บทที่ 3 ช่วยคนก่อนค่อยหาบ้าน 2/2

1386 คำ
ไห่มี่เฟิ่งมองคนที่มาใหม่เป็นบุรุษองอาจร่างสูงราวเกือบเจ็ดฉื่อ (ราว190 cm) ดูสมส่วนเพราะร่างกายที่บึกบึนราวกับชาตินี้ขี่ม้ายิงธนูจับกระบี่วาดฟันศัตรูมาทั้งชาติ ไม่อยากจะคิดว่าภายในกล้ามเนื้อจะเรียงมัดสวยเพียงใด ใบหน้าหล่อเหลาสวมชุดสีดำสนิท สีหน้าเยือกเย็นไร้ความรู้สึกไม่รู้ว่าอยู่ในอารมณ์ใด แต่แววตาของเขาดูลึกลับน่าค้นหายิ่งนัก แต่ผิวพรรณนี่สิขาวราวหิมะ ท่าทางน่าจะเป็นคุณชายหรือไม่ก็ผู้สูงศักดิ์คนใดสักคนในแคว้นนี้เป็นแน่ ไห่มี่เฟิ่งมองบุรุษผู้นั้นอย่างตกตะลึง จนลืมไปแล้วว่าจะมาช่วยคน หากสตรีแน่งน้อยผู้นี้ไม่คลานมากอดขานางไว้ “เจ้า...เจ้าเป็นใคร” รอยยิ้มเย็นผุดออกจากใบหน้าโยวหวังเหล่ยซื่อจื่อ วันนี้ที่จริงเขาตั้งใจจะกลับไปที่ตำหนักเสด็จพ่อ แต่แวะชมเมืองที่ตลาดเสียก่อน ไม่คิดว่าจะมีเรื่องสนุกให้ลงไปยืดเส้นยืดสาย เขาดูอยู่ครู่หนึ่งแล้ว เพียงแต่รอจังหวะเท่านั้น ไม่คิดว่าจะมีสตรีใจกล้าไม่เกรงกลัวต่อบุรุษบ้ากามตรงหน้า ทั้งยังด่าได้สะใจเขายิ่งนัก จึงยื่นมือเข้าไปช่วย แต่เมื่อเห็นดวงตาวาววับของนางมองมา เขากลับลมหายใจสะดุด สตรีผู้นี้ใบหน้าพริ้มเพราละมุนละไม เรือนผมดูนุ่มสลวยถูกรวบยกขึ้นแล้วปักปิ่นง่าย ๆ กับชุดที่ไม่งดงามเท่าใดนัก แต่กลับทำให้ตรึงตาตรึงใจกับความงดงามของนางนัก นั่นส่งให้แรงบีบที่มือของเขาหนักขึ้น จนชายผู้นั้นร้องโอดโอย “คุณชาย...ได้โปรดปล่อยข้าเถิด...ข้ายอมแล้ว” ชายกักขฬะร้องเสียงหลงทำเอาชาวบ้านหัวเราะเยาะ เมื่อกี้ยังตีฝีปากกล้าอยู่เลย เหตุใดตาขาวเสียแล้ว “ไม่อยากรู้แล้วหรือว่าข้าเป็นใคร?” “มะ...ไม่...ไม่อยากแล้ว...ปะ...ปล่อยข้าเถิดขอรับคุณชาย” บุรุษเลวทรามพลิกลิ้นเป็นอ่อนหวานราวกับถูกดัดเสียอย่างนั้น ทำให้ไห่มี่เฟิ่งรู้สึกชื่นชมชายหนุ่มตรงหน้ายิ่งนัก ‘เฮ้อ...เหตุใดนางร้ายอย่างข้าไม่เจอสามีดี ๆ แบบนี้บ้างนะ!’ ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย แต่นางเปลี่ยนแปลงอันใดได้เล่า ในเมื่อทะลุมิติมาก็แต่งกับพระเอก อุ่นเตียงก็ยังไม่เคย เรียกได้ว่า นกตั้งแต่อดีตยันปัจจุบันไม่ผิดนัก โลกที่นางจากมา นางอายุ 29 ปีแล้วแต่ยังไม่เคยสัมผัสคำว่าแฟนเลยสักครั้ง อย่าคิดถึงขั้นแต่งงานเลย “สตรีผู้นี้เจ้าซื้อมาเท่าไหร่” ชายผู้นั้นถามต่อ “สะ...สะ...สอง ตำลึงเงินขอรับ” หวังเหล่ยซื่อจื่อล้วงเงินในอกให้ไปสองตำลึงเงิน ชายผู้นั้นรีบรับเอามา “หนังสือไถ่ถอนเล่า” เขาย่อมทำอะไรให้รอบคอบป้องกันชายผู้นี้ไประรานนางอีก “นะ นะ นี่ขอรับ” ชายผู้นั้นรีบส่งหนังสือไถ่ถอนทาสให้ทันที แล้ววิ่งหนีไปไม่กล้าอยู่ตรงนี้ต่อ เขาเห็นกระบี่ในมือของชายผู้นั้นแล้ว หากมันออกจากฝักเขากลัวว่าตัวเองจะไม่มีโอกาสได้หายใจอีก ดังนั้นจึงเอาเงินและหนีเอาตัวรอดก่อนดีกว่า “ขอบพระคุณเจ้าค่ะ คุณชาย” เหม่ยเหรินที่ยังอกสั่นขวัญหายกล่าวเสียงเครือ นั่นทำให้ไห่มี่เฟิ่งนึกบางอย่างออก หากปล่อยสตรีแน่งน้อยผู้นี้ไปกับบุรุษอีก นางกลัวจะซ้ำรอยเดิม “สองตำลึงเงินเจ้าค่ะ ข้าไถ่สตรีคนนี้จากท่าน” ไห่มี่เฟิ่งยื่นเงินตำลึงให้เขา แต่บุรุษผู้นั้นกลับไม่ยอมรับ “เจ้าไม่ต้องให้ข้าหรอก เรื่องเล็กน้อย ขอเป็นข้าวที่บ้านเจ้าสักมื้อได้หรือไม่” ไห่มี่เฟิ่งมองหน้าบุรุษผู้นี้ก็เห็นยันสะดือแล้ว จะบอกว่าต่ำกว่าสะดือไม่ได้ มัน 18 + เขาต้องการจะสานสัมพันธ์กับนางต่อสินะ...แต่แค่ข้าวมื้อเดียวไม่เป็นไรหรอก นางเลี้ยงได้ “ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณชาย ข้ากำลังจะไปซื้อบ้านใหม่ ย้ายไปอยู่หมู่บ้านธารน้ำใส...เอ่อ...อยู่ทิศไหนก็ไม่แน่ใจ เอาเป็นว่าข้ายังหาที่อยู่ใหม่ ท่านนามว่าอันใดแล้วจะติดต่อท่านได้ที่ใด ข้าจะได้ส่งจดหมายไปบอกท่านได้ถูก” ที่นี่ไม่มีจีพีเอส ไม่มีมือถือการติดต่อคงเป็นส่งจดหมาย หรือไม่ก็พิราบสื่อสารกระมัง แต่ว่านางต้องรู้ชื่อเขาก่อน “เพียงแต่บอกชื่อแซ่ของเจ้าก็พอ หมู่บ้านธารน้ำใสข้าหาไม่ยากนักหรอก” หวังเหล่ยคิดว่า การที่เขาไปหานางย่อมง่ายกว่านางไปหาเขา ดังนั้นการรู้จักชื่อนางย่อมดีกว่า “ข้าไห่มี่เฟิ่ง อยู่กับบุตรสาวบุญธรรมหว่านยู่ถิง หากท่านไปหาพวกเรา บอกเท่านี้ชาวบ้านน่าจะพอบอกทางท่านได้” ไห่มี่เฟิ่งบอกอย่างมีไมตรีจิต ในเมื่อเขาช่วยเหลือไม่ให้นางต้องออกแรงเอง เช่นนั้นก็เลี้ยงข้าวเขาสักมื้อก็แล้วกัน “เช่นนั้นก็ลากันตรงนี้ ไว้ข้าจะไปพบเจ้า” รอยยิ้มสื่อความหมายผุดจากใบหน้าของซื่อจื่อจน องครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านบนมองลงมายังลอบยิ้ม ไม่เคยมีสักครั้งที่ซื่อจื่อจะสนใจสตรี ตอนแรกจะลงไปช่วย เมื่อสตรีงดงามอยู่ด้วยก็ให้เป็นพระเอกไปคนเดียวก็แล้วกัน เขาจะไม่ยุ่ง “ขอบคุณเจ้าค่ะ คุณชาย ขอบคุณเจ้าค่ะนายหญิง” เหม่ยเหรินคิดว่าตัวเองต้องตกเป็นของชายบ้ากามผู้นี้เสียแล้ว นับว่าสวรรค์ยังเมตตา ส่งคนดีมาช่วยเหลือนางไว้ นางต้องตอบแทนทั้งคู่ให้ดียิ่ง “ไปเถอะเหม่ยเหริน ไปกัน” ไห่มี่เฟิ่งจูงมือเด็กสาวมาที่เกวียนวัวของท่านลุงกู้ เมื่อชาวบ้านสลายตัว เส้นทางก็สัญจรได้สะดวกดังเดิม “อาเฟิ่ง เจ้าช่วยนางมางั้นรึ” ลุงกู้ที่อยู่ดูแลยู่ถิงเห็นนางจูงสตรีนางนั้นมาด้วยก็ตกใจ “เจ้าค่ะท่านลุงกู้ ข้าเข้าใจความลำบากดี มิสู้ให้นางไปอยู่กับข้าดีกว่าให้อยู่กับบุรุษบ้ากาม ไปเถอะเจ้าฟาดเคราะห์แล้ว ไว้ข้าจะพาไปทำบุญที่อาราม” ไห่มี่เฟิ่งพูดอย่างใจดี “พี่สาว...พี่สาวชื่ออันใด” ยู่ถิงตื่นเต้นที่บ้านใหม่ของยู่ถิงจะมีพี่สาวด้วย ยู่ถิงจะได้ไม่เหงา “พี่ชื่อเหม่ยเหริน” นางบอกด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นทุกคนดีต่อนางความปลื้มปีติก็ทำให้ตัวเองหลั่งน้ำตาออกมา ชีวิตนางเจอแต่เรื่องเลวร้าย พ่อแม่เห็นว่านางเป็นหญิง นอกจากจะใช้ให้ทำงานทุกอย่าง ยังเห็นว่านางเป็นสิ่งของ ขายใช้หนี้อีกด้วย นางชอกช้ำใจนัก แต่คนอื่นกลับยื่นน้ำใจให้นางอย่างยินดี ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อน “ข้าชื่อ มี่เฟิง เรียกข้าอาเฟิ่งเหมือนท่านลุงกู้ก็ได้” มี่เฟิ่งไม่เคยถือตัว นางไม่อยากให้เหม่ยเหรินเรียกนายหญิง มันดูขัดหูชอบกล “ข้าตั้งใจรับใช้นายหญิงจนตาย ข้าเรียกนายหญิงเหมาะกว่า” เหม่ยเหรินดื้อดึง อย่างไรบุญคุณนี้นางต้องตอบแทนนายหญิงให้ดี “เอาเถอะ เอาเถอะตามใจเจ้า รีบกลับกันเถิด ข้าอยากเห็นบ้านใหม่ใจจะขาดรอน ๆ ” ติ๊ด...ติ๊ด...ติ๊ด...! นี่คือเสียงของระบบแมวผู้ช่วย [ทำความดี ทำความดี ช่วยเหลือคน ได้รับเหรียญทองเพิ่ม 100 เหรียญสามารถปลดล็อกฟังก์ชันถัดไปได้] เมี้ยว! เสียงระบบแมวผู้ช่วยแจ้งเตือน ทำให้มี่เฟิ่งเข้าไปในระบบแมวผู้ช่วย แล้วก็โชว์ฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งมีของให้เลือกซื้อเพิ่มขึ้น นางเลื่อนไปมา แต่ก็ต้องระวังเพราะพวกเขาไม่เห็นหน้าจอโฮโลแกรมของนาง จึงเลื่อนดูผ่าน ๆ ไว้ซื้อบ้านเสร็จแล้วจะมาดูเลือกของชอปปิงอีกที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม