คืนเปลี่ยนชีวิต
เสียงเพลงจากผับดังเป็นจังหวะสนุกสนานกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวรู้สึกคึกคัก ดิสโก้บอลหลากสีเหนือเพดานส่องแสงระยิบระยับไปทั่วบริเวณ
นลินนาหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำตัดขับผิวของเธอให้ดูสว่างท่ามกลางแสงสลัว หญิงสาวกำลังเต้นไปตามจังวะเพลงอย่างสนุกสนาน แก้มเนียนออกสีชมพูระเรื่อเพราะฤทธิ์จากการดื่มแอลกอฮอล์ที่ดื่มไปหลายแก้ว ดวงตากลมโตเปล่งประกายไปด้วยแห่งความสุขเพราะเธอเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยและจะได้เริ่มทำงานทันที
“ลินพอได้แล้วมั้งแก เมาจนตาเยิ้มแล้วนะ” ธมนวรรณหรือป่านเพื่อนซี้ของนลินนาตะโกนแข่งกับเสียงเพลงแล้วพยายามดึงเพื่อนกลับมานั่งที่เดิม
“นิดหน่อยน่าป่าน นานๆ เมาที” นลินนาตอบเสียงยาน
“อีกแก้วเดียวแล้วเราจะกลับบ้านกัน”
“ก็ได้ๆ อ้าว...ชน....” นลินนายื่นแก้วเหล้าขึ้นชนกับแก้วของเพื่อนหญิงสาวหัวเราะร่วนก่อนจะยกเครื่องดื่มสีสวยเข้าปากอีกอึกใหญ่
ธมนวรรณได้แต่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจกับความดื้อของเพื่อน แม้จะเตือนแล้วเตือนอีก นลินนาก็ยังคงดื่มต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องกลับบ้าน
“ป่านพาฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนกลับได้ไหม” นลินนาบอกเพื่อนเพราะเธอมาจนประคองตัวเองแทบไม่ไหว
“เดินช้าๆ” ธมนวรรณพยุงเพื่อนไปเข้าห้องน้ำจากนั้นก็ประคองไปรถด้วยความทุลักทุเล
“อยากนอนแล้ว ไม่หวายยยย...ปวดหัวไปหมด”
“งั้นแกนอนรอที่เบาะหลังไปก่อนนะ ฉันจะไปล้างหน้าสักหน่อย” ธมนวรรณพานลินนาให้ไปนั่งที่เบาะหลังของรถตัวเองที่จอดอยู่ไม่ไกลจากผับ
เมื่อพานลินนาเข้าไปในรถแล้วธมนวรรณก็เดินไปเข้าห้องน้ำ เพื่อล้างหน้าและเรียกสติให้กลับมาสดชื่นเนื่องจากดื่มไปหลายแก้ว
นลินนานอนอยู่หลังรถได้ไม่นานก็รู้สึกพะอืดพะอมเหมือนจะอาเจียน เธอจึงลุกขึ้นแล้วรีบเปิดประตูรถลงไปอาเจียนอยู่ข้างทางจนรู้สึกดีขึ้นมาบ้างหลังจากอาเจียนออกไปจนหมด
ด้วยสติที่เหลือไม่มากเธอพยุงตัวเองให้เดินกลับไปที่รถของธมนวรรณ เมื่อเห็นรถสีดำคุ้นตาที่จอดอยู่หญิงสาวก็เปิดประตูเข้าไปนอนในเบาะหลังอย่างหมดสภาพและผล็อยหลับไปในทันทีโดยไม่ทันสังเกตว่าข้างๆ รถมีผู้ชายคนหนึ่งยืนคุยโทรศัพท์อยู่
ธีรกฤษนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หนุ่มใหญ่วัยสามสิบยืนพิงรถของตัวเองและกำลังคุณโทรศัพท์อยู่เขาจึงไม่เห็นว่าตอนนี้ที่เบาะหลังมีใครบางคนขึ้นไปนอนอยู่
ชายหนุ่มกลับเข้ามาในรถอีกครั้งเขาเปิดประตูรถฝั่งคนขับและก้าวขึ้นมานั่งโดยไม่ได้สังเกตเห็นสิ่งผิดปกติใดๆ บนเบาะหลัง เพราะความมืดของยามค่ำคืน
เขาขับรถออกมาอย่างช้าๆ ในมือยังถือโทรศัพท์คุยสายสำคัญบทสนทนาทางธุรกิจกับคู่ค้ายังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง
“ครับคุณคิม ผมเข้าใจดีเรื่องเงื่อนไขพวกนั้นดี แต่ผมว่าเราคงต้องคุยกันเรื่องรายละเอียดอีกครั้ง” ธีรกฤษพูดอย่างจริงจัง ด้วยใบหน้าเคร่งขรึม
ใช้เวลาไม่นานนักรถคันงามก็เข้ามาจอดในโรงรถของบ้านหลังสองชั้นทรงโมเดิร์นที่เขาเป็นคนออกแบบแล้วสร้างมันขึ้นมาจากน้ำพักน้ำแรงของตนเอง
ธีรกฤษดับเครื่องยนต์และก้าวลงจากรถ ชายหนุ่มเปิดประตูที่ด้านหลังเพื่อจะหยิบเอกสารบางอย่างแต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อได้กลิ่น กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมาปะทะจมูกเข้าจมูก ดวงตาของชายหนุ่มเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อว่าบนที่นั่งเบาะหลังมีคนนอนอยู่
“เฮ้ย....คุณ...มาได้ยังไง” ธีรกฤษตกใจมากเพราะจำได้ว่าวันนี้เขาไม่ได้พาผู้หญิงคนไหนกลับมาด้วยอย่างแน่นอน ชายหนุ่มเพ่งมองและพยายามคิดว่าเขารู้จักกับผู้หญิงคนนี้ไหมแต่เท่าที่จำได้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่เขาเคยนอนด้วยเลย
“นี่ คุณเป็นใครมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ตื่นมาคุยกันก่อน คุณ คุณ” เขาทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวของหญิงสาวแต่เธอก็ยังไม่ลืมตาขึ้นมาคุย
“อย่ากวนสิป่าน คนกำลังง่วง” หญิงสาวพูดแล้วซุกตัวเข้ากับเบาะรถ
“เดี๋ยวคุณ....ลืมตามาคุยกันก่อน นี่คุณ....” เขาพูดด้วยเสียงที่ดังขึ้นเพราะอยากเรียกสติของหญิงสาวที่กำลังเมาไม่รู้เรื่องและอยากรู้ว่าเธอมาอยู่ที่เบาะหลังของรถเขาได้ยังไงและขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหน
“อ้อ.... สวัสดีค่ะพ่อ....ทำมายยยยวันนี้พ่อหล่อจังคะ....คืนนี้หนูขอนอนกับป่านนะคะ”
“นี่คุณลืมตามาก่อนผมไม่ใช่พ่อคุณนะ” ธีรกฤษพยายามดึงหญิงสาวให้ลุกจากเบาะหลังเพราะอยากจะถามให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น
นลินนาเมามากและไม่มีแรงจะต่อต้านหญิงสาวเซมาตามแรงดึงแต่เพราะลุกขึ้นเร็วเกินไปจนทำให้กระเพาะเริ่มปั่นป่วน
แหวะ!..
อาเจียนสีข้นพุ่งออกมาจากปากของนลินนาจนมันไปถูกเสื้อเชิ้ตราคาแพงของธีรกฤษ กลิ่นฉุนเปรี้ยวของอาเจียนคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ
ธีรกฤษยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขารู้สึกขยะแขยงและไม่พอใจ แต่เมื่อเห็นสภาพของหญิงสาวที่หมดสติไปแล้วอยู่ในอ้อมกอดแล้วก็ทำได้แค่เพียงถอนหายใจ
“เฮ้อ....ให้ตายเถอะทำไมถึงได้กินเยอะจนเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ด้วยนะ ถ้าใครเขาพาไปทำเรื่องไม่ดีขึ้นมาจะทำยังไง เป็นผู้หญิงอีกด้วยไม่รู้ป่านนี้พ่อแม่จะตามหาอยู่หรือเปล่า” เขาบ่นกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเซ็งสุดขีด
ชายหนุ่มตัดสินใจอุ้มหญิงสาวร่างในอ้อมแขนที่เปื้อนอาเจียนเต็มไปหมดแล้วพาเข้ามาในห้องรับแขก
“น้าสมร น้าสมร ออกมาช่วยผมหน่อย” ธีรกฤษตะโกนเรียกแม่บ้านเสียงดังลั่นทันทีที่เปิดประตูห้อง
น้าสมรแม่บ้านวัยกลางคนรีบวิ่งออกมาจากห้องนอนด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพเจ้านายที่เปื้อนคราบอาเจียนและหญิงสาวในอ้อมแขนก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตาโต
“คุณธีร์ เกิดอะไรขึ้นคะเนี่ยแล้วเธอเป็นใครคะทำไมถึงไม่ได้สติแบบนี้” น้าสมรถามด้วยความตกใจ
“ไม่รู้เหมือนกันครับน้า ผมกลับมาถึงบ้านถึงรู้ว่าเธอนอนอยู่ แล้วก็อาเจียนใส่ผมเต็มไปหมดเลย” ธีรกฤษรีบอธิบาย
“ตายจริงดูสิหลับไม่รู้เรื่องเลย”
“น้าช่วยพาเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าหน่อยครับ เดี๋ยวผมจะอุ้มเธอไปที่ห้องนอนแขก”
“ได้ค่ะคุณธีร์เดี๋ยวน้าจะรีบตามไปจัดการให้”
น้าสมรพยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้านายไปยังห้องนอนแขกที่อยู่บนชั้นสอง
“ฝากด้วยนะครับน้า”
“อย่าห่วงเลยค่ะ น้าว่าคุณธีร์ก็รีบไปอาบน้ำเถอะค่ะทิ้งไว้นานเดี๋ยวจะล้างออกยากนะคะ”
ธีรกฤษมองเธออีกครั้งก่อนจะกลับมายังห้องนอนของตนเองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งหงุดหงิด ขยะแขยง และกังวลเล็กน้อยกับหญิงสาวแปลกหน้าที่จู่ๆ ก็อยู่บนเบาะหลังรถของเขา
ชายหนุ่มไม่รู้เธอเป็นใครแต่ถามตอนนี้คงไม่รู้เรื่องเขาจะรอให้เธอตื่นมาในตอนเช้าแล้วค่อยถามอีกทีว่าเธอเป็นใครและมาอยู่ในรถของเขาได้ยังไง