เผิงเสี่ยวหร่านเห็นสีหน้าแววตาจริงจังทั้งครางแครงใจในตัวนางก็รีบขึ้นรถม้ากลับตระกูลเฉินทันที นางไม่รู้ว่านังสะใภ้ตัวดีนั่นรับรู้เรื่องที่นางทำชั่วไปได้เช่นไร กระทั่งบ่าวในจวนยังไม่เคยล่วงรู้ เห็นทีว่าจะเก็บนางไว้มิได้แล้วกระมัง “ท่านแม่ ที่ไห่มี่เฟิ่งพูดจริงหรือไม่” เฟยเทียนเองก็เห็นท่าทางมารดาดูแปลกไป ยิ่งตอนที่พี่ใหญ่ข่มขู่ว่าจะหาหลักฐานมาเอาผิดให้ได้นั้น ยิ่งเห็นความรนรานเลิ่กลั่กของท่านแม่แล้วนางยิ่งเห็นว่าน่าจะมีมูลความจริงบางอย่าง “นี่เจ้าไม่เชื่อใจแม่ผู้นี้หรอกหรือ” เผิงเสี่ยวหร่านใช้ความกตัญญูมาดึงความสนใจจากเรื่องที่นางเคยทำผิดไว้ เพราะหากบุตรผิดต่อมารดาบิดานั้นล้วนเป็นเรื่องที่จะได้รับการประณาม ไม่มีผู้ใดในใต้หล้าแห่งจงโจวนี้กล้าอกตัญญู ทั้งยกเรื่องนี้เป็นสำคัญ “ข้าก็ไม่ได้กล่าวหาท่าน เพียงแต่เห็นท่านแม่ทำท่าทางพิรุธให้พี่ใหญ่จับผิดเช่นนั้นได้อย่างไร แทนที่ท่านแม่จะสู้กลับว