กอด
พิศวาสพ่อเลี้ยงสุดฮอต
ตอน กอด
จันทร์เจ้าเป็นสาวน้อยร่างบางวัย19ปี เธอหน้าสวยแบบธรรมชาติตาโตผิวขาวเนียน เธอสูญเสียแม่ไปตั้งแต่วัยประถมส่วนพ่อแท้ๆไม่เคยเห็นหน้า
ทุกวันนี้ยังมีเพียงตะวันพ่อเลี้ยงที่รับดูแลส่งเสียเธอต่อจากที่แม่เธอตายไปแล้ว ตะวันเป็นหนุ่มนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่รวยเอาเรื่อง
ตะวันทั้งหล่อทั้งรวยแถมยังเจ้าชู้เพราะว่าตั้งแต่เสียแม่ของจันทร์เจ้าไปเขาก็ไม่คบใครต่อเพราะหาคนรักดีๆไม่ได้ เขาได้แต่ควงสาวสวยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเพราะความเหงา
ตะวันอายุ35ปีหล่อเข้มหน้าคมผิวแทนตัวล่ำสูงเฟี้ยว ถึงเขาจะเจ้าชู้มากแค่ไหนแต่ก็รักลูกเลี้ยงอย่างจันทร์เจ้าเอามากๆ
ทั้งคู่ไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่เพราะจันทร์เจ้าต้องไปอยู่โรงเรียนประจำตั้งแต่จบประถมจนถึงมัธยม
ทั้งคู่จะเจอกันแค่ช่วงวันหยุดยาวหรือไม่ก็ตอนที่จันทร์เจ้าปิดเทอมแค่นั้น
และวันนี้ก็เป็นวันที่จันทร์เจ้าจบม6.แล้วและเธอต้องกลับเข้ามาในบ้านหลังใหญ่เพื่อรอสอบเข้ามหาลัยต่อ
จันทร์เจ้ายืนรอตะวันพ่อเลี้ยงของเธออยู่ที่สนามหญ้าหน้าโรงเรียน
สองมือของเธอถือกระเป๋าใบเดียวที่ใส่เพียงวุฒิการศึกษากับพวกใบประกาศนียบัตรไว้
ข้าวของส่วนตัวทั้งหมดตะวันจัดการจ้างรถมาขนเข้าบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้วตอนนี้เธอจึงยืนตัวปลิวรอคนสำคัญเพียงคนเดียวในชีวิตที่เหลืออยู่
"บ๊าย ๆ ๆ โชคดีนะจันทร์เจ้า" เพื่อนๆต่างก็ขึ้นรถกับครอบครัวแล้วลดกระจกโบกมือให้เธอ
น้ำใสๆไหลพรากออกมาจากตวงจากลมแป๋วย้อยพาดแก้มขาวๆเป็นทางลงมาที่ปลายคางเรียวสวย
ติ๋ง! ๆ ๆ ๆ หยดน้ำตาหล่นลงบนพื้นหญ้าเขียว
จันทร์เจ้ารู้สึกสับสนไปหมด เธอทั้งรู้สึกดีใจที่เรียนจบและรู้สึกเสียใจที่ต้องจากเพื่อนๆกับโรงเรียนที่อยู่มาสิบกว่าปีนี้ แถมเธอยังรู้สึกน้อยใจที่ไม่มีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตามารับเหมือนเพื่อนคนอื่นๆ
"โอเคอยู่นะ อย่าร้องเลย" จันทร์เจ้าพูดกับตัวเองแล้วเช็ดน้ำตา
"บ๊ายบาย! ๆ ๆ สอบให้ติดแล้วไปเจอกันที่มหาลัยนะ" เธอกระโดดโบกมือลาเพื่อนสาวๆหลายสิบคนที่ค่อยๆทยอยกลับไปบ้าน
ฟิ้ววว! ๆ ๆ ๆ สายลมยามเช้าพัดผ่านพื้นหญ้าขาวมาโดนสาวน้อยในชุดเดรสลายดอกสีขาว
ฟุ่บ! ๆ ๆ ๆ ผ้าบางที่ห่อเรือนร่างเพรียวสวยปลิวไหวๆ ผมยาวดำขลับของเธอโบกสะบัดปลิวสลวย ใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่พอมีรอยยิ้มขึ้นมาบ้างแล้ว
"เค้าจะเป็นยังไงบ้างนะ จำหน้าไม่ได้แล้วซิ" จันทร์เจ้ายืนมองออกไปหน้าประตูแล้วก็พึมพำ
ตะวันไม่ได้มาหาเธอหลายเดือนแล้ว แถมปีๆนึงก็ได้เจอกันเพียงไม่กี่ครั้ง
เค้าตัวสูงมากๆ หน้าดุๆ ตาคมคิ้วดกแถมยังเจ้าชู้ แต่เขาก็ใจดีมากๆเลยหละ! จันทร์เจ้าคิดในใจ
บรืนนนน! ๆ ๆ ๆ ฟ้าววววว! จู่ๆรถสปอร์ตสีแดงแบบสองประตูคันสวยก็แล่นเข้ามาจอดตรงหน้าจันทร์เจ้าอย่างรวดเร็ว
ฟุ่บบบ! ประตูเปิด รองเท้าสีดำมันวับก็ก้าวออกมา
อึ๊บบบ! ๆ ๆ ดอกกุหลาบช่อใหญ่ถูกดันออกมาจากประตูรถ
โหวววว! จันทร์เจ้าตาโตเมื่อเห็นช่อดอกไม้ใหญ่ที่เธอคิดว่าไม่น่าจะยัดเข้าไปในรถคันนั้นได้
แถมเธอยังไม่เคยเห็นรถคันนี้และไม่รู้เลยว่าใครกำลังจะลงมา
ฟุ่บบบบ! หนุ่มใหญ่ในชุดสูทสีเทาก้าวลงมายืนยิ้ม เขาใส่แว่นกันแดดสีดำใหญ่ดูเท่ห์ไม่เบา
"จันทร์เจ้า รอนานไหม พ่อขอโทษพอดีมัววิ่งหาร้านดอกไม้" ตะวันเดินดุ่มๆเข้ามา
"อ้าวพ่อเองหรือคะ" จันทร์เจ้าเงยหน้ามอง
ยิ่งเขาก้าวมาใกล้เท่าไหร่เธอก็ยิ่งต้องเงยหน้าสูงขึ้นเท่านั้นเพราะว่าตะวันสูงมาก แต่จันทร์เจ้าสูงเพียงร้อยหกสิบเท่านั้น
เขาหล่อจัง! เธอคิดในใจเมื่อตะวันถอดแว่นตาออก
ขวับบบ! ตะวันยื่นดอกกุหลาบขาวล้วนให้จันทร์เจ้าแล้วดึงกระเป๋าของเธอไปถือ
"ขอบคุณค่ะ" จันทร์เจ้ารับมากอดไว้ที่อกแล้วก้มหน้าสวยลงมาจะดม
หมับบบ! ตะวันยื่นมือมาจับคางจิ้มลิ้มจองจันทร์เจ้าไว้แล้วดึงหน้าเล็กสวยของเธอเชิ่ดขึ้น
"อย่าดม มันมีสารเคมี" เขาบอกและส่งสายตาห่วงใยอันอบอุ่นที่จันทร์เจ้ารับรู้ได้ทันที
"หิวไหม เราแวะไปหาอะไรกินก่อนเข้าบ้านดีไหม" ตะวันจูงมือเล็กๆของจันทร์เจ้าไว้
"ดีค่ะ ฮิ! ๆ ๆ " เธอเงยหน้าสบตาตอบแล้วก็ยิ้มหวาน
ตะวันจูงมือเธอไปข้างๆรถหรู เขาเปิดประตูให้เธอขึ้นแล้วก็ปิดให้ก่อนจะกลับขึ้นมานั่งขับ
บรืนนน! ๆ ๆ ๆ พอตะวันขับรถออกไป จันทร์เจ้าก็หันข้างมาแอบมองแอบสำรวจใบหน้าของตะวันที่เธอจำไม่ได้มานาน
ก่อนหน้านี้เธอเป็นเด็กแต่ทว่าตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ความเป็นสาวในตัวของเธอทำให้เธอตื่นเต้นไปกับใบหน้าอันหล่อเหลาของตะวันอย่างไม่รู้ตัว
ทั้งคู่นั่งทานข้าวด้วยกันและพูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบทั่วไปแล้วก็กลับมาที่บ้านหลังใหญ่
จันทร์เจ้าเข้าห้องนอนที่ทิ้งร้างมาหลายปี ส่วนตะวันก็เข้าไปนั่งทำงานในห้องชั้นล่างของบ้าน
เธอเก็บข้าวจัดของจนค่ำแล้วจึงออกมายืนรดน้ำดอกไม้ที่สวนหย่อมหน้าบ้าน
เมื่อกลับมาอยู่ในบ้านหลังเดิมจันทร์เจ้าก็คิดถึงแม่ของเธอ ภาพวัยเด็กยังมีหน้าแม่ของเธอลางๆอยู่ในหัว
ติ๋ง! ๆ ๆ ๆ สายน้ำหลากออกมาจากตาหล่นโปรยลงบนกลีบดอกไม้เบื้องหน้า
สวบบบ! ตะวันเดินเข้ามาสวมกอดจันทร์เจ้าจากด้านหลังอย่างนุ่มนวลจนเธอไม่รู้สึกตัวเลย
แปะ! ๆ ๆ ๆ เขายื่นมือที่หนาใหญ่มาแบรองหยดน้ำตาของเธอเอาไว้ อีกมือนึงก็โอบรัดตัวของเธอไว้จนหลังเธอแนบอกเขา
ฝ่ามือทาบที่หน้าท้องและรั้งตัวเธอทั้งหมดไว้ในอ้อมกอดได้ด้วยแขนเดียว
ฮือ! ๆ ๆ ๆ จันทร์เจ้ากลับร้องโฮเสียงดัง
หมับ! ๆ ๆ ยิ่งเธอร้องดังเท่าไรตะวันยิ่งกอดเธอแน่นขึ้นเท่านั้น
ตะวันรู้ดีว่าเวลานี้คำพูดคงจะช่วยอะไรไม่ได้เขาจึงใช้กอดปลอบเธอ
ฟุ่บบบ! เขาย่อตัวแล้วก้มหน้าอันคมเข้มหล่อเหลาลงมาวางไว้บนบ่าน้อยๆของเธอ
แก้มสองอันแนบสนิทชิดกันจนจันทร์เจ้าร้อนวูบวาบไปทั่วใบหน้า
เธอหยุดร้องและหายใจรวยรินเมื่อโดนลมหายใจอันร้อนผ่าวของตะวันแผดเผาใบหน้าเล็กขาว ยังมีเพียงหยดน้ำตาที่ไหลริน
เนื้อตัวของเธออ่อนลงทุกวินาทีที่โดนกอด หัวใจเต้นระรัวใจสั่นหวิวๆราวกับจะเป็นลม
อ้อมกอดของเขาอบอุ่นใจ! จันทร์เจ้าคิดในใจขณะที่ก้มหน้ามองที่ฝ่ามือใหญ่ๆ
ติ๋ง! ๆ ๆ ๆ น้ำตาของเธอหยาดย้อยลงบนฝ่ามือของตะวันจนกลายเป็นแอ่งน้ำใส
ทำไมนะ ทำไมเขาไม่ปล่อยมัน น้ำตาของเรามีค่านักหรือ! เธอคิดพร้อมกับหัวใจที่สั่นระรัว
ฟุ่บบบบ! ตะวันสอดมือเข้ามายกขาและหลังของจันทร์เจ้า
เขาอุ้มเธอขึ้นมานอนบนสองแขนแล้วหอบเธอเข้าบ้านโดยไม่พูดไม่จา
เขาดูเข้มขรึม น่ากลัวนิดๆ แต่กลับอบอุ่นเหลือเกิน สองแขนของเขาทรงพลังและน่าเกรงขาม จันทร์เจ้ารู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บนแขนใหญ่ๆของเขาแบบนี้
"ไปกินข้าวกันนะ แล้วก็พักผ่อนพรุ่งนี้เราค่อยคุยกันใหม่" ตะวันบอกแล้วก็อุ้มจันทร์เจ้าเข้าบ้าน
เขาวางเธอลงบนเก้าอี้ไม้หน้าโต๊ะอาหารที่มีคนรับใช้รอเสิร์ฟแล้วก็เดินหนีไป
ตะวันเข้ามาในห้องทำงานแล้วยืนปาดน้ำตาที่เล็ดลอดออกมาจากหางตาของเขา
"ผมไม่รู้ว่าจะเป็นพ่อที่ดีไหม แต่ผมก็รักจันทร์เจ้าเหมือนคุณ" เขาพูดกับรูปแม่ของเธออยู่คนเดียว
จันทร์เจ้ากินอาหารเสร็จก็เข้าไปนอนกอดหมอนข้าง หัวใจดวงน้อยของเธอยังสั่นระรัวไม่หาย
ภาพใบหน้าของตะวันตอนที่เธอนอนบนแขนเงยหน้ามองยังตราตรึงอยู่ในใจสลัดไม่ออก
นี่มันอะไรกันนะ เขาอยู่ใกล้ๆนี่เองทำไมเราคิดถึงเหลือเกิน! เธอคิดในใจ