วันรุ่งขึ้นน้ำรินตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างรุนแรง คงเป็นผลมาจากที่ตากฝนเมื่อคืนทำให้ไม่สบาย เธออยากจะนอนต่ออีกสักนิด แต่ติดที่ว่ามีโทรศัพท์จากสายสำคัญโทรเข้ามาเสียก่อน
ครืด... ครืด...
"ค่ะพี่ภาคิน" เธอรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า ระหว่างนั้นก็รีบลงจากเตียงนอนเพื่อเข้าไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
(แย่แล้วครับคุณรินพีเอ็นกรุ๊ปยกเลิกสัญญาและไม่ยอมส่งของที่สั่งล็อตล่าสุดมาให้เราครับ)
"เร็วขนาดนั้นเชียว"
น้ำรินพึมพำกับตัวเอง ไม่คิดว่าเป็นหนึ่งจะกล้าตัดเม็ดเงินจำนวนมหาศาลเพียงเพราะความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนระหว่างเขาและเธอ
(ทางนั้นอ้างเรื่องที่เราชำระไม่ตรงในครั้งก่อน)
"ไม่เป็นไรค่ะ ระหว่างนี้แจ้งทางทีมพีอาร์ให้ส่งหนังสือขอโทษลูกค้าที่ส่งรถคืนล่าช้า และเอารถในสต๊อกเราให้ลูกค้าไปใช้ก่อน"
(แต่มันจะไม่คุ้มค่าเสื่อมสภาพของรถเรานะครับ)
"ยังไงเราก็ต้องซื้อใจลูกค้าเอาไว้ก่อน รินเซ็นอนุมัติคำสั่งเอง"
(ครับ เอ่อ...แล้วอีกเรื่องคือคุณหนูหนีออกจากโรงพยาบาลครับ)
"อะไรนะคะ! เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ยังไง ไหนพี่บอกว่าดูแลเมญ่าได้"
(คุณหนูไม่ได้หนีไปเอง แต่มีคนช่วยในการหลบหนี....)
น้ำรินกำโทรศัพท์ที่แนบหูแน่นหลังจากที่รู้ว่าใครพาเมริญาหนีไป ดวงตาระริกไหวเพ่งมองภาพในแชตไลน์ที่ภาคินส่งให้ ภาพทุกมุมกล้องดูยังไงก็ดูออกว่าเป็นความเต็มใจไม่ใช่บังคับ เธอกำชับว่าห้ามบอกเรื่องนี้กับอลันเพราะจะมีผลต่ออาการป่วย ส่วนตัวเองก็รีบเดินทางไปตามตัวเมริญาทันที
@ คอนโดของเป็นหนึ่ง
น้ำรินพ่นลมหายใจระบายความอึดอัดในใจออกมา เมื่อต้องมาอยู่ในสถานที่ที่เธอเกือบถูกล่วงละเมิดเมื่อคืนที่ผ่านมา เพียงแค่น้ำรินโชว์การ์ดระดับวีไอพีที่เป็นหนึ่งเคยให้ไว้ เธอก็สามารถเข้าไปในคอนโดนี้ได้อย่างสบายๆ
สองเท้าก้าวเดินเข้าไปในลิฟต์ที่พนักงานต้อนรับเปิดรอ แววตาฉายแววมั่นใจจับจ้องอยู่ที่ตัวเลขระบุชั้นภายใต้หัวใจที่กระหน่ำเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่นานลิฟต์ก็พาเธอมายังชั้นเป้าหมายที่ต้องการ ซึ่งทั้งชั้นมีเพียงห้องพักของเป็นหนึ่งเพียงห้องเดียว
ติ๊ด!
น้ำรินทาบคีย์การ์ดในมือลงบนประตู ค่อยๆ บิดลูกบิดเปิดเข้าไปภายในห้องพักหรูของเป็นหนึ่ง ภาวนาให้สิ่งที่เธอคิดไว้ไม่เกิดขึ้น ทว่าทั้งภาพและเสียงชัดเจนบ่งบอกว่าความจริงอยู่ตรงหน้าเธอ ตอกย้ำความเจ็บปวดภายในหัวใจดวงน้อยซ้ำๆ
เลวแบบดูโอ้...
"พี่หนึ่ง แรงๆ สิคะ ญ่าจะเสร็จ ขอแรงๆ อีก”
"ซี้ด...ไม่ให้เสร็จค่ะ พี่จะแกล้งหนู"
"อื้อ...พี่หนึ่ง"
"อ๊า...หนูก็อย่าตอดแรงสิค่ะ ซี้ด "
หัวใจดวงน้อยปวดหนึบไปทั้งดวง หูทั้งสองได้ยินเสียงครวญครางกระเส่าระคนเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังกึกก้องห้องน้ำสไตล์ลักชูรี บ่งบอกถึงความสุขสมของบุคคลที่อยู่ในนั้นได้เป็นอย่างดี เท้าเล็กค่อยๆ พาตัวเธอย่างกายผ่านห้องนอนของเป็นหนึ่งไปทางต้นเสียง ท่ามกลางเสื้อผ้าของทั้งคู่ที่ตกกระจัดกระจายอยู่บนพื้น
ประตูบานใหญ่แง้มเล็กน้อยคล้ายเชื้อเชิญให้คนอยากรู้ผลักมันเข้าไป น้ำรินหยุดอยู่หน้ากรอบประตูเท่านั้น ทว่าดวงตาระริกไหวก็สามารถมองเห็นทุกฉากรักเร่าร้อนภายในห้องน้ำได้อย่างชัดเจน
ท่ามกลางสายน้ำที่ไหลรดลงจากฝักบัวแบบเรนชาวเวอร์ สองร่างเปลือยกันกอดรัดพัวพันอยู่ใต้ฝักบัว เสียงครวญครางหอบหายใจกระเส่าดังกึกก้องห้องน้ำหรู ไม่ดูก็รู้ว่าพวกเขาทำอะไรแต่น้ำรินก็เลือกที่จะดูให้เห็นกับตาเพื่อตอกย้ำทุกความเจ็บปวดที่ทั้งสองคนตั้งใจมอบมันให้เธอ
...ผู้ชายที่เธอเห็นว่าแสนดี ตอนนี้มันกำลังปี้คนอื่นอยู่นะ
ส่วนเมริญานั้นกำลังดื่มด่ำกับรักรสร้อนโดยที่ไม่รู้เลยว่าน้ำรินได้เก็บภาพทุกอย่างเอาไว้หมดแล้ว
น้ำรินรู้มาว่าเมื่อหลายเดือนก่อนเป็นหนึ่งกับเมริญาทั้งคู่ได้แอบมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน เธอรู้สึกดีใจกับตัวเองว่าที่ผ่านมาเธอไม่ยอมเผลอใผลปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้ตกเป็นของเป็นหนึ่ง ตอนนั้นพยายามทำความเข้าใจว่าเมริญาร่วมรักกับเป็นหนึ่งเพียงเพราะตกอยู่ภายใต้ห้วงอารมณ์ที่ควบคุมไม่ได้ของโรคประจำตัว เพราะเมริญามีความต้องการทางเพศสูงมากและสามารถเกิดขึ้นกับใครก็ได้ แค่สัมผัสปลายนิ้วอีกฝ่ายก็สามารถลากกันขึ้นเตียงได้แล้ว
พยายามไม่โกรธไม่เกลียด แต่บางครั้งก็อยากเข้าไปถามคนที่รักทั้งสองตรงๆ ว่าทำไมไม่คบกับให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย มาแอบทรยศเธอลับหลังเพื่ออะไร มันสนุกนักหรือไง
หลายนาทีต่อมาน้ำรินถอยออกไปหลบอยู่หลังประตูบานใหญ่ เธอยกหลังมือขึ้นเช็ดน้ำตาแห่งความเสียใจ จากนั้นพอตั้งสติได้ก็รีบสาวเท้าเดินออกจากสนามรักของชายหญิงด้วยความเจ็บปวดเต็มหัวใจ
ทว่า ครั้งนี้เธอจะไม่ยอมอยู่เฉยอีกต่อแล้ว...
@ โรงพยาบาลเอกชน
ภายในห้องพักฟื้นพิเศษ อลันอยู่ในอาการเคร่งเครียดเมื่อรู้ว่าลูกสาวตัวดีหนีออกจากโรงพยาบาล ทั้งที่วันนี้จะต้องจดทะเบียนสมรสและย้ายเข้าไปอยู่ที่บ้านของปฐพี
“เอาเป็นว่าพี่จะทำเรื่องโอนหุ้นคืนให้วีร์ภายในวันนี้”
“ในเมื่อลูกสาวพี่ไม่ทำตามข้อตกลงก็ต้องทำแบบนั้นล่ะค่ะ”
แม้มาชาวีร์จะไม่ต้องการเงินหรือหุ้นบริษัทของอลัน ทว่าต้องทำเพราะคิดว่าอลันตุกติกไม่ยอมยกลูกสาวให้ตามคำมั่นสัญญา
“มาลิลีนรักบริษัทนี้มาก ถ้าเธออยู่ก็คงเสียใจไม่แพ้กัน เป็นห่วงก็แต่เมญ่ากับน้ำริน”
“น้ำริน...เด็กที่ตัวติดกันกับเมญ่านั่นเหรอคะ” มาชาวีร์ทวนคำผู้พี่
"ใช่ รินเป็นลูกบุญธรรมที่พี่รับมาเลี้ยง เธอเป็นเด็กดีมากทุกวันนี้พี่ก็ได้รินนี่แหละคอยช่วยงาน"
อลันพร่ำพูดด้วยท่าทีเหม่อลอย โดยที่เขาไม่ทันได้เห็นแววตาเปล่งประกายของน้องสาวต่างสายเลือด ที่จู่ๆ ก็มีความหวังเรื่องหาภรรยาให้ลูกชายฉายขึ้นมา
"งั้นก็ยกรินให้วีร์สิคะ"
มาชีวีร์เอ่ยอย่างมีความหวัง นึกย้อนไปถึงเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่อลันรับมาเป็นบุตรบุญธรรมเมื่อครั้งที่ไฟไหม้บ้านเด็กกำพร้า เพื่อให้เธอมาเป็นเพื่อนเล่นกับบุตรสาวหลังจากที่ภรรยาเสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็ง ผ่านไปหลายปีเธอโตเป็นสาวสะพรั่งแล้ว ทว่าไม่เคยได้ยินอลันพูดถึงเด็กผู้หญิงคนนั้นเลยสักครั้ง จนลืมไปเลยว่าอลันมีลูกบุญธรรม
"ไม่ได้ รินควรได้เลือกเส้นทางชีวิตของตัวเอง พี่ไม่มีทางเอาเรื่องนี้ไปรบกวนลูกหรอก"
แกร้ก!
"แล้วถ้าหนูเต็มใจแต่งงานแทนเมญ่าล่ะคะคุณพ่อ"
ทั้งคู่ต่างหันไปมองหญิงสาวผู้เดินเข้ามาใหม่ด้วยความประหลาดใจ น้ำรินเสียมารยาทยืนฟังผู้ใหญ่คุยกันอยู่หน้าห้องได้สักพักแล้ว
"ขอโทษที่เสียมารยาทค่ะ เรื่องแต่งงานถ้าคุณน้าไม่รังเกียจที่หนูเป็นเพียงเด็กกำพร้า ไม่มีหัวนอนปลายเท้า หนูยินดีแต่งงานแทนเมญ่าค่ะ"
"น้าไม่เคยคิดรังเกียจเลยค่ะ น้าแค่แปลกใจว่าทำไมจู่ๆ เราถึงใจตรงกัน แล้วทำไมหนูถึงอยากแต่งงานแทนเมญ่าจ๊ะ"
"หนูต้องการให้คุณน้าช่วยเรื่องบริษัทคุณพ่อต่อค่ะ ทางเรายังไม่พร้อมให้คุณน้าถอนหุ้นคืนในตอนนี้"
"แต่พ่อไม่มีทางให้ลูกเลือกเส้นทางชีวิตเส้นนี้เด็ดขาด" อลันแย้งขึ้น
"ถ้ามันเป็นวิธีที่จะช่วยคุณพ่อรักษาบริษัทนี้เอาไว้ได้ รินก็เต็มใจค่ะ" การแต่งงานจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เธอทำเพื่อตอบแทนบุญคุณที่อลันชุบเลี้ยงเธอมาตลอดสิบปี ก่อนที่เธอจะจากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่
"แล้วเป็นหนึ่งล่ะ แฟนเราจะว่ายังไงถ้ารินหนีไปแต่งงานแบบนี้"
"หนูรินมีแฟนอยู่แล้วเหรอคะ ถ้าอย่างนั้นน้าว่า..." มาชาวีร์ยังพูดไม่จบน้ำรินก็รีบอธิบายเสียก่อน
"เราเลิกกันแล้วค่ะ ระหว่างหนูกับเขาเราจบกันไปแล้ว" รอยยิ้มบางผุดขึ้นบนใบหน้าซีดเซียวของหญิงสาวเพื่อเป็นการยืนยันคำพูด
"แต่ถึงยังไงพ่อก็ไม่เห็นด้วยหรอกนะ รินควรมีชีวิตของรินเอง"
ชีวิตของน้ำรินแม้ว่าเธอจะเป็นเด็กกำพร้า แต่เธอก็มีทุกอย่างทั้งการศึกษา หน้าที่การงาน หน้าตาทางสังคม หญิงสาวตอบแทนบุญคุณของอลันทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เธอควรได้มีชีวิตที่ดีต่อไปในวันข้างหน้าไม่ใช่มัวแต่อยู่ตอบแทนบุญคุณอลันไปตลอดชีวิต
"รินเต็มใจค่ะ ขอให้หนูได้ทำเพื่อคุณพ่อครั้งสุดท้ายเถอะนะคะ"
คำว่า ครั้งสุดท้าย ทำให้คนฟังถึงกับใจหาย น้ำรินสบตากับพ่อบุญธรรมด้วยแววตาสื่อความหมายบางอย่าง ภารกิจนี้ไม่ยากจนเกินไป รู้ดีว่าไม่ใช่แค่เมริญาที่ไม่อยากแต่งงานฝ่ายผู้ชายก็ไม่อยากแต่งเช่นกัน
หลังจากแต่งงานผู้ชายคนนั้นอาจขอหย่าเองก็ได้ เมื่อวันนั้นมาถึงเธอจะได้ไปใช้ชีวิตของตัวเองอย่างที่ไม่ติดค้างหนี้บุญคุณใครอีก
“ถ้ารินเลือกแล้ว พ่อก็ขอบใจลูกมากจริงๆ” ในที่สุดอลันก็ยอมให้เธอได้ทำในสิ่งที่เสนอ
"ว่าแต่หนูริน ต้องการอะไรเป็นการตอบแทนลูก"
"เราจำเป็นต้องพึ่งใบบุญจากบริษัทของคุณน้าให้เป็นคู่ค้า ช่วงที่เราถูกตัดขาดจากทางนั้นค่ะ"
“ได้สิ น้ายอมรับทุกความต้องการของหนู แต่น้ามีบางอย่างอยากจะขอให้หนูช่วยลูกชายน้าเพิ่มอีกสักสองเรื่อง ไม่รู้ว่ารินจะทำได้มั้ย...”
“คุณน้าบอกมาเถอะค่ะ ขอแค่อย่าบอกให้ไปฆ่าคนก็พอ นอกนั้นหนูทำได้หมด”
"แบบนี้สิน้าค่อยสบายใจหน่อย"
มาชาวีร์คลี่ยิ้มถูกใจ เธอยินดีให้ทุกอย่างตามที่น้ำรินเรียกร้อง ทว่าหญิงสาวจะต้องทำตามข้อตกลงทั้งหมดสองข้อ โดยเงื่อนไขทุกอย่างเป็นความลับที่รู้กันเพียงสองคน ระหว่างมาชาวีร์กับน้ำรินเท่านั้น