บทที่ 6 รับเป็นลูกศิษย์ 1/2

913 คำ
เมื่อขึ้นเครื่องบินตรงกลับไทย เธอก็เอาแต่เงียบขรึมไม่พูดจากับเขามากนัก เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะไปร่วมทีมกับเขาหรอก เดี๋ยวเธอก็หาทางของเธอได้เอง อนาคตเธอน่าจะขีดเส้นให้เดินเองได้สิ อุตส่าห์หนีเขาออกมาตั้ง 5 ปีแล้วจะกลับไปจุดเดิมทำไมกัน เมื่อลงจากเครื่องเธอลาชวกรกับหมอคณิณที่ร่วมเดินทางไปครั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เนื่องจากเกิดความไม่สงบขึ้นเสียก่อน ทำให้ได้มีเวลาทำงานด้วยกันแค่เพียงนิดเดียว แต่เธอคิดว่าทั้งสองคนเป็นหมอที่ดีเลยทีเดียว “ลาตรงนี้นะคะ หวังว่าจะได้พบกับคุณทั้งสองอีก” เธอยิ้มให้อย่างสดใส แต่เมื่อหันไปมองอีกคนกลับได้เห็นใบหน้าที่บูดบึ้งอีกครั้ง “ฉันล่ะ” “คุณเป็นสิ่งที่ฉันอยากหลบที่สุด” “กลัวล่ะสิ” “ใครบอก รำคาญต่างหาก” “เธอหนีฉันไม่พ้นหรอก” เธอไม่สนใจคำพูดของเขา เปิดประตูรถแท็กซี่ขึ้นไปนั่งด้านหลังแล้วปิดประตูไม่หันมองมายังเขาอีก เมริษาได้รับสิทธิ์ให้พักสามวันเพื่อประเมินสุขภาพ และเช็กความพร้อมร่างกายก่อนมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งเธอก็เอาแต่ขลุกอยู่ในห้องเป็นหนอนหนังสือ อ่านงานวิจัยทำงานวิจัยของเธอเป็นปกติ เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์เธอจึงไม่ได้กลับไปนอนกับแม่ เลือกนอนคอนโดของเธอที่ซื้อไว้ใกล้ ๆ โรงพยาบาล ขณะที่นอนเป็นผักเฉาอยู่นั้น เสียงของโทรศัพท์ก็สั่นเตือนขึ้น ครืด!!! หมอวิน: คุณเอาชั้นในมาใส่กระเป๋าผมทำไม หมอเมย์: ประสาท! เธอพิมพ์แล้วก็โยนโทรศัพท์ทิ้งไปบนเตียง พร้อมกับนอนหลับตาพริ้ม แต่เสียงข้อความก็ดังขึ้นอีก หมอวิน: หลักฐาน ฟืบบ! เธอมองรูปที่เป็นชุดชั้นในนั้นเป็นของเธอจริง ๆ แต่มันไปอยู่ในกระเป๋าเขาได้ยังไง แต่เธอทำแกล้งไขสือไปก่อนก็แล้วกัน หมอเมย์: ของผู้หญิงที่คุณพาขึ้นคอนโดหรือเปล่า มาวินอมยิ้มให้กับคำตอบเธอ หมอวิน: หึง หมอเมย์: เราไม่ได้เป็นอะไรกัน ลืมแล้วเหรอ หมอวิน: เอาไปคืนที่ไหนผมกำลังจะออกไป หมอเมย์: ไม่เอา! เธอปิดเสียงแล้วก็ดึงหมอนเข้ามาใกล้แล้วชกใส่หมอนเสมือนว่ามันเป็นตัวแทนของเขา “ไอ้หมอหื่น ไอ้หมอบ้า ไอ้บ้าลามก ไอ้พี่วิน” เธอรัวหมัดจนพอใจแล้ว แต่ก็ยังเห็นเขาส่งข้อความมาทางไลน์อีก หมอวิน: ผมพกติดตัวตลอด เจอกันเมื่อไหร่จะคืนคุณทันที เธอกดอ่านแต่ไม่ตอบ คุยกับเขาความรู้สึกเหมือนตัวเองประสาทจะกินบอกไม่ถูก และแล้วความสงบสุขของเธอก็จางไป เมื่อคนที่ไม่อยากได้ยินเสียงโทรเข้ามา สายเรียกเข้า ผอ. นยนา “สวัสดีค่ะ ผอ.มีอะไรหรือเปล่าคะ” “เย็นนี้ว่างไหม นัดทานข้าวกันหน่อย” นยนาเอ็นดูเมริษาเป็นพิเศษ เพราะว่าเคยแต่งงานกับเจ้าหลานชายตัวดีมาวินมาก่อน แต่เธอก็ไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวมาปนกับเรื่องงาน และทั้งโรงพยาบาลก็ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ “ได้ค่ะผอ.” เมริษาที่วันหยุดอยากใช้ชีวิตอยู่บนเตียงก็ต้องหอบสังขารมาแต่งหน้าทำผมให้ดูเรียบร้อยเพราะว่า ท่านผอ. นัดทานอาหารที่โรงแรมหรู เวลาหกโมงเย็นร่างเล็กในชุดสีน้ำตาลอ่อนลายสก็อตสไตล์เกาหลีเกาใจ เดินเข้าไปในโรงแรม แต่เมื่อมาถึงกลับเจอคู่กรณีอย่างมาวินที่เพิ่งเลิกทะเลาะกันผ่านไลน์ไปเมื่อช่วงบ่าย “มาได้ไง?” “ขับรถมา” “ผิดประเด็น” เธอส่ายหน้าพร้อมกับนั่งเมื่อเห็นท่านผอ. กำลังเดินมาอยู่ไกล ๆ “มาแล้วเหรอหมอเมย์นั่ง ๆ ตามสบาย” นยนาเห็นสองหนุ่มสาวกำลังจะลุกขึ้นต้อนรับเธอ จึงบอกนั่งทำตัวตามสบายแทน “นี่รู้จักกันไว้สิ หมอมาวินหัวหน้าแผนกศัลยแพทย์ระบบประสาทโรงพยาบาล S” “ค่ะ” เธอยิ้มให้แล้วก็โค้งให้เขา พอเป็นมารยาทเพราะเข้าใจว่า ผอ.ไม่รู้เรื่องระหว่างเราสองคน ในตอนแต่งงานไม่ได้มีญาติมามากนัก เรียกว่ารีบแต่งเพราะแม่ของเขาเท่านั้นเอง “รู้จักกันแล้วครับ ร่วมทีมที่ตุรกีนอนด้วยกัน” หมอวินกล่าวอย่างตรงไปตรงมา แต่เรียกสายตาประหลาดใจให้กับอาสะใภ้เป็นอย่างมาก ‘ไม่ใช่ว่ารีเทิร์นหรอกนะ?’ นยนาคิดในใจอย่างเปรมปรีดิ์ “คืออย่างนี้ค่ะ สถานการณ์ตอนนั้นเป็นเหตุฉุกเฉินค่ะ ต้องแชร์เต็นท์นอนร่วมกันเลยจำเป็นต้องนอนด้วยกัน” เสียงละล่ำละลักอธิบายให้ผอ. ฟังเหมือนตัวเองทำผิดเรียกรอยยิ้มให้กับคนตรงข้ามอย่างขบขัน ‘หมอบ้าฝากไว้ก่อนเถอะ’ เธอเข่นเขี้ยวอยู่ในใจ “อ้ออย่างนั้นก็ดี จะได้สนิทกันเร็ว ๆ ฉันทำเรื่องให้เธอเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์แพทย์อันดับหนึ่งแล้วนะ ทำให้ดีอย่าให้ฉันผิดหวัง” “ละ...ลูก...ลูกศิษย์เหรอคะ” เสียงตะกุกตะกักเอ่ยออกมาทั้งมองหน้าเขาอย่างต้องการคำตอบ “ใช่ นี่หมอวินหมออันดับหนึ่ง เขาไม่รับลูกศิษย์ง่าย ๆ หรอกนะ มีคนอยากสมัครเป็นลูกศิษย์กับเขาเยอะจะตาย หากไม่ได้รับการฝากฝังจากฉัน”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม