"อื้ออ อึก อื้อ"
"อย่าบ่น!"
"อือออ ^¥^°_&+:"
"โตเป็นควายแล้วยังพูดไม่รู้เรื่องอีก"
"____"
จะให้พูดยังไงในเมื่อพี่ล่ำบังคับให้ฉันกับเพื่อนยืนกระต่ายขาเดียวหน้าร้านอีกทั้งหาไม้บรรทัดมาให้คาบไว้
"เด็กดื้อต้องโดนลงโทษ" ผมด่าสั่งสอน "อายุแค่นี้โดดเรียนแล้วโตขึ้นจะเรียนจบได้ยังไง"
ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายแก่ๆ อากาศค่อนข้างร้อนแต่แล้วยังไงเป็นเด็กนิสัยไม่ดีก็ต้องถูกสั่งสอนจึงให้ยืนตากแดดพร้อมคาบไม้บรรทัดยืนกระต่ายขาเดียวสั่นด๊อกแด๊ก
"เนตร!เราไม่ไหวแล้วคิดอะไรสักอย่างสิไม่อยากจะอยู่ตรงนี้ทั้งร้อนทั้งแดดจ้า" ชมพูดึงไม้บรรทัดที่คาบตรงปากออก รีบเจรจากับเพื่อนเพราะตอนนี้เขากลับเข้าไปในร้าน
"จะให้ทำยังไงล่ะ..พี่ล่ำท่าทางเอาจริงนะนั่น"
"ช่วยคิดหน่อยสินี่เนตรมิงค์เก่งจะตาย"
"ใครจะไปเก่งทุกเรื่องได้ล่ะ เฮ้อ"
กระทั่งเวลาผ่านไป
ฟุ่บ
"ช่วยด้วยเนตรเป็นลม!"
ในร้าน
"พี่ใจร้ายจังดูสิหนูร้อนจนเป็นลม" หลังจากโดนลงโทษจนล้มพับ พี่ล่ำก็อุ้มมานั่งพักอยู่ในร้านที่เปิดเพียงพัดลมส่ายไปมา
"เพื่อนเธอท่าทางจะหัวดื้อนะขนาดโดนสั่งสอนยังไม่ฟังวิ่งแจ้นกลับบ้านซะละ"
"ก็แม่ของชมพูอยู่ที่ตลาดอีกอย่างก็ใกล้เวลาเลิกเรียนไปถึงก็พอเหมาะพอดี"
ฉันพูดหายใจเหนื่อยทางยกน้ำเย็นที่พี่ล่ำยังอุตส่าห์ใจดีนำมาให้ดื่ม
"ถามจริงนะ..ชีวิตเธอนี่บันเทิงตลอดเลยเหรอไม่มีจะหยุดพักหยุดเว้น เรียนหนังสือกลับบ้านดูหนังหรือเต้นโคฟเวอร์อะไรก็ได้ที่เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปทำ เคยไหม?"
"เด็กธรรมดาทั่วไปเป็นยังไงเหรอพี่ ตั้งแต่เล็กจนโตภาพที่จำได้ก็แค่กวาดบ้านถูบ้านล้างจานชามแล้วก็ทำกับข้าว"
"____"
"อยากรู้เหมือนกันว่าเด็กธรรมดาเขาใช้ชีวิตเหมือนกับหนูหรือเปล่า"
ก็จริงนี่นาไม่เคยได้เที่ยวเล่นหรือว่ามีความสุขเท่าไหร่นอกจากอยู่กับเพื่อนก็คงเป็นระยะเวลาสั้นๆ ที่ได้ยิ้มและหัวเราะเท่านั้นแหละ
"เอ้า! ดึงเข้าดราม่าซะงั้น" ผมขมวดคิ้วพร้อมเกาหัวจนหนังศีรษะจะหลุดติดมือก่อนจะเดินเข้าห้องครัวและหยิบมาม่าใส่น้ำมาวางตรงหน้า "แดกซะ!ได้ยินท้องร้องหิวสิท่า"
"ร้องว่าไงคะ ABCDEFG"
"ท้องอินเตอร์เนอะร้องภาษาภาษาอังกฤษ ถุ้ย! ไม่ต้องแดกแม่ง"
"หนูล้อเล่น ฮ่าๆ"
พี่ล่ำคว้ามาม่าคัพฉันจึงรีบจับแขนของเขาเอาไว้แล้วยกมาม่ามาตั้งตรงหน้ากินอย่างเอร็ดอร่อยเพราะเหนื่อยหอบที่วิ่งหนีสารวัตรนักเรียนและต้องยืนตากแดดเลยทำให้หิวจนหน้ามืดตาลาย
"กินยังไงเนี่ย" คงชอบวิ่งหนีทำให้ผมเผ้ายุ่งเหยิงกระเจิงจนปัดป่ายใบหน้า ผมจึงใช้มือช่วยเก็บเพื่อทัดหูให้ "อร่อยเชียวนะแดกของฟรี"
"พูดจาไม่น่ารักเลยนะคะพี่หนูแทบจะกลืนไม่ลงอยู่แล้วเนี่ย"
"ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะมันไม่ดี"
"แปลว่าสมัยเด็กพี่ไม่เคยโดดเรียนเลยว่างั้น"
"บ่อย"
"เอ้า!"
ฉันวางช้อนมาม่าลงพร้อมกับดื่มน้ำสงสัยจะกินรสต้มยำเลยเผ็ด
"ฉันถึงรู้ไงว่ามันไม่ดีเพราะจะทำให้เรียนแล้วโง่แถมยังไม่ทันเพื่อนฉันเกือบสอบตกเพราะโดดเรียนนี่แหละ"
"ไม่เห็นเหมือนหนูเลยขนาดโดดเรียนบ่อยยังได้เกรดสี่และไม่เคยต่ำกว่า 4.00 เลยนะคะ"
"เย้ยเหรอ!แดกมาม่าฟรียังจะข่ม"
"แฮ่ ขอโทษค่ะ"
เด็กหญิงส่งยิ้มแป้นแต่ชายหนุ่มกลับส่ายหน้า หลังจากนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นแทรกเขาจึงรีบลุกไปเพื่อคุยธุระอยู่นอกร้าน
หลายนาทีต่อมาก็คว้ากุญแจรถมอเตอร์ไซค์แล้วกดรีโมทเปิดด้านข้างร้านที่เป็นลานจอดประจำของตัวเอง
"ฉันจะรีบไปธุระด้วยจะแวะไปส่ง" ผมเป็นคนนิยมชมชอบความแรงจึงมีรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจเป็นรถรุ่นใหญ่คันโต
"หนูต้องนั่งตรงไหนคะยางมันเบ้อเร่อเลย"
"ขี่คอมั้งถามโง่ๆ ก็ซ้อนท้ายปกติ"
"พูดจาไม่เพราะเลยค่ะหนูยังเด็กอยู่นะ"
ฉันทำแก้มป่องแม้พี่ล่ำจะดูเป็นคนหัวร้อนง่ายแต่ที่จริงก็ใจดีมากมาย
"เพราะเธอยังเด็กไงฉันถึงไม่ต่อยปากแตก"
"โหพี่ ฮ่าๆ"
"จะกลับบ้านไหม ข้าวก็แดกฟรีกลับก็ไม่คิดค่าน้ำมัน"
"กลับค่ะกลับ"
ตัวเล็กแถมยังเตี้ยกว่าชาวบ้านเลยทำให้ขึ้นรถคันใหญ่อย่างทุลักทุเลก่อนจะถกกระโปรงแล้วขึ้นควบใช้มือกอดเอวพี่ล่ำกลัวร่วง
"ใส่หมวกกันน็อกด้วยเพื่อความปลอดภัยอย่างน้อยตอนตายคอจะได้ไม่หลุดออกจากบ่า"
"แค่เริ่มต้นก็ดูปลอดภัยแล้วค่ะ!"
"เออ อย่าบ่นเกาะแน่นๆ ฮ่าๆ"
"พี่คะช่วยขี่สักยี่สิบ..ได้ไหม"
"อะไรนะ?"
"เร่งแค่ยี่สิบค่อยๆ ไป"
"มอเตอร์ไซค์ยี่ห้อนอกขี่ยี่สิบ หมาวิ่งนำไปก่อนเลยนะเธอจะบ้าเหรอ!"
ผมหันหลังไปจ้องตาเด็กบ้าในชุดเนตรนารีที่ดูตื่นกลัวก็นะคงยังเด็กอยู่เลยไม่ประสีประสาอะไร
"ฉันจะขี่ให้ช้าที่สุดชนิดที่จักรยานแม่งแซงเลยตกลงไหม"
"ตกลงค่ะ"
"ไม่น่าอาสาไปส่งเลยจะถึงธุระไม่มืดค่ำเลยเหรอวะเนี่ยกู"
เสียงบ่นอุบอิบของชายตัวสูงก่อนจะสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์คันโตโดยที่มีเด็กหญิงในชุดเนตรนารีซ้อนท้ายเพื่อมาส่งถึงบ้านอย่างปลอดภัย
"ขอบคุณพี่ล่ำอีกครั้งนะคะ"
"ทานโทษนะพ่อแม่ฉันตั้งว่าหาญไม่ได้ชื่อล่ำเรียกฉันให้ถูกด้วยยัยเด็กเนตรนารี"
"อ๋อ..ขอบคุณค่ะพี่หาญและพ่อแม่ของหนูก็ตั้งชื่อว่าเนตรมิงค์หรือเรียกเนตรก็ได้ไม่ใช่เนตรนารี"
ฉันส่งยิ้มพร้อมกับยกมือไหว้แล้วคืนหมวกกันน็อกให้
"แต่เจอเธอทีไรก็ชุดเนตรนารีทุกทีแล้วอีกอย่างเลิกทำนิสัยเจ้าเล่ห์" ผมแขวนหมวกกันน็อกอีกอันไว้ที่ข้างพักเท้าก่อนจะสตาร์ทรถ
"อะไรคะ.."
"แผนแกล้งเป็นลมของเธอมันเชยสุด รู้หรือเปล่าหรือว่าร้านสักของฉันติดกล้องวงจรปิดเห็นเธอเปลี่ยนท่านอนตอนแกล้งสลบตลกชะมัด"
บรื้นนน
"!"