บทที่ 4 บ้านใหม่ของยู่ถิง 1/2

1051 คำ
ผ่านเรื่องราววุ่นวายมาค่อนวันในที่สุด ทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านธารน้ำใส ตลอดสองข้างทางเต็มไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ แต่มีทางเกวียนที่สัญจรได้สะดวกนัก เสียงน้ำในลำธารไหลเอื่อย ๆ ตลอดทางทำให้ไห่มี่เฟิ่งรับรู้ว่าที่หมู่บ้านของท่านลุงกู้นั้นน่าอยู่เพียงใด นางหันหน้าไปอีกฟากเห็นดอกท้อสีชมพูเรียงรายปกคลุมทั่วทั้งภูเขา นับว่าเป็นทัศนีย์ภาพที่งดงามยิ่งนัก นางไม่เคยเห็นจึงรู้สึกได้ว่าราวกับที่นั่นคือสรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน จนอดที่อยากไปที่นั่นไม่ได้ “ท่านลุงกู้เจ้าคะ ที่ตรงนั้นคือที่ใดกันหรือเจ้าค่ะ” ลุงกู้มองตามนิ้วที่ชี้ไปอีกฟากของทางเกวียนวัวมองไปไกลลิบ ๆ นั่น ก็รู้ได้ทันทีว่าคือที่ใด “ตรงนั้นคือเขาหมื่นท้อ มีหมู่บ้านกลางหุบเขา มีร้านเหล้าที่หมักจากท้อชั้นเลิศที่จะเปิดปีละครั้ง ตอนนี้น่าจะยังไม่เปิดกระมังยังหมักเหล้าไม่ได้ที่” ท่านลุงกู้กล่าวออกมา หมู่บ้านนั้นจะว่าลึกลับก็ไม่ใช่ จะว่าหายากก็ไม่เชิง เหล่าผู้ท่องเที่ยว และจอมยุทธต่าง ๆ ก็แวะเวียนไปดื่มเหล้าแล้วเคล้านารีกันก็บ่อยครั้ง “น่าสนใจยิ่งนัก ทิวทัศน์งดงาม ไว้ท่านว่าง ๆ พาพวกเราไปได้หรือไม่เจ้าค่ะ” ไห่มี่เฟิ่งอยากเที่ยวไปทั่ว และดูรอบ ๆ ว่ามีที่ใดที่สามารถทำรายได้ให้กับนางบ้าง หมู่บ้านนี้ต้องเป็นหนึ่งในแผนโรดแมปของนางในการสร้างตัว สมองก็ประมวลผลสั่งการทันทีเมื่อคิดถึงเหล้า เมื่อถึงทางเข้าหมู่บ้านธารน้ำใส มีชื่อตัวโต ๆ ติดอยู่ที่ซุ้มทางเข้าบอกให้รู้ว่านี่คือหมู่บ้าน และมองไปสุดลูกหูลูกตาก็พบว่าหมูบ้านแห่งนี้นั้นติดกับชายป่า มีภูเขาสลับซับซ้อน แต่ทว่ากลับไม่ได้ดูน่ากลัวนัก น้ำที่ไหลเอื่อยตลอดเวลาทำให้บรรยากาศสดชื่น แม้ว่าในยามฤดูหนาวเช่นนี้ “ถึงหมู่บ้านแล้ว โน่นบ้านหลังนั้นของลุง เดี๋ยวลุงจะพาไปคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านจางหย่งเรื่องพาไปดูบ้านหลังที่เศรษฐีผู้นั้นขาย” ลุงกู้ขับเกวียนเลยบ้านตัวเองไปห้าหลัง ก็ถึงบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านจางหย่ง และโชคดียิ่งที่ท่านหัวหน้าหมู่บ้านนั้นอยู่พอดียังไม่ได้เข้าป่าไปล่าสัตว์หรือตัดฟืน “อ่าวอากู้...นั่นเจ้าพาใครมาเยอะแยะ” จางหย่งหัวหน้าหมู่บ้านอายุราวห้าสิบปีถามคนขับเกวียน ทั้งเพิ่งมองสตรีทั้งสองคน กับเด็กน้อยอีกหนึ่งคน “คารวะท่านหัวหน้าจางหย่ง นี่เป็นคนในเมืองเขื่อ ชิน นามว่าแม่นางไห่มี่เฟิ่ง กับแม่นางเหม่ยเหริน สองนายบ่าวกับบุตรสาวสนใจมาอยู่หมู่บ้านของเรา แล้วก็ชอบบ้านที่เศรษฐีประกาศขายนั่นด้วย รบกวนท่านหัวหน้าหมู่บ้านช่วยพานางไปดูบ้านได้หรือไม่” ท่านลุงกู้อธิบายด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม และท่านทางเป็นมิตรของสตรีทั้งสองทำให้หัวหน้าจางหย่งไม่รีรอที่จะต้อนรับแล้วพาไปดูบ้านหลังนั้นอย่างยินดี “แม่นาง...เชิญเข้าจะพาไปดูด้านในเถิด” เนื่องจากบ้านที่ประกาศขายนั้นอยู่ห่างจากบ้านหัวหน้าหมู่บ้านลึกไปด้านหลัง แต่ไม่ได้ไกลกันนักจึงนั่งเกวียนวัวมาเสียเลย จะได้ไม่เสียเวลา เมื่อถึงหน้าบ้านหลังนั้น มี่เฟิ่งพบว่ามันหลังใหญ่พอสมควร ยิ่งเมื่อก้าวเข้ามาในบ้านความร่มเย็นจากต้นไม้ใหญ่กับพื้นที่ด้านหลังที่กว้างขวาง ติดลำธารไม่ต้องหิ้วน้ำกินน้ำใช้ไกล นั่นยิ่งทำให้นางชื่นชอบ ตัวบ้านเป็นขนาด สามห้องนอน มีส่วนเก็บของและมีเรือนพักบ่าวด้วย คิดว่าเศรษฐีคนนั้นคงสร้างไว้พักผ่อนมากกว่า ถึงได้ทำไว้ครบครันเช่นนี้ นางเดินดูรอบ ๆ บ้านบางอย่างก็เป็นข้าวของเครื่องใช้ของผู้อยู่เก่า โดยเฉพาะเครื่องครัวนั้น ดียิ่งนัก นางแทบไม่ต้องซื้อใหม่ด้วยซ้ำ ทั้งยังมีถ่านและฟืนบางส่วน “ท่านหัวหน้าเจ้าคะ...หากข้าพร้อมทำสัญญาซื้อขายเลย บ้านหลังนี้ขายเท่าไหร่เจ้าคะ” ไห่มี่เฟิ่งไม่ลังเลเลยสักนิด บ้านหลังนี้แหละจะทำให้นางและลูกสาวสุขสบายและมั่งคั่ง “หลังนี้ค่อนข้างแพงเล็กน้อย 3 ตำลึงทอง หากแม่นางสนใจให้ข้าต่อรองดีหรือไม่” แม้ว่าจะมีทุกอย่างพร้อม แต่หมู่บ้านที่ห่างออกมาเช่นนี้นับว่ายังแพงไปสำหรับคนทั่วไปที่ไม่ได้ร่ำรวย “ไม่ต้องต่อเจ้าค่ะ ข้าตกลงซื้อบ้านหลังนี้ แล้วจะอยู่บ้านนี้เลย หากเจ้าของบ้านยินดีขายข้าก็ยินดีซื้อ” นางสังเกตบ้านอื่นไม่ได้ติดลำธารเหมือนนาง บ้านนางติดลำธารตลอดพื้นที่ การเพาะปลูกทำได้ง่าย และมีบริเวณให้ลูกสาวของนางวิ่งเล่นอีกด้วย “อ่อ...ดียิ่ง...เช่นนั้นก็ไปทำสัญญาที่บ้านข้าเถิด อากู้เจ้าก็มาเป็นพยานด้วยก็แล้วกัน” จางหย่งยินดียิ่งที่มีคนซื้อบ้าน เพราะเขาจะได้ส่วนแบ่งค่าจัดการขายบ้านอีกถึง 5 ตำลึงเงิน เพราะเศรษฐีคิดว่าขายยากจึงตั้งส่วนแบ่งให้สูงไว้ก่อนเพื่อผลักดันให้เขาขายให้เร็วขึ้น “เหม่ยเหริน เจ้าก็อยู่ที่นี่ทำความสะอาดไปก่อนเดี๋ยวข้าจะกลับมาช่วย อยู่กับยู่ถิงก็แล้วกัน” นางให้ยู่ถิงอยู่ที่บ้านใหม่กับสาวใช้ของนาง เพื่อจะได้คุ้นเคย ส่วนนางหลังจากทำสัญญาเสร็จคิดว่าจะเดินรอบหมู่บ้านสักรอบแล้วค่อยกลับมาบ้าน สัญญาเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จางหย่งที่พอเขียนหนังสือเป็นจึงทำสัญญาตามแบบที่ทางการให้เขียน มีตราประทับ แล้วก็ปั๊มลายนิ้วมือของผู้ซื้อและพยานไว้กำกับ ทั้งนางยังแจ้งชื่อให้กับท่านหัวหน้าหมู่บ้านไปแจ้งทางการว่านางสามคนเป็นชาวบ้านของหมู่บ้านธารน้ำใสอีกด้วย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม