“ดีใจมากเลยที่เธอได้ย้ายมาที่นี่ บอกตั้งแต่ตอนนั้นแล้วก็ไม่ยอมมา” กอบัวเพื่อสมัยเรียนของเมริษาที่เลือกเรียนสูติประจำอยู่แผนกสูติเดินมารับเพื่อนตั้งแต่เช้าตรู่ เพื่อพาไปยังห้องพักแพทย์ศัลยกรรมระบบประสาท
“เธอก็รู้เหตุผลยังจะมาถามอีก”
ก็ใครบางคนอยู่ที่นี่ เธอจึงเลือกไปใช้ทุนของโรงพยาบาล DK เพื่อหลบหน้าทั้งพักใจอีกด้วย
“แต่ไม่รู้ว่านรกชัง หรือสวรรค์แกล้งกันแน่ ได้เจอเขาตอนไปตุรกี ตกหลุมรักเขาอีกรอบเลยไหม” หมอกอบัวยิ้มตาหยีพูดขณะเดิน หากเพื่อนจะรีเทิร์นเธอก็ไม่ติด เพราะทราบว่าหมอมาวินไม่ได้สนใจใครเลย เหมือนกำลังรอเพื่อนของเธอ
“อยากให้ฉันเป็นส่วนเกินในชีวิตเขาอีกหรือไง”
“ไม่รู้สิ แต่เหมือนว่าเขาชอบเธอมากนะ ตอนทานข้าวหลังหย่านั่งทานคนเดียวเหมือนอกหัก”
“ไม่ใช่กำลังฉลองที่สลัดฉันทิ้งได้เหรอ”
“คิดบวกหน่อยสิ”
“แต่เขาไม่บวกกับฉันนี่สิ ช่างมันเถอะ อดีตพวกนั้นฉันไม่ใส่ใจแล้วแหละ เอาแค่ตอนนี้ตั้งใจเป็นหมอศัลยกรรมประสาทมือหนึ่งให้ได้ก็พอ” เธอว่าพร้อมกับยกมือชูขึ้นสองนิ้วให้กับเพื่อนสาว
“นี่ห้องนี้เดี๋ยวฉันพาเข้าไปแนะนำ”
ภายในห้องที่เห็นมีคุณหมอและนักศึกษาแพทย์ที่เข้าเวรดึก กำลังจะออกเวรสภาพสะโหลสะเหลไม่ต่างจากศพเดินได้อยู่สองสามคน กอบัวจึงตบมือเรียกปลุกให้ทุกคนตื่น
“นี่ทุกคน คุณหมอคนใหม่ที่จะมาประจำที่โรงพยาบาลเราจ้ะ หมอเมริษาเพิ่งผ่าน Resident จะมาเป็น Fellow อาจารย์มาวิน” กอบัวแนะนำจบเรียกเสียงฮือฮาเป็นอย่างมาก
“ว้าว ลูกศิษย์อาจารย์มาวิน”
“ลูกศิษย์อาจารย์มาวินแปลกตรงไหนเหรอกอบัว” เรียวคิ้วของเมริษาขมวด ขณะกระซิบกระซาบถามเพื่อนรักอย่างกอบัว
“ก็น้อยคนมาก ๆ ที่จะได้เป็นลูกศิษย์อาจารย์มาวินน่ะสิ เขาเข้มงวดมาก หากไม่จำเป็นต้องถึงมือเขา ก็ให้คนอื่นช่วยสอน”
เธอรู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ กับตำแหน่งลูกศิษย์อาจารย์มาวินเสียแล้วสิ หากเลือกได้เธอจะไม่ขอเจอเขาอีกเลยตลอดชีวิต ความยุ่งยากส่อเค้าลางออกมา เมื่อตัดสินใจเข้ามาเหยียบโรงพยาบาลแห่งนี้
“เอ่อ...ฉันนั่งตรงไหนคะ”
“ตรงนี้” มาวินเดินเข้ามาพร้อมกับชี้ไปที่นั่งที่ตรงข้ามของเขา และเป็นโต๊ะที่เขาจะได้มองเธอได้ตลอดเวลา
“ว้าว...อาจารย์ดูแลคุณหมอคนสวยเองเลย หรือว่าจะลงจากคานแล้ว” เสียงกระซิบของนักศึกษาแพทย์คนอื่นคุยกันเบา ๆ แต่เมริษาได้ยินชัดเจน ต้องถลึงตาใส่เพื่อไม่ให้เขาสนใจเธอเป็นพิเศษ
ขณะที่ทุกกำลังสนใจคุณหมอคนใหม่อย่างเมริษา ทำให้คนที่เริ่มงานใหม่อีกคนที่เพิ่งเข้ามาเอ่ยทักขึ้น
“เอ่อ...ขอโทษนะคะ ฉันมาเริ่มงานที่นี่ ชื่ออรินดาค่ะ”
เสียงใสของหมอสาวสวยคนใหม่เรียกสายตาของทุกคนให้หันมอง มาวินสบตากับชวกรก็ได้รับการส่ายหน้า เพราะไม่รู้ว่าคนนี้หมอมาจากที่ไหน
“เอ่อ...ฉันได้รับจดหมายนี้ค่ะ” อรินดาไม่ทราบแน่ชัดเรื่องการรับหมอเข้ามา แต่เธอได้รับจดหมายนี้จากผอ. โรงพยาบาล ซึ่งเป็นญาติของเธอนั่นเอง
“อ๋อ...นายดูแลชวกร” มาวินโยนขี้ไปให้เพราะว่าเด็กเส้นของผอ.ปวินเขาไม่อยากยุ่ง และไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นัก เพราะชอบให้เขารับเคสที่มากเกินไป
ปวินเป็นผอ. ที่ไม่สนใจใครนอกจากเงินที่จะเข้าโรงพยาบาล ต่อให้หมอตายในหน้าที่ก็ไม่สน เขาจึงเกลียดมากเป็นพิเศษ
“เชิญคุณหมออรินดาด้านนี้ครับ”
“เอ่อ...ไม่ใช่อาจารย์มาวินเหรอคะ” อรินดางงไปหมดในเมื่อ ผอ.ปวินบอกให้เธอเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์หมอมาวินไม่ใช่เหรอ
“ผมจะรับลูกศิษย์ตามความสามารถและความพอใจ หากไม่พอใจก็เชิญครับ” เขาพูดตัดเยื้อใย ส่วนใหญ่ที่คิดมาเป็นศิษย์ของเขา เพื่อหวังสานสัมพันธ์ จนเลิกรับลูกศิษย์ไปแล้ว หากไม่ใช่เมริษาเขาจะไม่รับใครง่าย ๆ เด็ดขาด
เมริษาได้ยินเสียงประกาศกร้าวของเขา แน่นอนว่าเธอโดนเพ่งเล็งความสัมพันธ์ที่พิเศษกับมาวินแน่ มือเล็กล้วงหยิบมือถือขึ้น แล้วกดส่งข้อความ
“ฉันไม่อยากให้ใครรู้ว่าเราเป็นอดีตสามีภรรยา”
“ย่อมได้ เพราะตอนนี้ปัจจุบัน” สถานะที่เขาจะมอบให้ย่อมไม่เหมือนเดิมแน่นอน
“ขอบคุณที่เข้าใจ”
“ผมอยู่ในใจต่างหาก”
เมื่อหยอดเสร็จก็อมยิ้ม แล้วก็เรียกให้ทุกคนไปราววอร์ด รวมทั้งคนใหม่ด้วย
“หมอชวกรประกบกับหมออรินดา ส่วนหมอเมย์เดินตามผมมา”
คณิณมองสองรุ่นพี่ที่แยกเอาตัวสาวสวยไปคนละหนึ่ง แล้วก็ถอนหายใจเดินตามหมอชวกรไป
การสอบถามซักอาการคนไข้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยดี เมริษาเคยทำงานนี้มาแล้วไม่ยาก เธอจดรายละเอียดคร่าว ๆ เป็นแล้วจะไปสรุปอีกทีภายหลัง
เขาเห็นความตั้งใจของเธอก็อดอมยิ้มไม่ได้ ตอนที่แต่งงานกันทำไมมองไม่เห็นความน่ารักของเธอเลยนะ
คิดแล้วก็อยากทุบหัวตัวเอง ที่ทำเธอหายไปตั้งห้าปี จากนี้ต่อไปฉันจะรุกเอง ให้เธอเป็นฝ่ายได้รับจากฉันบ้าง
“จดเสร็จแล้วใช่ไหม” มาวินกระซิบถามด้วยใบหน้าเรียบเฉย เหมือนคนเย็นชาในมาดอาจารย์หมอมาวินเช่นเดิม
“ค่ะเรียบร้อย”
“ป่ะ กลับกัน” เขาชวนเธอกลับ เพราะมีอีกหลายอย่างที่ต้องทำ
มาวินโยนงานวิจัยที่เธอต้องการและสรุป กรอกประวัติเศสคนไข้ที่เข้ามารับการรักษา จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงเที่ยง เธอมองเขาตาละห้อย ท้องร้องประท้วงเพราะเขาเอาแต่พาเธอลากไปโน้นมานี่
‘นี่เขารับน้องเธอใช่ไหม’
“อาจารย์คะ เที่ยงแล้ว” เธอส่งเสียงครวญคราง เมื่อเขาอ้าปากจะสั่งงานอีก
“อ้อ...ขอโทษทำงานเพลินแบบนี้จนชิน”
“อาจารย์อายุสามสิบกว่าแล้วนะคะ ทำไมไม่รู้จักดูแลตัวเอง” เมื่อรับรู้ว่าเขาทานข้าวไม่ตรงเวลา วิญญาณอดีตภรรยาหมอมาวินเข้าสิงทันที
เขาก้มหน้ายิ้ม เมื่อได้ยินเสียงบ่นไม่จริงจังนัก แต่ก็ดีใจ