสือ”
“พูดแบบนี้คือจะมาอีกใช่ไหม”
“อาเสือพาหนูมาได้ไหมคะ หนูยังไม่ได้กินพวกเขาซอยกับขนมจีนน้ำเงี้ยวเลย พรุ่งนี้พาหนูอีกได้ไหมคะ”
“กินอาหารเหนือติดกันสองวันเลยเหรอไม่เบื่อเหรอเจ้าเอย”
“ไม่ค่ะมันทำให้หนูคิดถึงบ้าน”
“ไม่ทันไรคิดถึงบ้านแล้วแบบนี้จะอยู่ได้นานไหม”
“หนูจะพยายามอยู่ให้นานที่สุด”
“อาไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้เย็นอาจะมีงานอะไรหรือเปล่าเจ้าเอยลองถามร้านเขาสิว่าถ้าเราสั่งอาหารไปวันนี้ใส่ตู้เย็นไว้อุ่นกินพรุ่งนี้มันจะเสียหรือเปล่า”
“จริงด้วยค่ะ” สาริศาเรียกพนักงานมาถามเมื่อพนักงานบอกว่าอาหารที่นี่ทำสดใหม่ถ้ากลับไปถึงแล้วแช่ตู้เย็นเลยก็เก็บได้ประมาณสองวันหญิงสาวก็ยิ้มกว้าง
“อาเสือหนูขอสั่งไปกินที่ห้องนะคะ อาเสือจะเอาด้วยหรือเปล่า”
“ไม่เป็นไรเจ้าเอยสั่งของตัวเองเถอะ”