อธิปกขมวดคิ้วมองเธอคล้ายจะกล่าวหาว่าเธอหาเรื่อง ใช่...เขาจะคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่เธอไม่เชื่อว่านี่คือเรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่อลิสากับวิศรุตจะมานั่งหน้าสลอนพร้อมกันอยู่ตรงนี้ หากไม่ใช่ว่าพวกเขาตั้งใจนัดกันมาก่อนแล้ว
“พี่นาวมาแล้ว อุ้มกำลังรออยู่เลยค่ะ”
อลิสายิ้มน้อยๆ เดินเข้ามาควงแขนพาเธอมานั่งลงข้างๆ หล่อนอย่างสนิทสนม ผิดกับวิศรุตที่นั่งเยื้องกับเธอไปหน่อยชักสีหน้ารำคาญอย่างไม่เกรงใจ เขาเป็นทั้งหุ้นส่วนและเพื่อนสนิทก๊วนเดียวกับอธิปกและพี่ชายของอลิสา เลยรู้จักหล่อนมานานนม ย่อมต้องรักและเอ็นดูถือหางหล่อน แต่เกลียดขี้หน้าเธอเป็นธรรมดา
“พี่นาวอยากทานอะไรสั่งเลยค่ะ ร้านนี้อร่อยทุกอย่าง พี่ปกชอบพาอุ้มมาทานบ่อยๆ” พูดพลางคลี่เมนูให้เธออย่างมีน้ำใจ แต่นริศตารู้ดีว่าอลิสาจงใจโอ้อวดถึงความสนิทชิดเชื้อระหว่างพวกเขาต่อหน้าเธอ ให้เธอพึงรู้ตัวว่าเป็นแค่ ‘ส่วนเกิน’
เธอทันเกมหล่อนและยังจงใจสร้างปัญหาอย่างที่อลิสาต้องการ ด้วยการเลื่อนเมนูออกไป พูดเพียงสั้นๆ ว่า
“พวกคุณกินกันเถอะ ฉันไม่หิว”
อธิปกขมวดคิ้วบ่งบอกว่าเริ่มหงุดหงิด แต่ก็ยังระงับโทสะหันไปถามอลิสาที่นั่งหน้าหงอยว่า
“สั่งอะไรมาบ้างแล้ว”
หล่อนหันมายิ้มออดอ้อน เอ่ยอย่างน่ารักว่า
“ยังเลยค่ะ รอพี่ปกมาสั่งให้อุ้มเหมือนเคย”
ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วสั่งอาหารมาหลายอย่าง ทุกอย่างล้วนเป็นชอบโปรดของอลิสา แต่ไม่มีอะไรที่เธอชอบเป็นพิเศษเลย ดูเอาเถอะว่าเขาต้องใส่ใจหล่อนมากแค่ไหน ถึงได้จดจำรายละเอียดต่างๆ จนฝังใจ และปฏิบัติต่ออลิสาอย่างอ่อนโยนจนเป็นนิสัย ผิดกับเธอที่ชั่วชีวิตนี้ก็ยังไม่เคยได้สัมผัสกับความอ่อนโยนแม้เพียงเสี้ยวหนึ่งที่หล่อนได้รับเลยด้วยซ้ำ
บรรยากาศบนโต๊ะน่าอึดอัดสำหรับเธอ แต่ช่างสนุกสนานเข้ากันดีระหว่างพวกเขาสามคน เสียงหัวเราะพูดคุยกันถึงความหลังที่ไม่มีเธอทิ่มแทงใจจนนริศตาเจ็บจี๊ด ยิ่งเห็นสามีตัวเองคอยตักอาหารให้คนอื่น เธอยิ่งไม่รู้ว่าตัวเองมานั่งทำบ้าอะไรอยู่ตรงนี้
นริศตาเพียรระงับความน้อยใจที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก เขี่ยข้าวในจานอย่างเบื่อหน่าย ได้แต่คิดว่าเมื่อไรอาหารมื้อนี้จะจบลงเสียที หรือเธอจะขอตัวกลับไปก่อนดี อลิสาที่เห็นจึงแกล้งถามเธอยิ้มๆ ว่า
“อาหารไม่อร่อยเหรอคะ ไม่เห็นพี่นาวทานอะไรเลย ลองทานซุปดูค่ะ เผื่อจะคล่องคอขึ้นบ้าง” ไม่รอให้เธอตอบ หล่อนก็เลื่อนถ้วยซุปร้อนๆ ที่อธิปกเพิ่งตักจากหม้อไฟใส่ถ้วยหล่อนมาให้เธอแทน ยื่นหน้าเข้ามากระซิบพอให้ยินกันแค่สองคนว่า “อยากรู้มั้ยว่าระหว่างแกกับฉัน พี่ปกจะเป็นห่วงใคร”
นริศตานิ่วหน้ายังไม่ทันเข้าใจ ซุปร้อนๆ ที่มีควันพวยพุ่งขึ้นมาก็ถูกมืออลิสาปัดตกลงมาลวกทั้งขาทั้งมือของเธออย่างจัง ความร้อนที่ซึมลึกลวกผิวทำให้เธอปวดแสบปวดร้อนรีบลุกพรวด หยิบผ้าเช็ดปากมาทำความสะอาดลวกๆ ก่อนจะได้ยินน้ำเสียงเกรี้ยวกราดของวิศรุตเอ่ยต่อว่าเธอเสียงดังว่า
“ทำอะไรทำไมไม่ดูตาม้าตาเรือเลยฮ้ะ! เธอจงใจทำร้ายอุ้มใช่ไหม”
หญิงสาวหันขวับมองอลิสาอย่างตะลึง เมื่อกี้เพราะเธอรีบร้อนจึงตวัดมือไปโดนหน้าหล่อนโดยไม่ตั้งใจ ทำให้เลือดกำเดาไหล แต่เมื่อคิดถึงสิ่งที่หล่อนพูดและทำกับเธอ นริศตามั่นใจว่าอลิสาตั้งใจ ก็ถือว่ากรรมตามสนอง เจ๊ากันไป เธอไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด
“ฉันรู้ว่าเธอตั้งใจ เพราะเธออิจฉาที่อุ้มมีแต่คนรัก เธอนี่มันร้ายกาจจริงๆ ทำได้ทุกอย่างโดยไม่เลือกวิธี”
นริศตากระตุกยิ้ม ไม่รู้ว่าโกรธหรือขมขื่นมากกว่ากัน คำด่าของวิศรุตไม่เข้าหูเธอเลยสักคำ แต่ภาพที่อธิปกนั่งคุกเข่าเช็ดเลือดให้ให้อลิสาอย่างทะนุถนอม แววตาที่มองหล่อนมีแต่ความห่วงใย หัวใจเธอก็เจ็บปวดเหมือนโดนมดนับหมื่นรุมกัด ภาพที่เขารักใคร่คนอื่นมันช่างแสบตาเธอเหลือเกิน
“ขอโทษ”
อธิปกสั่งเสียงเรียบ แต่ทำให้เธอถึงกับคอแข็ง แสยะยิ้มอย่างน่าเกลียด แวบหนึ่งเผลอมองทั้งเขาทั้งอลิสาด้วยความเกลียดชังที่ทะลักล้นออกมาจากดวงตา เธอโดนลวกทั้งตัวแต่กลับไม่มีใครถามสักคำ ไม่สนใจราวกับตาบอดกันไปหมด
“ทำไมต้องขอโทษ เธอทำตัวเองทั้งนั้น โดนแค่นี้ยังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ”
ไม่อยากเสียเวลาและเสียสายตามากไปกว่านี้ นริศตาหันหลังกลับทันที แต่เดินไปยังไม่ทันพ้นขอบประตู มือหนาดุจคีมเหล็กก็คว้าข้อมือเธอเอาไว้แน่นจนเจ็บ เค้นเสียงต่ำอย่างพยายามระงับอารมณ์สุดกำลังว่า
“ผมบอกให้คุณขอโทษอุ้มเดี๋ยวนี้!”
“ไม่!” เธอตวาดสวนทันควัน จ้องตากับคนที่ขมวดคิ้วนิ่วหน้าแทบจะกินหัวเธอได้
“ทำผิดแล้วไม่ขอโทษ คุณได้รับการอบรมสั่งสอนมาแบบนี้เหรอ”