ถ้าบอกเรื่องลูกกับเขา เขาจะเปลี่ยนใจไม่หย่าไหม?
ไม่! เธอตอบตัวเองได้เลยแบบไม่ต้องให้ความหวัง ตอนแต่งงานกันเธอรักเขา แต่เขาถูกบังคับให้แต่งกับเธอแทนที่จะเป็นอลิสาผู้หญิงที่เขารักที่สุด สองปีที่ผ่านมาชีวิตคู่ของเราจึงเต็มไปด้วยความเย็นชาและห่างเหิน เขาอยากจะหย่ากับเธอแทบทุกลมหายใจ ติดที่คุณปู่ยื่นคำขาดว่าห้ามหย่าทำให้เขาต้องกัดฟันอดทน เขารอเวลานี้มานานแล้ว แล้วจะทิ้งโอกาสทองไปได้อย่างไรล่ะ ดีไม่ดีอธิปกจะด่าว่าเธอหน้าด้าน คิดจะจับเขาด้วยปล่อยให้ตัวเองท้อง แล้วจะยิ่งเกลียดเธอมากขึ้นน่ะสิ
คิดถึงดวงตาเย็นชาคมกริบที่มักมองกันอย่างรังเกียจ เธอก็เจ็บจนแทบหายใจไม่ออกแล้ว ถ้าเกลียดยิ่งไปกว่านี้เธอคงทนรับไม่ไหว ทางที่ดีเธอควรสงบจิตสงบใจคิดหาทางตั้งหลักให้ได้ก่อน แล้วค่อยคิดอีกทีว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้
นริศตาหลับตาถอนผ่อนหายใจเข้าออกช้าๆ รอจนใจเย็นลงจนหายใจสม่ำเสมอ จึงบอกพยาบาลว่าต้องการพบหมอที่ตรวจเธอเพื่อยืนยันอีกครั้งให้แน่ใจ รับฟังคำแนะนำเกี่ยวกับการปฏิบัติตัวในช่วงตั้งครรภ์ระยะแรก ก่อนจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองแล้วเดินออกมาเรียกแท็กซี่ด้านหน้าตึก อย่างไรญาติของสามีก็คงไม่ใจดีสั่งให้คนรถรอรับเธอกลับหรอก
สอดส่ายสายตาหาแท็กซี่คันที่ว่าง ดวงตาคมโตก็ปะทะเข้ากับรถสปอร์ตคันหรูสัญชาติอังกฤษที่ดึงดูดความสนใจของผู้คน เธอแปลกใจจนเผลอเลิกคิ้ว เมื่อกระจกสีดำสนิทถูกลดลงมาเพียงนิดเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของคนขับ เขาไม่หันมาชายตามองเธอเลยสักนิด แต่นริศตารู้ดีว่าต้องทำอย่างไร เธอเดินไปเปิดประตูฝั่งคนนั่ง
ภายในรถเงียบกริบจนได้ยินลมหายใจที่เย็นชา เธอเองก็ไม่ได้พูดอะไรเกรงจะเป็นการรบกวนเขา กระทั่งอธิปกขมวดคิ้วหันมาถามเธอเสียงทุ้มต่ำไม่บ่งบอกอารมณ์ว่า
“เป็นอะไร?”
เป็นคำถามง่ายๆ แต่ทำให้นริศตานั่งตัวเกร็งกลั้นลมหายใจโดยไม่รู้ตัว เธอกัดเนื้ออ่อนที่ริมฝีปากระงับความตื่นตระหนก ค่อยๆ เรียบเรียงคำพูดตอบเขาไปว่า
“ไม่เป็นไรมากค่ะ น้ำตาลในเลือดต่ำเพราะช่วงนี้พักผ่อนน้อย”
“อืม” เขาพยักหน้าแล้วออกรถ ดวงตาคมกริบยังคงมองไปข้างหน้า ไม่เหลียวมองเธอเลยสักแวบเดียว
นริศตาเหลือบมองเสี้ยวหน้านิ่งเฉยของสามี ใจอยากถามว่าเขามาทำอะไรที่โรงพยาบาล มาเพราะเป็นห่วงเธอรึเปล่า เขาตั้งใจขับรถมารับเธอใช่ไหม อีกทั้งเธอยังมีเรื่องอัดอั้นอยู่ในใจอยากจะพูดอยากจะถามเขา โดยเฉพาะเรื่อง ‘ลูก’ แต่ถูกความเย็นชาของเขากดทับ ปากหนักจนพูดไม่ออก ได้แต่ครุ่นคิดลังเลคำถามติดอยู่ที่ริมฝีปาก
ความเงียบเข้ามาปกคลุมคนสองคนอีกครั้ง ทั้งที่นั่งอยู่ข้างๆ กัน แต่นริศตากลับรู้สึกเหมือนถูกสามีผลักออกไปไกลจนเกินเอื้อม มือบางชื้นไปด้วยเหงื่อกำสายกระเป๋าแน่นด้วยความประหม่า หวนคิดถึงเรื่องลูกแล้วก็ยิ่งสับสนร้อนรนจนทนอยู่ไม่ไหว หันไปโพล่งถามเขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ ว่า
“สมมุติว่าถ้าฉันท้อง...”
“ท้องกับใคร?”
น้ำเสียงเย็นชาติดดูแคลนที่ถามสวนมาทำเอานริศตาสะอึกหน้าชา คำพูดที่คิดไว้ในหัวแทบจะพูดต่อไปไม่ออก อดที่จะเยาะเย้ยตัวเองไม่ได้ เขานึกว่าเธอมั่วมากจนนอนกับใครไม่เลือกหน้าก็ได้รึไง ทั้งที่อธิปกเองก็รู้ว่าเขาคือผู้ชายคนแรกของเธอ แต่มันกลับไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาเขา
“ฉันบอกแล้วไงว่าสมมุติ ถ้าฉันท้องขึ้นมา คุณจะทำยังไง” เธอเก็บความกังวลฝืนถามเขาต่อไป อยากให้ยินคำตอบจากปากเขาชัดๆ ไม่ต้องคิดหรือมโนไปเอง จะได้ตัดสินใจถูกว่าหลังจากนี้ควรจะทำอย่างไร