“จะไปโกหกใครที่ไหนก็ไปนะพิม แต่อย่ามาโกหกหมออย่างผม ผมรู้แล้วกันว่าทำได้แค่ไหน” ภูชิตบอกอย่างรู้ทัน
ส่วนหญิงสาวถึงกับเงียบไปทีเดียว เมื่อเธอไม่เห็นท่าว่าเธอจะชนะ เธอจึงได้แต่นั่งมองหน้าชายหนุ่มอย่างหมดความหวัง นี่เธอต้องแต่งงานกับเขาทั้งที่เธอไม่ได้รักกับเขา แถมยังอุ้มท้องลูกของเขาอยู่ แล้วหลังจากนั้นก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาของเขาทั้งที่ไม่ได้มีความรู้สึกรักใคร่ชอบพอกันมาตั้งแต่ต้น นี่มันเวรกรรมอะไรของเธอเนี่ย มันถึงได้เกิดเรื่องบ้าๆ ขึ้นกับเธอ
“ไม่รู้แหล่ะ ฉันจะปกป้องตัวเองให้นานที่สุด จะได้รอดจากหมอหื่นๆ แบบคุณ คนท้องยังไม่เว้น” เมื่อไม่สามารถเถียงให้ชนะเขาได้ หญิงสาวก็เลือกที่จะใช้เหตุผลข้างๆ คูๆ เอาตัวรอดจากเขาไป
“ก็มาดูแล้วกันว่าจะรอดได้ถึงวันไหน” ภูชิตเอ่ยเชิงขบขัน เขายอมรับว่าเขาชอบเธอในความไม่เหมือนใคร แต่ที่มันติดอยู่ในใจของเขาตลอดมา นั่นก็คือการที่เขาเป็นคนทำลายความบรสุทธิ์ของเธอ มาตอนนี้เขามีโอกาสได้รับผิดชอบเธอ แม้ว่าทุกอย่างมันจะไม่ได้เริ่มจากความรัก แต่เขาก็พร้อมจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เธอจะไม่มีวันเสียใจที่เลือกเดินเคียงข้างคนอย่างเขา
หลังจากที่ทุกอย่างเรียบร้อย งานแต่งงานของทั้งสองถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ข่าวการแต่งงานของคนทั้งคู่เป็นข่าวที่ค่อนข้างน่าตกใจเลยทีเดียว เพราะไม่ได้มีใครระแคะระคายว่าคนทั้งสองนั้นแอบคบกันเลยสักนิด คนที่เพอร์เฟคอย่างภูชิต กำลังจะมีเจ้าของอย่างพิมพิชชา ซึ่งเป็นเพียงพยาบาลสาวธรรมดา ไม่ได้เป็นลูกท่านหลานเธอที่ไหน นั่นยิ่งทำให้หลายคนต่างอิจฉาในความโชคดีของหญิงสาว แต่ไม่มีใครรู้ว่าเบื้องลึกเบื้องหลังการแต่งงานครั้งนี้มันคืออะไร
“เหนื่อยมั้ย” ชายหนุ่มเอ่ยถามหลังจากที่เธอควงแขนเขาเดินต้อนรับแขกทั้งงาน รอยยิ้มที่สร้างขึ้นมาของทั้งคู่ประหนึ่งว่าทั้งสองตั้งใจแต่งงานกันจริงๆ เพราะภาพลักษณ์ของบิดามารดาชายหนุ่ม พวกเขาทั้งสองเลยต้องสร้างภาพลวงตาหลอกคนที่มาร่วมงานแต่งงาน
“ก็เหนื่อยค่ะ สงสัยเพราะเจ้าตัวเล็กมั้ง ปกติแค่นี้ไม่คะนามือพยาบาลถึกเถื่อนอย่างพิมหรอกค่ะ” หญิงสาวบอกด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
“งั้นเราออกไปนั่งพักกันเถอะ” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยความเป็นห่วง เพราะผู้หญิงคนนี้นอกจากจะเป็นภรรยาของเขาแล้ว เธอยังเป็นแม่ของลูกเขาอีก
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อุตส่าห์จัดงานแต่งงานซะยิ่งใหญ่ เจ้าบ่าวเจ้าสาวจะชิ่งมันก็ใช่เรื่อง” พิมพิชชายิ้มเหนื่อยๆ
“ก็ช่างงานแต่งสิ คนอื่นไม่สำคัญเท่าคุณกับลูกหรอกนะ” นายแพทย์หนุ่มกล่าวอย่างจริงจัง
“ขอร้องล่ะค่ะหมอ อย่าเวอร์” พิมพิชชากล่าวก่อนจะควงแขนภูชิตเดินเข้าไปทักทายและต้อนรับแขกที่มาร่วมงานแต่งงานของทั้งคู่ เธอไม่อยากทำให้งานมันต้องกร่อยลงเพราะเธอ ทุกคนมองคู่บ่าวสาวด้วยแววตาชื่นชม ก่อนที่งานแต่งงานจะจบลงอย่างสวยงาม สมตามความต้องการของคุณพรชัยและคุณภูชิตา เพราะการแต่งงานครั้งนี้มันสร้างภาพลักษณ์ดีๆ ให้กับบุตรชายท่านทั้งสอง เพื่อเตรียมพร้อมในการเป็นผู้บริหารโรงพยาบาลคนต่อไป