คนเสียสติหวีดร้องลั่น ส่ายหน้าไปมาพร้อมพึมพำประโยคเดิมซ้ำๆ หลายต่อหลายครั้ง ก่อนจะทิ้งปืนลง แล้ววิ่งกระเซอะกระเซิงออกไปจากบ้าน “เมศ…อย่าเป็นอะไรนะ…” เห็นพ่อของลูกเจ็บหนัก ธารธาราก็ร้องไห้อย่างใจเสีย ลนลานโทรหาปิยฉัตร จากนั้นเพื่อนรักก็ติดต่อแทนไทให้ ที่สุดก็เป็นพ่อของปรเมศที่ให้คนเอาเฮลิค็อปเตอร์มารับ ชาวบ้านต่างมามุงดูด้วยความเป็นห่วงและสลดใจพอกัน ก่อนหน้านี้ใช่ว่าผู้ใหญ่บ้านจะเพิกเฉย แต่เพราะมาแอบดูแล้วเห็นว่าเหตุการณ์ชักจะเลวร้าย ไม่เหมาะที่คนหมู่มากจะเข้าไปในเวลานั้น เพราะถ้าคนมากเท่าไหร่คนที่ถือปืนอยู่ก็จะยิ่งกดดัน พร้อมกันนั้นก็จะคิดว่าตัวเองหัวเดียวกระเทียมลีบ และบางทีก็อาจจะทำอะไรไปแบบขาดสติสุดกู่ ซึ่งเล็งเห็นแล้วว่าหากวู่วามคุณหมอทั้งสองอาจได้รับอันตรายถึงชีวิต ฉะนั้นผู้ใหญ่บ้านจึงบอกให้ลูกบ้านกระจายกำลังล้อมบ้านของธารธาราเอาไว้ ในจังหวะที่กีรติวิ่งกระเซอะกระเซิงพร้อมกรีดร้

