ตอนที่ 1 เริ่มต้นแผนการ

1442 คำ
มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ปริ้น! ปริ้น! ปริ้น! เสียงบีบแตรดังลั่น ส่งผลให้หญิงสาวที่กำลังเดินข้ามถนนตกใจกับเสียงที่ได้ยินจนเธอสะดุดขาตัวเองล้มลงเมื่อเห็นว่ารถหรูคันหนึ่งกำลังจะพุ่งเข้ามาหาเธอ “ว้าย!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวทำให้ชายหนุ่มรีบลงมาจากรถทันที เขาเดินเข้าไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่บนพื้นถนน มือเล็กข้างหนึ่งจับที่ข้อเท้าของตัวเองเอาไว้ “น้องเป็นอะไรมากมั้ยครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามออกไปก่อนจะก้มลงไปใกล้ๆ หญิงสาว “เจ็บข้อเท้านิดหน่อยค่ะ..คุณขับรถยังไงเนี่ย? ไม่เห็นคนเดินข้ามถนนหรือยังไง?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับชายหนุ่ม ทันใดนั้น หัวใจของเธอก็เต้นแรงแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “เอ่อ..พี่ขอโทษนะครับ พอดีพี่รีบไปสอบน่ะ..น้องลุกไหวมั้ย?” ชายหนุ่มเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าเธอพยายามพยุงตัวเองลุกขึ้นมา “ไหวๆ โอ๊ย!” หญิงสาวตอบออกไปก่อนจะร้องเสียงดังขึ้นมาอีกครั้งด้วยความเจ็บปวดที่ข้อเท้า “พี่ว่าข้อเท้าน้องต้องแพลงแน่เลย เดี๋ยวพี่พาไปหาหมอ” “ไม่เป็นไร..นั่งพักเดี๋ยวก็คงหาย” พูดจบหญิงสาวพยายามลุกขึ้นอีกครั้งอย่างช้าๆ “พี่ว่าไปหาหมอดีกว่านะ..” “ไปไม่ได้..วันนี้มีพรีเซนต์งาน ฉันต้องรีบไปแล้วเดี๋ยวไม่ทัน คุณก็จะรีบไปสอบไม่ใช่เหรอ?” “งั้นพี่ขอเบอร์เราไว้ได้มั้ย..พี่จะได้โทรถามอาการว่าน้องเป็นยังไงบ้าง” “ไม่เป็นไรแล้ว..เดี๋ยวก็หาย คุณรีบไปเถอะ” พูดจบหญิงสาวก็เดินกะเผลกจากไปทันที ทิ้งให้ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียว หยิ่งจริงๆ เลยนะ..คนสวย คณะบริหาร “มึงไปไหนมาวะ? ทำไมมาช้า พวกกูรอนานแล้วเนี่ย” อาทิตย์วราเอ่ยถามออกมาเมื่อเห็นอนาคินเดินเข้ามาหาพวกเขาที่โต๊ะหินอ่อนข้างตึกของคณะ “กูก็ไปจีบหญิงมาน่ะสิ..” อนาคินยักคิ้วขึ้นข้างหนึ่งก่อนจะตอบออกไป “เป็นไง..ได้เบอร์มามั้ย?” ธาวินทร์ถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ไม่” อนาคินตอบพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ “กูบอกแล้วว่ายัยเด็กนี่มันหยิ่ง..ยังไงก็สู้ๆ นะมึง หรือว่ามึงจะยอมแพ้ตอนนี้เลยก็ได้นะ” คีตะเอ่ยด้วยน้ำเสียงยียวน “ไม่มีทาง..คนอย่างกูต้องชนะเท่านั้น” “เออ..กูจะรอดู” คีตะพูดพร้อมกับลุกขึ้นยืนและเดินนำพวกเพื่อนๆ เข้าคลาสเรียนแรกในภาคเช้า คณะอักษรศาสตร์ กว่าที่คริมาจะเดินมาถึงคณะ ก็ทำเอาหญิงสาวเกือบแย่ เห็นได้ชัดว่าข้อเท้าของเธอมันบวมแดงขึ้นมา ส่วนความเจ็บนั้นไม่ต้องพูดถึง..หลังจากพรีเซนต์งานเสร็จคงต้องไปหาหมอ ดีที่วันนี้เธอมีเรียนแค่วิชาเดียว “แกๆ เมื่อเช้าฉันเห็นยัยครีม อ่อยพี่คิน แก๊งหนุ่มหล่อพ่อรวยด้วยแหละ..” เสียงกระซิบของผู้หญิงสองคนที่นั่งข้างหลังคริมา หญิงสาวได้ยินแต่แสร้งทำเป็นไม่สนใจเพราะมันไม่ใช่ความจริง ผู้ชายคนนั้นเป็นใครเธอยังไม่รู้จักเลยแล้วเธอจะไปอ่อยเขาได้อย่างไรกัน เธอแค่ตกใจเสียงบีบแตร เพราะเธอกำลังเดินข้ามถนน ก่อนข้ามเธอก็ดูทางดีแล้วนะ..ไม่รู้ว่าอีตานั่นโผล่มาจากไหน หลังจากจบคาบเรียน คริมาพยายามเดินไปที่ห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัย ถ้าจะให้ไปโรงพยาบาลหรือคลินิกก็ต้องเสียเงินเอง เธอมีเงินไม่มากนักเพราะถูกแม่เลี้ยงหักไป ปกติบิดาของเธอจะให้เงินอาทิตย์ละสามพันโดยให้แม่เลี้ยงเป็นคนจัดการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ซึ่งแน่นอนว่าแม่เลี้ยงของเธอนั้นให้เงินเธอแค่สองพันบาท และนำเงินส่วนที่เหลือที่ควรจะเป็นของเธอไปให้ลูกสาวทั้งสองของหล่อนแทน เรื่องนี้บิดาของเธอไม่เคยรับรู้อีกเช่นเคย “จะไปหาหมอเหรอ..ให้พี่พาไปมั้ย?” อนาคินเอ่ยถามเมื่อเขาเดินตามหลังหญิงสาวที่กำลังเดินตรงไปยังห้องพยาบาลของมหาวิทยาลัย “อ่อ..คุณนั่นเอง ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้” หญิงสาวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงไม่เต็มใจนัก “แล้วทำไมไม่ไปโรงพยาบาลล่ะ?” ชายหนุ่มยังคงถามต่อไป “นี่คุณ! ฉันจะไปหาหมอที่ไหนมันก็เรื่องของฉัน คุณไม่ต้องมายุ่งกับฉันจะได้มั้ย?” เธอไม่อยากตกเป็นขี้ปากชาวบ้านที่ชอบนินทาคนอื่น “พี่คงไม่ยุ่งกับน้องไม่ได้หรอก..พี่ทำให้น้องต้องเจ็บพี่ก็ต้องรับผิดชอบสิ” “ไม่จำเป็น..คุณไม่ได้ชนฉันสักหน่อย ฉันล้มลงไปเอง” หญิงสาวเชิดหน้าตอบชายหนุ่มออกไป “ถ้าน้องไม่ตกใจเสียงแตรรถพี่ น้องก็คงไม่ล้ม แล้วแบบนี้จะไม่ให้พี่ยุ่งได้ยังไง? ไปเถอะ..อย่าดื้อเลย เดี๋ยวมันจะบวมไปมากกว่านี้” พูดจบชายหนุ่มก็ถือวิสาสะพยุงหญิงสาวให้เดินไปขึ้นรถหรูที่จอดอยู่ใกล้ๆ เขาพูดจนเธอปฏิเสธไม่ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องเสียเงินเอง โรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง หลังจากที่อนาคินพาหญิงสาวมาโรงพยาบาล เขานั่งรอเธอจนกระทั่งถึงคิวจ่ายเงินและรับยา หมอทำการเอกซเรย์แล้วผลคือข้อเท้าแพลงเฉยๆ ไม่ถึงกับหัก แต่หมอก็ใส่เฝือกมาให้เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนเวลาเดิน ระหว่างที่เธอนั่งบนรถวีลแชร์เพื่อรอจ่ายเงิน ชายหนุ่มบอกกับหญิงสาว “ค่ารักษาพยาบาล เดี๋ยวพี่จ่ายให้เองนะ” “ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ “ชื่อคริมาเหรอ?” “ค่ะ” หญิงสาวทำหน้างงก่อนจะพยักหน้าให้เขา “แล้วมีชื่อเล่นมั้ย?” “คุณนี่ก็ถามแปลกๆ นะ คนเรามันก็ต้องมีชื่อเล่นกันทุกคนปะ!” หญิงสาวหัวเราะออกมาเบาๆ “พี่ชื่ออนาคิน เรียกคินก็ได้ แล้วน้องล่ะชื่ออะไร?” “เอ่อ..ชื่อครีมค่ะ” คนนี้สินะ หนึ่งในหนุ่มฮอตของแก๊งหนุ่มหล่อพ่อรวย เธอเองก็เคยได้ยินกิตติมศักดิ์ของหนุ่มๆ กลุ่มนี้ เพียงแต่เธอไม่เคยรู้จักผู้ชายพวกนี้มาก่อน อาทิตย์ก่อนมีผู้ชายหน้าตาหล่อคนหนึ่งเข้ามาคุยกับเธอ แต่เธอเดินหนีไม่ยอมคุยด้วย ผู้ชายพวกนี้ก็แค่หวังจะมาจีบเธอ ใช่! เธอรู้ตัวเองดีว่า ความสวยของเธอนั้น บิดามารดาให้มามากแค่ไหน เพียงแต่เธอคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องมีแฟน ตอนนี้เธออยากตั้งใจเรียนให้จบก่อน เรื่องแฟนก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของอนาคต “ชื่อน่ากินจัง” ชายหนุ่มพูดเหมือนละเมอออกมา “อะไรนะคะ” หญิงสาวร้องถามเสียงสูง “เอ่อ..คือพี่หมายความว่าพี่ชอบกินเค้กที่มันมีครีมเยอะๆ น่ะ” “อ๋อค่ะ” หลังจากที่รับยาเสร็จเรียบร้อย ชายหนุ่มเข็นรถวีลแชร์พาหญิงสาวไปที่รถ เขาช่วยพยุงเธอขึ้นรถจากนั้นชายหนุ่มอ้อมไปเปิดประตูรถนั่งฝั่งคนขับ “น้องครีมจะให้พี่ไปส่งที่ไหนครับ?” ชายหนุ่มถามออกไป “เอ่อ..ส่งที่xxxค่ะ” หญิงสาวลังเลชั่วครู่ก่อนจะตอบออกไป “โอเคครับ” ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานให้ก่อนจะขับรถไปตามสถานที่ที่เธอบอก เมื่ออนาคินขับรถมาจอดบริเวณใกล้ๆ กับบ้านของเธอ “บ้านน้องครีมหลังไหนครับ?” “เอ่อ..คุณอย่ารู้เลยค่ะ ส่งฉันแค่นี้ก็พอ” “พี่ขอแอดไลน์น้องครีมไว้ได้มั้ย? พี่อยากถามอาการที่ข้อเท้า..คือพี่เป็นห่วง” สิ้นเสียงพูดของชายหนุ่ม คริมาหน้าแดงขึ้นมาทันที “เอ่อ..ก็ได้ค่ะ” จากนั้นชายหนุ่มก็ยื่นโทรศัพท์มือถือราคาแพงให้หญิงสาว ก่อนที่เธอจะรับมาและแอดไลน์ของเธอให้เขา “ขอบคุณมากนะครับ” ชายหนุ่มอมยิ้มเล็กน้อย “ค่ะ..ไปก่อนนะคะ ขอบคุณมากๆ นะคะที่พาไปโรงพยาบาล” หญิงสาวพูดจบก็รีบลงจากรถทันที เขาเห็นเธอค่อยๆ เดินไปแวะที่ร้านขายของชำร้านหนึ่ง ชายหนุ่มยิ้มเยาะอยู่ในใจ ก็ไม่เห็นจะยากเลย ก่อนจะขับรถออกไป
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม