ลุงกู้อุ้มยู่ถิงน้อยขึ้นบนเกวียนวัว ส่วนมี่เฟิ่งก้าวขึ้นเองได้โดยไม่ต้องให้ผู้ใดช่วย ความทรงจำในร่างนี้ของนางบอกว่า ท่านลุงกู้รับจ้างพาชาวบ้านมาในเมืองเขื่อชินเพื่อขายของป่าบ้าง ไม่ก็มาติดต่อที่ว่าการเรื่องต่าง ๆ ฉะนั้นหากนางให้ท่านลุงกู้ไปส่งนางที่หมู่บ้านธารน้ำใสตั้งแต่เช้าเช่นนี้ ท่านลุงกู้จะขาดรายได้
“ท่านลุงกู้เจ้าคะ ข้าขอเหมาท่านวันนี้ 1 ตำลึงเงินนะเจ้าค่ะ เพราะท่านลุงกู้ต้องพาข้ากลับไปหมู่บ้านเร็วกว่ากำหนด”
“โอ๊ย...อาเฟิ่งอย่าให้ลุงเยอะเพียงนั้นเลย เจ้าเก็บไว้เถิดลุงไม่ได้ลำบากอะไร เพียงแค่วันนี้กลับเร็วหน่อยก็ดี ยายเฒ่าจะได้เลิกบ่นที่กลับช้า” ลุงกู้ใจดีกับพวกนางเสมอ เพราะเวลาที่ไปส่งของที่ตระกูลเฉินล้วนไม่เคยให้รางวัลเพิ่ม ทั้งขอลดเป็นประจำ มีเพียงสะใภ้เฉินผู้นี้ที่มีน้ำใจเอาน้ำมาให้ดื่ม เอาของกินแอบมาให้บ้าง ทั้งที่เขาก็รู้ว่าพวกนางก็ลำบากเช่นเดียวกัน แต่พวกนางก็ยังมีน้ำใจ
“รับไว้เถิดเจ้าค่ะ ข้าไม่สบายใจ อีกอย่างข้าคงรบกวนท่านลุงกู้อีกหลายอย่าง” การอยู่ในโลกอดีตที่ไม่มีที่พึ่งพิง สามีไม่อยู่ไปออกรบ หากอยู่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะรักใคร่นางหรือไม่ ท่าทีเย็นชาตามที่นางอ่านส่วนของคำโปรยในนิยาย ทำให้นางตั้งแง่ลบให้กับพระเอกเรื่องนี้ไปแล้ว
แต่นางเป็นนางร้ายนี่นา จะได้สมหวังกับพระเอกได้อย่างไรกัน แต่ช่างเถอะใครอยากได้กันแม่ผัวชั่วแบบนั้น ให้ฟรีแถมข้าวสารอีก 100 กระสอบนางก็ไม่เอา แต่งงานไม่ต่างจากตกนรก!
“เช่นนั้นลุงจะรับไว้ หากเจ้าอยากเข้ามาในเมืองเขื่อชินห้ามเจ้าจ่ายให้ลุงอีก เพราะลุงคิดแค่ 3 อีแปะเท่านั้น เจ้าให้ตั้ง 1 ตำลึงเงินนับว่าไปกลับได้หลายเที่ยวนัก” ลุงกู้จำต้องรับเพราะหากไม่รับนางก็จะไม่ยอมอีก ทั้งที่อยากช่วยเหลือนางจริง ๆ
ขณะที่เกวียนวัวของลุงกู้ผ่านตลาด ก็มีเสียงเอะอะโวยวายดังลั่น ทั้งผู้คนมุงดูจนเกวียนวัวของท่านลุงกู้ผ่านไม่ได้ จึงต้องหยุดเกวียนลงไปดูว่าเกิดอะไรกันขึ้น
“ปล่อย...ปล่อยข้า...ปล่อย” สตรีนางหนึ่งกำลังร่ำไห้โดยมีชายแก่คราวพ่อกำลังฉุดกระชากลากไปตามทาง ชาวบ้านในตลาดต่างมามุงต่อว่าต่อขานชายผู้นั้น
“เจ้าฉุดกระชากลากนางไปทำปู้ยี้ปู้ยำเช่นนี้ ไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมืองเลยงั้นหรือ” ชายผู้หนึ่งเอ่ยขึ้น
“เกรงกลัวทำไม ในเมื่อแม่ของนางขายให้ข้าแล้ว ข้าจะเอานางไปทำเมียแล้วก็ขายให้บุรุษชำเราต่อ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เสียงชายกักขฬะเอ่ยขึ้น ทำให้สตรีผู้นั้นร่ำร้องหนักกว่าเดิม นางสอดส่ายสายตาไปมามองหาผู้คนที่จะช่วยเหลือนางได้
“ท่านลุง...ท่านป้า...ข้ากราบท่านล่ะ ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากเป็นเมียชายชั่วผู้นี้”
ฮ่า ฮ่า ฮ่า...!
“เหม่ยเหริน เจ้าควรจะดีใจที่เจ้าจะได้ผัวหลายคนนะ นอกจากข้าแล้วยังมีบุรุษมากมายที่ไปหอนางโลมอีก ฮ่า ฮ่า ฮ่า สวรรค์อยู่ตรงหน้าเหตุใดเจ้าถึงร่ำร้องให้คนช่วย”
ชายผู้นั้นกล่าวด้วยวาจาสกปรกสิ้นดี ชาวบ้านที่เห็นอยากช่วยก็ช่วยไม่ได้ เพราะไม่มีเงินเพียงพอจะซื้อนางต่อ และคิดว่าชายกักขฬะผู้นี้คงเรียกค่าตัวแพงหูฉี่จนไม่อาจจะช่วยเหลือได้
ท่านลุงกู้เห็นแล้วก็อนาถใจ แต่เขาก็ไม่มีกำลังเช่นกัน จึงเดินมาบอกกับมี่เฟิ่งให้รอสักครู่ ประเดี๋ยวคนซาคงจะเดินทางต่อได้
“มีอะไรหรือเจ้าคะท่านลุง” มี่เฟิ่งอยากรู้ว่าชาวบ้านมุงเรื่องอันใดกัน
“หญิงสาวโดนแม่ขายใช้หนี้ เจ้าหนี้จะเอาไปทำเมีย แต่ว่าเด็กสาวผู้นั้นไม่ยินยอมเลยฉุดกระชากลากกันอยู่กลางตลาด เฮ้อ...น่าสงสารนัก” ลุงกู้พูดออกมาทั้งส่ายหน้าให้กับชะตาของสตรีใบหน้าหมดจดผู้นั้น
“เหตุใดรุนแรงเยี่ยงนั้นเจ้าคะ” มี่เฟิ่งได้ฟังก็เอามือทาบอก นางจากมาอีกโลก การค้ามนุษย์เช่นนี้ผิดกฎหมาย แต่ในโลกอดีตเช่นนี้ไม่เหมือนกัน แค่คิดก็สงสารผู้หญิงในยุคอดีตแล้ว นางจึงลงเกวียนวัวไปดูที่ชาวบ้านมุง
“ต้านแม่...ต้านจะไปไหนข้าไปด้วย” ยู่ถิงที่นั่งอยู่ในเกวียนวัวเห็นแม่ตัวเองลงจากเกวียนก็ร้องตามทันที
“ยู่ถิงเด็กดีของแม่ อยู่กับท่านลุงกู้สักครู่นะ เดี๋ยวแม่มา” นางไม่อยากเอาลูกสาวไปอยู่ในสังคมที่มีคนความคิด ชั่ว ๆ แบบนี้ และการที่ได้เห็นความรุนแรงตั้งแต่เด็กเช่นนั้น มันไม่เริงรมย์นัก เห็นจากที่เด็กน้อยเคยโดนกระทำมาตลอดสองหนาวที่ผ่านมา นางคิดว่ามันมากเกินพอแล้ว
“เจ้าค่ะ ต้านแม่ ยู่ถิงจะเป็นเด็กดี” ยู่ถิงน้อยนั่งกินขนมน้ำตาลปั้นกับต้านลุงกู้ในเกวียนรอต้านแม่กลับมาอย่างว่าง่าย
ไห่มี่เฟิ่งแหวกฝูงชนเข้าไปยังที่ชายกักขฬะนั้นฉุดกระชากลากสตรีแน่งน้อยนางหนึ่งอยู่ ท่าทางหื่นกามทำให้นางอยากหาไม้ฟาดหัวสักทีสองที หากเป็นยุคของนางละก็เจอดีแน่
“นี่ปล่อยนางได้แล้ว” ท่าทางเอาเรื่องของมี่เฟิ่งทำให้ชายคราวพ่อหันมาสนใจนาง มือหยาบกระด้างลูบหนวดเคราอย่างพินิจพิจารณาในเรือนร่างอันเย้ายวนของนาง เห็นแล้วพาลให้เกิดความกำหนัดยิ่ง
“ว่าอย่างไรโฉมสะคราญ เจ้าจะมาขายตัวให้ข้าเหมือนกันงั้นหรือ” ชายผู้มีเงินและหลงตัวเองคิดว่ารูปงามจนสตรีหลงชอบนั้นกล่าวออกมาไม่ดูสารรูปจนไห่มี่เฟิ่งกลอกตาเป็นเลขแปดสามรอบ ให้กับความมั่นหน้ามั่นโหนกของไอ้แก่นี่จริง ๆ
‘เดี๋ยวปั๊ดจัดจระเข้ฟาดหางเสียนี่ คิดว่าเป็นชาอึนอูหรือไง’
“เหอะ...! ท่านกล่าวหนักไปแล้ว ข้าเพียงผ่านทางมาเห็นเสียงเอะอะ คิดว่าสุนัขเรื้อนจับที่ไหนติดสัดเลยลงมาดูเสียหน่อย” นางจีบปากจีบคอฉอดใส่ไม่เกรงกลัวราวกับตัวเองเป็นลูกเจ้าเมืองก็ไม่ปาน ทั้งที่เป็นแค่สะใภ้โดนแม่สามีไล่ออกจากบ้าน
แล้วไงใครแคร์!
รู้จักหว่านไฉ่หนิงน้อยไป นางมันแฟนคลับพี่บัวขาวพร้อมแลกหมัดเลยนะบอกไว้ก่อน
แน่นอนว่าในนิยายนางเป็นนางร้าย สกิลปากอย่าได้แพ้นางร้ายที่เคยดูมาในละคร... ‘สู้เขาสิหญิง!’
“นี่เจ้า...ปากหาเรื่อง...อยากโดนตบหรือไง” ชายผู้นั้นเมื่อถูกเปรียบเทียบดังสุนัขเรื้อนจับ จึงปล่อยเหม่ยเหรินแล้วยกมือหมายจะตบหน้าไห่มี่เฟิ่ง ซึ่งนางก็กำหมัดรออยู่แล้ว
แต่กลับมีมือหนึ่งมาจับไว้
“รังแกสตรีไม่ใช่บุรุษที่ดีกระทำกัน” เสียงเข้มน่ากลัวแฝงด้วยไอสังหารของบุรุษมาใหม่ทำให้เหล่าคนที่มุงดูเกรงกลัวไปตาม ๆ กัน เหม่ยเหรินเองเมื่อมีคนสอดมือมาช่วย นางมองซ้ายก็สตรีใจกล้า มองขวาก็บุรุษน่าเกรงขาม ไม่รู้ว่าชะตากรรมจะเป็นเช่นไร นางจึงเลือกคลานเข้ามากอดสตรีใจกล้าไว้ก่อน อย่างน้อยคงไม่พบเจอกับบุรุษใจทรามอย่างไอ้ชาติชั่วนั่น