นลินนาลงจากรถแท็กซี่แล้วเดินเข้าบ้านด้วยความรู้สึกผิดที่ไปค้างบ้านผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จัก เธอกลัวว่าป้าสุรีย์จะจับโกหกได้
หญิงสาวโล่งใจเป็นอย่างมากเมื่อกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าป้าของเธอออกไปทำงานแล้ว ป้าสุรีย์ทำงานเป็นพนักงานบัญชีที่สำนักงานบัญชีแห่งหนึ่งและเธอก็เป็นญาติสนิทเพียงคนเดียวของนลินนาเพราะบิดามารดาของเธอเสียชีวิตไปแล้ว
หญิงสาวรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากนั้นก็โทรศัพท์ไปหาธมนวรรณเพื่อจะยืนยันอีกทีว่าเธอปลอดภัยดี
“ว่าไงลินเมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นโทรไปก็ไม่รับ ฉันเป็นห่วงแกมากนะรู้มั้ย”
“ขอโทษนะป่าน เมื่อคืนฉันเมามากแล้วแกก็ไปเข้าห้องน้ำนานฉันก็เลยนั่งแท็กซี่กลับนะ แต่ฉันก็ส่งข้อความไปบอกแล้วนี่ว่าฉันถึงบ้านแล้ว” นลินนานึกขอโทษเพื่อนในใจที่ต้องโกหก
“ก็นั้นมันหลังจากที่ฉันโทรไปหลายรอบไงล่ะ แกไม่เป็นอะไรแน่นะ” ธมนวรรณรู้สึกเป็นห่วงเพราะเมื่อคืนนลินนาเมากว่าทุกครั้ง
“แน่สิ ถ้าเป็นอะไรฉันจะโทรมาหาแกได้ยังไงล่ะ แต่ตอนนี้ฉันปวดหัวมากเลยแล้วแกล่ะเป็นไงบ้าง”
“ก็แฮ้งค์เหมือนกันแม่ทำข้าวต้มให้กินเมื่อกี้ แกก็อย่าลืมหาอะไรกินแก้แฮ้งค์แล้วก็นอนนอนพักนะ กว่าจะเริ่มงานก็วันจันทร์ไม่ใช่เหรอ”
“อือ ฉันมีเวลาพักผ่อนและเตรียมตัวไปทำงานอีกหลายวัน แกล่ะจะเอายังไงทำงานที่บริษัทพ่อเหรอ”
“ก็ว่าจะลองทำดูก่อนถ้าไม่โอเคค่อยว่ากัน”
“ถึงไม่โอเคแกก็ต้องทำนะ อย่าลืมนะว่าแกเป็นลูกคนเดียวถ้าแกไม่สานต่อแล้วใครจะทำ เอาล่ะฉันไม่กวนเวลาพักผ่อนแล้วฉันเองก็จะนอนเหมือนกันปวดหัวชะมัดรู้งี้ไม่กินเยอะหรอก” นลินนาหัวเราะกับเพื่อนก่อนจะวางสายแล้วนอนพักยาวจนถึงเวลาเย็นก็ออกมาทานอาหารเย็นกับป้าสุรีย์
สองวันต่อมา
นลินนาใช้เวลาสองวันจัดการกับความคิดและความรู้สึกของตัวเอง เธอรู้สึกผิดและอับอายกับเรื่องที่เกิดขึ้นในคืนที่เธอไปฉลองกับเพื่อนที่ผับ
เมื่อนึกถึงคืนนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะขอบคุณชายแปลกหน้าที่เธอเผลอขึ้นไปนอนบนรถเขาและยังพาเธอไปนอนพักที่บ้านโดยไม่ทำอะไรเธอเพราะถ้าเป็นผู้ชายคนอื่นเจอกับเธอในสภาพเมามายแบบนั้นก็คงฉวยโอกาสกับเธอไปแล้ว
วันนี้นลินนาจึงตัดสินใจทำคุกกี้ช็อกโกแลตชิพสูตรโปรดของตัวเองใส่กล่องอย่างสวยงาม เพื่อนำไปมอบให้กับธีรกฤษเป็นการแสดงความขอบคุณอย่างเป็นทางการเพราะเธอยังไม่มีโอกาสได้เจอและขอบคุณเขาต่อหน้าเลย หญิงสาวจำบ้านสองชั้นสไตล์โมเดิร์นที่หลังนั้นได้เป็นอย่างดี
หญิงสาวนั่งแท็กซี่มาที่บ้านหลังงามอีกครั้งตอนนี้ประตูรั้วสีขาวปิดสนิทเธอกดออดเรียก ไม่นานนักเสียงสัญญาณก็ดังขึ้นตอบรับพร้อมกับเสียงของน้าสมรจากลำโพงอินเตอร์คอม
“สวัสดีค่ะ มาหาใครคะ”
“สวัสดีค่ะน้าสมร ลินเองค่ะ จำได้ไหมคะที่สองวันก่อนคุณธีร์ช่วยลินไว้ วันนี้เลยเอาคุกกี้มาขอบคุณค่ะ” นลินนาตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ พร้อมกับถือกล่องคุกกี้ขึ้นโชว์ให้เห็นผ่านกล้องวงจรปิดที่มุมรั้ว
“อ้อ หนูลินนี่เอง เชิญเลยค่ะน้าเปิดประตูให้แล้ว” น้าสมรตอบกลับด้วยน้ำเสียงยินดี
จากนั้นประตูเหล็กดัดขนาดใหญ่ก็เลื่อนเปิดออกช้าๆ นลินนายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบริเวณบ้านอย่างช้าๆ
หญิงสาวเดินตามทางเดินคอนกรีตที่ตัดผ่านสนามหน้า จนกระทั่งมาถึงตัวบ้าน น้าสมรยืนรอต้อนรับเธออยู่หน้าประตูบ้านด้วยรอยยิ้มยินดี
“สวัสดีค่ะน้าสมร สบายดีไหมคะ” นลินนาถามพร้อมกับรอยยิ้มสดใส
“น้าสบายดี หนูล่ะเป็นยังไงบ้าง”
“ลินสบายดีค่ะ พอดีลินอยากมาขอบคุณคุณธีร์ด้วยตัวเองค่ะ แล้วก็ทำคุกกี้มาฝากน้าสมรกับคุณธีร์ด้วยค่ะ” นลินนาตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน พร้อมยื่นกล่องคุกกี้ให้น้าสมร
“โธ่ ไม่ต้องลำบากเลยค่ะหนูลิน แต่ก็ขอบคุณนะคะ” น้าสมรรับกล่องคุกกี้ไปถือไว้พลางยิ้มกว้าง
“คุณธีร์อยู่บ้านไหมคะ”
“อยู่ค่ะ พอดีคุณธีร์กำลังคุยโทรศัพท์อยู่หนูลินนั่งรอตรงนี้ก่อนนะคะ” น้าสมรผายมือเชิญให้นลินนานั่งรอที่โซฟาตัวยาวในห้องรับแขกที่
ไม่นานนักนลินนาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากทางด้านหลัง หญิงสาวหันไปมองและพบกับชายหนุ่มร่างสูง ใบหน้าหล่อเข้มที่เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยเจอกับเขามาแล้วคงเพราะคืนนั้นเธอเมามากจึงไม่ทันได้สังเกตว่าผู้ชายที่อุ้มเข้ามาในบ้านนั้นหล่อมากแค่ไหน เขาดูโดดเด่นและมีเสน่ห์เป็นอย่างมาก เขาสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวพับแขนขึ้น กางเกงผ้าเนื้อดีสีดำ ผมสีดำสนิทถูกเสยขึ้นอย่างเป็นระเบียบและดูภูมิฐานมากกว่าที่คิดไว้
ธีรกฤษมองเห็นนลินนาที่นั่งอยู่บนโซฟา ใบหน้าของเขาประดับรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก เขาสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า นลินนาในวันนี้ดูสวยสดใสกว่าเมื่อคืนก่อนมาก เธอสวมเสื้อแขนกุดสีเขียวอ่อนกับกางเกงยีนขายาวดูสดใสขัดกับชุดเซ็กซี่ที่เขาเห็นในคืนถึงแม้จะเป็นชุดธรรมดาแต่ก็สะกดสายตาของธีรกฤษได้เป็นอย่างมาก
“สวัสดีครับ” ธีรกฤษเอ่ยทักทายก่อน เสียงของเขาส่งผลให้นลินนารู้สึกประหม่าแต่เธอก็รวบรวมสติและลุกขึ้นยืนตรง
“สวัสดีค่ะคุณธีร์ ฉันชื่อนลินนาค่ะ เอ่อ....คือวันนี้ฉันตั้งใจมาขอบคุณคุณธีร์เป็นการส่วนตัวค่ะ” เธอพูดพร้อมกับก้มหัวเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพ
“มีชื่อเล่นไหม” เขาถามก่อนจะพยักหน้าให้เธอนั่งลงที่เดิม
“ลินค่ะ” หญิงสาวตอบสั้นๆ
“อันที่จริงลินไม่ต้องมาขอบคุณก็ได้นะ เรื่องคืนนั้นมันเรื่องเล็กมาก” เขายิ้มอย่างอ่อนโยน
“มีคนเมาเข้ามาในรถคุณบ่อยเหรอคะ”
“เปล่าหรอกลินเป็นคนแรก แต่ผมไม่ได้คิดอะไรเพราะถือว่าช่วยคนเมา” เขาพูดติดตลกแล้วหัวเราะเบาๆ
“ขอโทษจริงๆ ค่ะคุณธีร์ ลินไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเลย” นลินนาหน้าด้วยความอาย เธอรู้เลยว่าตนเองกำลังขุดหลุมฝังตัวเองที่กลับมาขอบคุณเขาที่นี่ เธอรู้สึกอับอายจนแทบจะมุดดินหนี
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ถือสาอะไรผมรู้ว่าคนเมามักทำอะไรไม่มีสติแค่ตกใจนิดหน่อยที่กลับมาบ้านแล้วมีคนนอนอยู่ที่เบาะหลัง” ธีรกฤษหัวเราะเบาๆ ในลำคอทำให้บรรยากาศผ่อนคลายลง
“แต่ก็ต้องขอบคุณจริงๆ นะคะ ถ้าไม่ได้คุณธีร์ไม่รู้ว่าฉันจะเป็นยังไงบ้าง” นลินนาพูดด้วยความจริงใจ ดวงตาคู่สวยมองสบกับธีรกฤษด้วยความซาบซึ้ง
ธีรกฤษมองดวงตาของนลินนาที่ฉายแววซื่อตรง เขาเริ่มรู้สึกสนใจในตัวหญิงสาวตรงหน้า เธอสวย หุ่นดี และที่สำคัญคือเป็นคนพูดตรงไปตรงมาไม่เสแสร้ง
ที่ผ่านมาธีรกฤษมักจะเจอแต่ผู้หญิงที่พยายามเข้ามาตีสนิทด้วยเหตุผลบางอย่างแต่เธอคนนี้กลับแตกต่างออกไป
“ผมถามหน่อยได้ไหมว่าอายุเท่าไหร่” ที่ถามแบบนั้นเพราะรู้สึกสนใจเธอมากและกลัวว่าหญิงสาวคนนี้จะยังไม่บรรลุนิติภาวะเพราะหน้าตาของเธอยังเด็กมาก ถึงจะรู้สึกชอบเธอแต่ถ้าอายุยังไม่ถึงสิบแปดก็ไม่อยากจะยุ่ง
“ลินอายุยี่สิบสองแล้วค่ะ เรียนจบแล้ว ที่ลินไปกินเหล้าจนเมาเมื่อสองคืนก่อนก็เพราะไปฉลองที่เรียนจบค่ะ” หญิงสาวอธิบายยาวเพราะไม่อยากให้เขาคิดว่าเธอเป็นนักดื่ม
“อายุน้อยกว่าผมเยอะเลยจะเรียกผมว่าพี่ก็ได้นะ”
“ได้ค่ะพี่ธีร์” นลินนาตอบพร้อมรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปาก หญิงสาวรู้สึกว่าระยะห่างระหว่างพวกเขาลดลงเล็กน้อย
“เรียนจบแล้วได้งานทำหรือยังล่ะ”
“ได้แล้วค่ะ”
“ดีใจด้วยนะที่จบแล้วก็ได้ทำงานเลย”
“ขอบคุณค่ะ ลินไม่รบกวนพี่ธีร์แล้วนะคะ วันนี้ที่มาก็ตั้งใจจะมาขอบคุณเรื่องคืนนั้นและเอาคุกกี้มาฝากค่ะ ตอนนี้ลินฝากไว่ที่น้าสมรค่ะ” หญิงสาวบอกจุดประสงค์ที่มาหาเขาถึงบ้าน
“แล้วมายังไงล่ะ”
“นั่งแท็กซี่มาค่ะ”
“แล้วขากลับล่ะ”
“ก็เรียกรถมารับสิคะ”
“พี่ไปส่งไหม พอดีจะออกไปทำธุระพอดี”
“ได้ค่ะ ขอลินไปบอกน้าสมรก่อนนะคะ”
“พี่รอหน้าบ้านนะ”
“ค่ะ เดี๋ยวลินตามไป”