ตอนที่ 10 ตัดใจ

1000 คำ
“หนูก็คิดแบบนั้นค่ะ ปีหน้าก็ขึ้นปีสามแล้ววิชาเรียนก็จะหนักกว่านี้อีกเยอะเลย แล้วเดี๋ยวช่วงซัมเมอร์ปีสามก็จะไปฝึกงานอีก หนูว่าหนูคงตัดใจจากเค้าได้ตอนอยู่ปีสามนี่แหละค่ะ” “จ้ะ ยังไงพี่ก็ขอเอาใจช่วยนะ แต่ถ้า...” “ถ้าอะไรเหรอคะ” “ถ้าเกิดว่าปีสามเค้าดันโสดขึ้นมาล่ะ คะน้าจะสารภาพรักเค้ารึเปล่า” “ก็คงไม่หรอกค่ะ ต่อให้เค้าโสดจริง...หนูก็คงไม่กล้าบอกเค้าอยู่ดี หนูไม่อยากเสียเพื่อนค่ะ เพื่อนที่แสนดีกับหนูมากๆ ด้วย” “แล้วไม่คิดบ้างเหรอว่าเค้าก็อาจจะชอบคะน้า” “ไม่หรอกค่ะ พี่โดมเค้ามองหนูเป็นน้องสาวตลอด เค้าไม่คิดอะไรเกินเลยกับหนูแน่นอน” “ฮั่นแน่ ในที่สุดก็ได้รู้ชื่อผู้ชายคนนั้นแล้ว ชื่อโดมนี่เอง” “เอ่อ...พี่แตงน่ะ มาหลอกเอาความลับหนูไปจนได้สิน่า” คณานางค์ยิ้มเจื่อนเมื่อเพิ่งจะรู้ตัวว่าเผลอพูดชื่อคนที่อยู่ในใจออกไป “พี่รู้น่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่อย่าให้พี่กาดรู้ก็แล้วกัน ยิ่งหวงเราอยู่ด้วย” พี่กาดที่คุณัญญาพูดถึงก็คือพี่ชายของพวกเธอที่ชื่อ คุณากร หรือ ผักกาด นั่นเอง ซึ่งตอนนี้เขารับราชการตำรวจอยู่ที่ภาคเหนือนานๆ จะกลับบ้านที่กรุงเทพฯ สักครั้ง “หนูไม่บอกพี่กาดหรอกค่ะ ไม่งั้นคงโดนสวดยาวแน่เลยที่แอบมีความรักในวัยเรียนน่ะ แต่ปีนี้พี่แตงก็เรียนจบแล้วใช่มั้ยคะ เรียนจบก็ได้เป็นพยาบาลสมใจแล้วสิ” “ใช่จ้ะ นี่ก็ยังคิดอยู่ว่าเรียนจบแล้วจะสมัครงานที่โรงพยาบาลไหนดี” “แล้วพี่อยากทำเอกชนหรือรัฐล่ะคะ” “พี่อยากทำเอกชนน่ะ ไม่ใช่เป็นเพราะรัฐงานหนักเท่านั้นหรอกนะ แต่กว่าจะได้บรรจุราชการน่ะยากมาก รุ่นพี่ที่จบไปส่วนใหญ่ก็เลือกทำในโรงพยาบาลเอกชนกันหมดแหละ อย่างน้อยก็ได้เงินเดือนสูงกว่าน่ะ พี่ผลาญค่าเทอมป๊าไปหลายบาทแล้ว อยากหาเงินมาคืนท่านไวๆ” “ก็ดีนะคะ สมัยนี้โรงพยาบาลรัฐงานโหลดจะตายไป คนไข้แทบล้นโรงพยาบาลอยู่แล้ว พี่แตงตัวเล็กนิดเดียวขืนทำงานหนักแบบนั้นหนูกลัวว่าจะเป็นลมไปก่อนน่ะสิ” “แหม พูดอย่างกับว่าเราตัวโตนักนี่ ก็ตัวเล็กพอกันแหละจ้ะ ดีนะยังมีนมกับเค้าน่ะ ไม่งั้นคนอื่นคงนึกว่าเรียนประถมอยู่แน่ๆ” คุณัญญาบอกอย่างขบขันเลยโดนน้องสาวมองค้อนเข้าให้ “ใช่สิ ใครเค้าจะนมโตเป็นลูกมะพร้าวอย่างตัวเองกันล่ะ ม้านะม้า ไม่ยุติธรรมเลย ทำไมเอานมให้พี่แตงหมด ของหนูเลยโผล่มาจิ๊ดเดียวเอง” คณานางค์ก้มลงมองหน้าอกเล็กๆ ของเธออย่างเศร้าใจ แม้สองพี่น้องจะมีหน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตาคล้ายกัน แต่รูปร่างของคุณัญญานั้นเรียกว่าเต็มไปด้วยส่วนเว้าส่วนโค้งเหมือนพวกดารานางแบบไม่ดูเหมือนเด็กมัธยมแบบเธอ “ก็พี่เกิดก่อนเลยได้จากม้ามาเยอะกว่าไง อย่าอิจฉาเลยจ้ะ นมใหญ่ก็ใช่ว่าจะดี หนักอกจะตายอยู่แล้วเนี่ย” “งั้นตัดมาให้หนูครึ่งหนึ่งสิคะ” “ถ้ามันตัดแบ่งให้กันได้พี่คงแบ่งให้เราแล้วล่ะ พูดแล้วก็รู้สึกเสียวแปลกๆ แฮะ รีบกินข้าวเถอะ อิ่มแล้วก็ไปอ่านหนังสือจะได้เลิกฟุ้งซ่านเรื่องผู้ชายไง” “ค่า...รู้แล้ว” เมื่อได้คุยกับพี่สาวเธอก็รู้สึกสบายใจขึ้นอย่างน้อยก็ไม่ต้องแบกความลับนี้เอาไว้กับใจเพียงลำพัง ต่อให้ชาตินี้จะตัดใจจากเขาไม่ได้ แต่ยังไงเธอก็จะไม่ยอมเสียเพื่อนอย่างเขาไปเด็ดขาด ความรู้สึกที่อยู่ในใจก็เก็บเอาไว้อย่างนี้ต่อไปจนกว่าเธอจะเจอใครสักคนที่ทำให้รู้สึกรักได้อีกครั้งก็แล้วกัน วันต่อมา อาทิตย์เดินทางมารับเมธาวินในเวลาบ่ายสองตามที่นัดหมายกันไว้ หลังจากได้พูดคุยเรื่องอาการของคนที่กำลังจะได้กลับบ้านเรียบร้อย รวมถึงวิธีปฏิบัติตัวหลังจากนี้แล้ว เขาก็พาเมธาวินไปขึ้นรถซูเปอร์คาร์คันโปรด เล่นเอาหนุ่มรุ่นน้องถึงกับตัวเกร็งกันเลยทีเดียว “นายนี่เหมือนพี่สาวเลยนะ” สารถีหนุ่มหล่อหันมาคุยกับผู้โดยสารวีไอพี “เหมือนยังไงเหรอครับ” “ก็ตอนที่ฉันให้ดรีมเค้าขับรถคันนี้ เธอก็นั่งเกร็งเหมือนนายนี่แหละ” “พี่ดรีมเคยขับ...คันนี้เหรอครับ” “ใช่ เคยอยู่ครั้งเดียว แล้วก็ไม่ขับอีกเลย เอาแต่บ่นว่ากลัวทำพังอยู่นั่นแหละ ขนาดฉันเป็นเจ้าของยังไม่เห็นซีเรียสเลยสักนิด” “ก็เพราะคุณรวยมั้งครับเลยไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องเครียด” “ใครว่าล่ะ ฉันมีเรื่องเครียดเยอะแยะไป แต่ไหนๆ เราก็พูดถึง ดรีมแล้ว ขอถามอะไรเกี่ยวกับเค้าหน่อยจะได้รึเปล่า แต่ถ้าไม่สะดวกตอบก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะ” “เรื่องอะไรเหรอครับ” “ได้ยินว่าดรีมเค้าอยู่กับน้องชายสองคนมาตลอด ในแฟ้มประวัติบอกว่าพ่อเสียแล้ว แต่แม่ยังมีชีวิตอยู่ แล้ว...แม่ของพวกนายอยู่ไหนล่ะ ทำไมไม่อยู่ด้วยกัน” “พี่ดรีมเคยบอกรึเปล่าครับว่าเราสองคนไม่ได้มีแม่คนเดียวกัน” “ก็เหมือนจะเคยบอกอยู่นะ ตอนที่นายป่วยแล้วเค้ามาขอยืมเงินฉันน่ะ ได้ยินเค้าพูดว่านายเป็นน้องคนละแม่ แต่ก็ถือว่าเป็นญาติคนเดียวที่เหลืออยู่ แต่ตอนนั้นฉันเห็นเธอกำลังเครียดเลยไม่ได้ถามอะไรมากนัก”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม