ตอนที่ 3 สามีแสนดี
“แล้วหลังแต่งงาน รันต์กับหนูวี จะพักที่ไหนคุยกันเอาไว้บ้างหรือยังลูก” แม่สามีเอ่ยถามขึ้นมาระหว่างรับประทานอาหารมื้อเที่ยง พร้อมหน้าพร้อมตา ต้อนรับสมาชิกใหม่ของบ้าน
“เอ่อ คือผม...”
“เรื่องนั้นคุณมณ...เอ่อ คุณแม่ไม่ต้องห่วงค่ะ ยังไงวีก็เป็นสะใภ้ เข้าใจธรรมเนียมของคนไทยดี วีไม่มีปัญหา ถ้าหากจะต้องย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านนี้” วีรดาตอบรับทันที ริมฝีปากขยับเม้มเกร็งนิด ๆ เพราะไม่เคยเรียกหาใครว่าเป็นแม่มาก่อน
“แม่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นหรอกหนูวี แม่เข้าใจว่าคู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันอาจอยากมีพื้นที่ส่วนตัว เพื่อทำความรู้จักกันสักพัก แม่เข้าใจถูกไหมลูก การันต์” มณฑกานต์หันไปยิ้มให้ลูกชายอย่างเดาใจตรงเผง
“ครับ ผมคิดว่าจะพาวีรดาไปอยู่ที่คอนโดสักพัก แล้ววันหยุด วันว่าง หรือว่าเสาร์อาทิตย์ ผมจะพาวีกลับมานอนที่บ้าน คุณพ่อ
คุณแม่คงไม่ว่าอะไรใช่หรือเปล่าครับ”
เพราะเข้าใจว่า บางทีวีรดาอาจไม่คุ้นเคย กับความพลุกพล่านของบ้านที่มีครอบครัวใหญ่ อีกทั้งเขาสองคนเพิ่งรู้จักกันเมื่อคืนนี้เท่านั้นเอง การจะให้วีรดามาอยู่ในบ้านหลังนี้ การันต์จึงคิดว่ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม อย่างน้อยเขาสองคนควรได้มีช่วงเวลาศึกษานิสัยใจคอของกันและกัน อีกอย่างการออกไปอยู่คอนโดด้านนอกนั้น นับว่าเป็นการเว้นระยะห่างให้อีกฝ่าย ยังพอมีความเป็นส่วนตัว
“พ่อกับแม่เข้าใจ แต่ไปอยู่กันลำพังสองคนการันต์ต้องดูหนูวีเขาให้ดี ๆ นะลูก เข้าใจไหม” แม่สามีกำชับลูกชายตัวเอง เป็นเรื่องแปลกสำหรับวีรดาที่เข้าใจมาตลอดว่าครอบครัวคนไทยมักอยากให้ภรรยาดูแลสามี
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลวีรดาอย่างดีที่สุด”
“ถ้าทำหนูวีร้องไห้เสียใจเมื่อไหร่ แม่จะเอาไม้เรียวฟาดเชียวนะ ต่อให้โตจนอายุสามสิบสองแล้วก็ตาม”
“ครับ ผมสัญญา ว่าจะรักและดูแลลูกสะใภ้ของคุณแม่อย่างดีที่สุด”
จุ๊บ ริมฝีปากแตะจูบลงไปบนหน้าผากแคบของภรรยา ที่ยังคงนอนหลับตาพริ้ม ใบหน้ายิ้มอิ่มเอมจากความสุข ที่สามีลุกขึ้นมาปลุก ปรนเปรอบำรุงบำเรอเธอตั้งแต่พระอาทิตย์ยังขึ้น
“ที่รัก เช้านี้ผมต้องไปทำงานแล้วนะครับ” การันต์โน้มตัวลงไปจูบลาภรรยาในเช้าแรกของการทำงาน
“ค่ะ ทำงานให้สนุกนะคะที่รัก ขับรถดี ๆ ล่ะ” แพขนตางอนกะพริบปรือลืมขึ้นมา พร้อมจูบนุ่มนวลประทับคืนกลับไป
“พักผ่อนเยอะ ๆ นะ ผมเตรียมมื้อเช้าไว้ให้คุณแล้ว อยู่ในครัว อาจต้องเอาเข้าไมโครเวฟนิดหน่อย มีน้ำผลไม้ผมคั้นใส่เหยือกเอาไว้ในตู้เย็นนะครับ”
“ขอบคุณค่ะ” สายตามองแผ่นหลังเจ้าของร่างสูงในชุดสูทเดินพ้นประตูห้องนอนออกไป ลมหายใจผ่อนคลายเบาสบายผ่อนผ่านช่องอกอย่างปลอดโปร่ง
“สามีของฉันโรแมนติกขนาดนี้เชียวหรือเนี่ย”
วีรดาเดินมาหยุดยืนยิ้มให้กับอาหารเช้าฝีมือสามี ด้านข้างมีกระดาษโน้ตแผ่นบาง เขียนคำความหมายว่า ‘ห่วงใย’ แปะเอาไว้ให้เหมือนพระเอกหนังในทีวี
“ส่วนคุณไอ้ชาติชั่ว...” จากนั้นแววตาเปี่ยมสุขค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นดุดันแข็งกร้าว ราวกับเป็นดวงตาคนละคู่ เมื่ออยู่ ๆ ภาพจำอันเจ็บปวดของคนทรยศฉายวกกลับเข้ามาในหัว
“วี เรื่องวันก่อนมันเป็นเรื่องเหลวไหลเข้าใจผิด ผมขอโทษจริง ๆ มันไม่ใช่อย่างที่คุณเห็นเลยนะครับ คุณฟังผมอธิบายก่อนนะ”
ชาติชาย คู่หมั้นเฮงซวย ปรากฏตัวขึ้นมาในคฤหาสน์หลังมหึมาราคาหลายร้อยล้าน ด้านหน้านั้นวีรดานั่งไขว่ห้างด้วยท่าทางสง่างามดุจนางพญา ไม่มีสีหน้าแววตาอาลัยอาวรณ์ต่อคนชั่วช้าสันดานหลายใจ
“ไม่ใช่อย่างที่ฉันเห็น กระดอเสียบใส่กันจนมิดด้าม นั่งทับโยกกันจนเตียงสั่นขนาดนั้น คุณยังหน้าด้านกล้าปฏิเสธอีกหรือชาติชาย ฉันไม่ได้โง่ ไม่ได้หูหนวกตาบอดนะ”
“ผมรู้ว่าคุณเป็นฉลาด แต่ผมก็แค่...”
“แค่อะไรคะ”
“ผู้หญิงคนนั้น อรดาเธอยั่วยวนผม เธอให้ท่าผม เธอพยายามเข้าหาผม คงอยากได้ตำแหน่งหรือเงินเดือนเพิ่มก็เท่านั้นเอง วีเราคบกันมาตั้งสิบปี อย่าให้เรื่องแค่นี้ทำให้ความสัมพันธ์ของเราต้องจบลงเลยนะ” ผู้ชายเห็นแก่ตัวโผเข้ามาหา พยายามไขว่คว้า สวมกอดคนรัก ที่ตัวเองหักหลังด้วยการนอกกาย ที่เขาคิดว่าผู้ชายส่วนใหญ่ทำกันจนเป็นเรื่องปกติ
“ค่ะ เพราะเราคบหากันมานานฉันจึงไว้ใจ และเชื่อใจคุณมาตลอด ไม่ว่ากี่ครั้ง กี่หนที่ใครหลายคน พยายามบอกให้ฉันทบทวนเรื่องของเรา แต่ฉันยังคงยืนกรานอยากแต่งงานกับคุณ จนเมื่อวานก่อนเราควรเข้าพิธีแต่งงาน เป็นสามีภรรยากัน” มือสะบัดปัดสัมผัสน่ารังเกียจออกไปอย่างเลือดเย็น
“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว เรามาเริ่มกันใหม่นะวี” คนทำผิดลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเจ้าของคฤหาสน์งาม
“ค่ะ วีเริ่มต้นใหม่แล้ว”
“กับไอ้การันต์นั่นนะหรือ”
“หุบปาก! คุณไม่มีสิทธิ์ มาจิกหัวเรียกสามีของวีแบบนั้น”
“สามี! คุณเรียกมันว่าสามีอย่างนั้นหรือวี”
“ใช่ ทำไมคะ ในเมื่อวีกับคุณการันต์ เราผ่านพิธีแต่งงานด้วยกัน มีสักขีพยานในงานเกือบสามพันคน วีกับคุณการันต์เราจดทะเบียนสมรสกัน อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้วด้วย”
“แล้วผมล่ะ เราสองคนคบกันมาสิบปี มันไม่มีความหมายอะไรบ้างเลยหรือวี” มือตบลงไปบนหน้าอกตัวเองอย่างเดือดดาล
เมื่อเห็นท่าทีเย็นชาของแฟนสาว ที่เขาคิดว่าเธอรักเขาอย่างหมดหัวใจ แต่แล้วทำไม เพียงแค่ชั่วข้ามคืน เธอถึงเปลี่ยนใจไปรักคนอื่นได้เร็วอย่างนี้
“นั่นสิคะ มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับคุณเลยหรือ ถึงได้ทำตัวต่ำ ๆ ลงไปเกลือกกลั้วกับเลขาหน้าห้องอย่างนั้น ในเมื่อใฝ่ต่ำนัก ก็กลับไปกินกันให้อิ่ม ของที่เหลือเดนมาจากคนอื่นวีไม่กิน อีกอย่างผู้ชายกาก ๆ ที่วีขากถุยทิ้งออกจากปากไปแล้ว วีไม่ลดตัวลงไปเกลือกกลั้วหรอกค่ะ”
“ผู้หญิงคนนั้นก็แค่ของเล่นชั่วครั้ง ชั่วคราว ที่ผมเอามาคลายเหงาเท่านั้น คุณจะจริงจังอะไร ผมไม่เคยคิดนอกใจคุณเลยนะ”
“วีไม่สนว่าคุณเห็นเขาเป็นอะไร แต่สำหรับวีเวลานี้คุณเป็นอดีตไปแล้ว อย่ามาให้วีเห็นหน้าอีก ออกไปจากบ้านวีแล้วต่อไปนี้ ไม่ต้องกลับมาเพราะที่นี่ไม่ต้อนรับคุณแล้ว ส่งแขก”
ลูกสาวเจ้าสัว รวยระดับอภิมหาเศรษฐีมีทรัพย์สินในครอบครองเกือบแสนล้าน ติดอันดับมหาเศรษฐีลำดับที่สองของเมืองไทย ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หางตาตวัดมองกลับไปยังพ่อบ้าน แม่บ้านที่ยืนเรียงหน้ากระดานรอฟังคำสั่งเจ้านายโค้งต่ำรับคำว่า ‘ส่งแขก’ ที่แปลความหมายว่า ให้ไล่ผู้ชายคนนี้ออกไปให้พ้นหูพ้นตา
“วีไม่นะ ผมไม่ยอมเลิกกับคุณเด็ดขาด” สองมือคว้ารวบเรียวขาสองข้างเข้ามาสวมกอดในทันที
“ปล่อยนะ คุณคิดจะทำอะไร อย่าเอามือสกปรกน่ารังเกียจที่คุณใช้มันแตะต้องผู้หญิงอื่นมาถูกเนื้อต้องตัววี” วีรดาสะบัดตัวรู้สึกขยะแขยงสะอิดสะเอียนอย่างบอกไม่ถูก
“ผมรักคุณนะวี อภัยให้ผมสักครั้งเถอะ ผมสัญญาว่าต่อไปผมจะไม่แตะต้องผู้หญิงคนไหนอีกแล้ว นะวีขอโอกาสผมอีกครั้งนะครับ”
“เสียใจด้วยค่ะ ความผิดพลาดบางอย่าง มันก็ไม่อาจให้อภัย ความเชื่อใจวีมีให้คุณมาตลอดสิบปี แต่ตอนนี้ทุกอย่างจบลงแล้ว”
“มันจะจบได้ยังไง เราวางแผนสร้างอนาคตด้วยกันเอาไว้ตั้งมากมาย โครงการต่าง ๆ ที่เราเคยตกลงว่าจะร่วมมือกันอีก”
“อ้อ โครงการทั้งหมดที่เราเคยคุยกันเอาไว้ก่อนหน้านี้ วีแจ้งเลขาไปแล้วนะคะว่าให้ยกเลิกทั้งหมด”
เหมือนสายฟ้าฟาดผ่าเปรี้ยงลงมากลางศีรษะ นอกจากเขาพลาดโอกาสใหญ่ในการได้เป็นลูกเขยของเจ้าสัวใหญ่ อภิมหาเศรษฐีที่มีแต่คนนับหน้าถือตาเกรงใจ ตอนนี้โครงการต่าง ๆ ที่วางเอาไว้กำลังจะพังทลายลงไปด้วยอย่างนั้นหรือ
“ไม่นะวี คุณจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ ผมไม่ยอมเลิกกับคุณง่าย ๆ หรอก ไม่มีทาง”
“ลูกแน่ใจแล้วใช่ไหม เรื่องของนายชาติชายกับนายการันต์คนนั้น” เจ้าของอาณาจักรแสนล้านวางแก้วน้ำชาลงบนโต๊ะไม้สักสลักลวดลายมังกร ลงลักษณ์ระดับทองคำแท้ลงไปบนเกล็ดของมัน
“ลูกแน่ใจค่ะ อย่างที่เตี่ยเคยบอกลูกเมื่อก่อนนี้ไงคะ เมื่อคนเราขาดความยับยั้งชั่งใจ เมื่อชีวิตคู่ไม่ซื่อสัตย์ต่อกัน มีครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งต่อไป ลูกขอเสียใจแค่ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้นก็พอ เมื่อก่อนลูกโง่เองที่เชื่อคำโกหกหลอกลวงของเขา ลูกผิดเองที่มั่นใจในตัวเองมากเกินไป ตอนนี้ทุกอย่างมันคงเป็นเหมือนบทลงโทษความดื้อรั้นของลูก” วีรดายกกาน้ำชารินเติมชาร้อนลงไปในถ้วยเล็กส่งให้เตี่ย
“เรื่องนายชาติชายเตี่ยเห็นด้วยที่ลูกเลิกกับไอ้หนอนเปลือกไม้นั่นได้ ส่วนเรื่องของนายการันต์...” เจ้าสัวผู้ที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมานานกว่าเจ็ดสิบปีปรายตามองลูกสาวคนเดียวเหมือนกำลังใช้ความคิด
“ลูกตัดสินใจไปแล้วค่ะ และการตัดสินครั้งนี้ ไม่ว่ามันจะลงเอยยังไง ลูกยินดีที่จะรับผลของมัน”
“กลับมาแล้วครับ” ประโยคทักทายจากสามี ที่ออกไปทำงานมาตลอดวัน ทำให้วีรดายิ้มออกมาได้ ปกติเห็นฉากอย่างนี้แค่ในหนัง ในละครน้ำเน่าไม่คิดว่าชีวิตจริงจะมีผู้ชายอย่างการันต์ พอหนุ่มแสนสุภาพเหมือนอย่างกับหลุดออกมาจากโลกนิยาย สาวสวยลุกจากโซฟาเข้ามาเขย่งขามอบจูบเป็นรางวัลให้กับคนที่กลับบ้านตรงเวลา
“ถ้าคุณคาดหวังว่า จะเห็นฉันอยู่ในชุดอยู่บ้าน ผูกผ้ากันเปื้อน ถือไม้กวาด หรือยืนล้างจาน ทำกับข้าวเอาไว้รอสามีกลับบ้าน ฉันคงต้องบอกคุณว่าเสียใจด้วยนะคะ ฉันทำเรื่องพวกนั้นไม่เป็นหรอก” ไม่จำเป็นเสแสร้ง เปลี่ยนตัวเองในสิ่งที่เธอรู้อยู่เต็มอกว่า มันไม่ใช่นิสัยส่วนตัว
“ว้า เสียดายจัง” ริมฝีปากหยักขยับยิ้มคลี่ขยายออกมาอย่างสดใส ไม่ได้จริงจัง เพราะเขาเองก็ไม่ได้คาดหวังว่าวีรดาจะต้องมาทำสิ่งไร้สาระเหล่านี้
“ถ้าคุณหิว ฉันมีแอปพลิเคชันสั่งอาหารเดลิเวอรี่ แล้วก็มีแอปพลิเคชัน ที่สามารถค้นหาร้านอาหาร ภัตตาคารดัง ๆ ทั้งไทย จีน ฝรั่ง เกาหลี อาหารสัญชาติไหนก็ได้ ฉันทานได้หมด”
“อย่างนั้นค่ำนี้เราไปดินเนอร์ ทานอาหารฝรั่งเศส ใต้แสงเทียนกันดีหรือเปล่า” จูบเบา ๆ แตะลงไปบนแก้มขาวของภรรยา
“ดีค่ะ อย่างนั้นเราสองคนควรไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่” ภรรยาสาวเงยหน้าขึ้นไปสบตาสามี ปลายนิ้วเรียวกรีดไล้ลงไปยังเสื้อเชิ้ตแขนยาว สะกิดเอากระดุมเม็ดเล็กให้มันค่อย ๆ ปลดคลายตัวออกไปทีละเม็ดอย่างใจเย็น
“วีครับ เราสองคนอาบน้ำพร้อมกันได้ไหม” ริมฝีปากนุ่มจูบลงมายังหลังมือ
“แน่นอนค่ะ ฉันอาจทำงานบ้าน ทำอาหารไม่เก่ง แต่เรื่องดูแลสามี รับรองว่าฉันทำเต็มที่อยู่แล้ว”