อย่างน้อยก็มีหนึ่งคน

1385 คำ
นลินนาก้าวเท้าออกจากลิฟต์ที่ชั้น 12 ด้วยความตื่นเต้น ที่แผนกจัดซื้อค่อนข้างเงียบกว่าที่คิด แต่ก็มีเสียงพิมพ์และเสียงโทรศัพท์ดังเป็นระยะ เธอสูดหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ก่อนจะเดินตรงไปยังและเอ่ยแนะนำตัวกับพนักงานสาวที่นั่งอยู่ “สวัสดีค่ะ ดิฉันนลินนาค่ะ พนักงานใหม่ฝ่ายจัดซื้อค่ะ มาวันนี้เป็นวันแรก” นลินนากล่าวด้วยรอยยิ้มที่แสดงความประหม่าเล็กน้อย พนักงานสาวเงยหน้าขึ้นมอง เธอมีใบหน้าเรียวเล็ก ดวงตาเรียวรีที่ดูไม่เป็นมิตรนัก เธอพยักหน้ารับอย่างไม่ค่อยใส่ใจนัก “อ้อ คุณนลินนาใช่ไหมคะ เชิญไปที่โต๊ะด้านโน้นเลยค่ะคุณมนตรี หัวหน้าแผนกกำลังรออยู่ค่ะ” เธอผายมือไปทางโซนโต๊ะทำงานที่อยู่ด้านในสุดของแผนก “ขอบคุณค่ะ” นลินนาเดินตรงไปหาหัวหน้าแผนกด้วยความตื่นเต้นปนกังวลเล็กน้อย เธอเห็นผู้ชายร่างท้วมคนหนึ่งกำลังก้มหน้าอยู่กับจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่สุด นั่นคงเป็นคุณมนตรี หัวหน้าแผนกของเธอ “สวัสดีค่ะคุณมนตรี ดิฉันนลินนาค่ะ พนักงานใหม่ค่ะ” นลินนากล่าวแนะนำตัวอย่างสุภาพ คุณมนตรีเงยหน้าขึ้นจากจอคอมพิวเตอร์ ใบหน้าของเขาดูหงุดหงิดเล็กน้อย “มาแล้วเหรอ นั่งตรงนั้นแหละ” เขาตอบเสียงห้วนๆ ไม่ได้มีรอยยิ้มต้อนรับขับสู้แม้แต่น้อยแล้วผายมือไปยังโต๊ะทำงานตัวเล็กๆ ที่อยู่ด้านหลังสุดของแผนก ซึ่งเป็นโต๊ะที่ดูเก่าและมีเอกสารกองสุมอยู่เต็มไปหมด นลินนารู้สึกใจแป้วเล็กน้อยกับท่าทีที่ไม่เป็นมิตรของหัวหน้า แต่ก็พยายามยิ้มสู้ เธอเดินไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเธอทันที พนักงานคนอื่นๆ ในแผนกดูกำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง ไม่มีใครสนใจที่จะแนะนำตัวหรือพูดคุยกับเธอเลย นลินนารู้สึกโดดเดี่ยวเล็กน้อยในวันแรกของการทำงาน หลังจากนั้นไม่นาน คุณมนตรีก็เดินนำเอกสารปึกใหญ่มาวางไว้บนโต๊ะของนลินนา “นี่คืองานของคุณวันนี้ ดูรายละเอียดการสั่งซื้อและตรวจสอบความถูกต้องของวัสดุที่จะเข้ามา เสร็จแล้วเอาไปวางที่โต๊ะผม” เขาพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ค่ะ” เธอตอบอย่างตั้งใจ เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า นลินนาก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารกองโตที่อยู่ตรงหน้า เธอพยายามทำความเข้าใจระบบการทำงานและรายละเอียดต่างๆ ของงานอย่างละเอียด การสั่งซื้อวัสดุก่อสร้างนั้นมีความซับซ้อนกว่าที่เธอคิดไว้มาก เพราะต้องตรวจสอบทั้งชนิด ปริมาณ คุณภาพ และราคาให้ถูกต้องตรงตามที่ระบุในสัญญา หลังจากทำงานไปได้สักพัก นลินนาก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง ยิ่งเธอตรวจสอบเอกสารมากเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งพบว่ามีบางรายการที่ดูไม่ชอบมาพากล เธอดึงเอกสารแผ่นหนึ่งขึ้นมาดูอย่างละเอียด มันคือใบสั่งซื้อเหล็กเส้นที่ระบุว่าเป็นเกรด A แต่เมื่อดูจากรหัสสินค้าแล้ว มันกลับเป็นเหล็กเกรด B นลินนาขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เธอตรวจสอบเอกสารอื่นๆ ต่อไป และก็พบความผิดปกติในลักษณะเดียวกันอีกหลายรายการ ทั้งปูนซีเมนต์ที่ระบุว่าเป็นชนิดพิเศษ แต่รหัสกลับเป็นปูนธรรมดา หรือแม้แต่กระเบื้องหลังคาที่สั่งเป็นแบบพรีเมียม แต่รหัสกลับเป็นแบบมาตรฐาน นลินนารู้สึกเหมือนมีก้อนหินมาจุกอยู่ที่คอ เธอจำได้ดีว่าตอนเรียน เธอถูกสอนมาเสมอว่าการจัดซื้อคือหัวใจสำคัญของการควบคุมคุณภาพงานก่อสร้าง หากวัสดุไม่ตรงสเปกนั่นหมายถึงความเสี่ยงต่อความแข็งแรงและความปลอดภัยของโครงสร้างอาคาร เธอรวบรวมเอกสารที่มีความผิดปกติเหล่านี้ไว้ในมือ ก่อนจะเดินไปยังโต๊ะทำงานของคุณมนตรีด้วยความกังวลใจ “คุณมนตรีคะ” นลินนาเรียกหัวหน้าด้วยน้ำเสียงเกรงใจ “มีอะไร” เขาถามเสียงห้วน ใบหน้าของเขาดูไม่พอใจเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะ “คือลินตรวจสอบเอกสารการสั่งซื้อแล้วพบว่ามีบางรายการที่ไม่ตรงสเปกค่ะ” นลินนาพูดอย่างระมัดระวัง พยายามรักษาน้ำเสียงให้เป็นกลางที่สุด เธอวางเอกสารเหล่านั้นลงบนโต๊ะของคุณมนตรี และชี้ให้ดูรายละเอียดที่ผิดปกติ คุณมนตรีมองดูเอกสารเหล่านั้นเพียงชั่วครู่ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองนลินนาด้วยแววตาที่ฉายความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด “แล้วมันเรื่องอะไรของคุณ” เขาถามเสียงเข้ม สีหน้าบ่งบอกถึงความไม่พอใจอย่างรุนแรง “แต่ว่ามันไม่ตรงตามที่ลูกค้าต้องการนะคะ ถ้าใช้วัสดุที่ไม่ตรงสเปกอาจจะเกิดปัญหาเรื่องคุณภาพงานก่อสร้างได้ค่ะ” นลินนาตกใจเล็กน้อยกับปฏิกิริยาของหัวหน้า เธอพยายามอธิบายด้วยเหตุผล “นี่มันเรื่องของเจ้านาย คุณมีหน้าที่ทำตามที่สั่งก็พอ” เขาตะคอกเสียงดังลั่น ทำให้พนักงานคนอื่นๆ ในแผนกหันมามองด้วยความตกใจ นลินนาสะดุ้งด้วยความตกใจ ใบหน้าลงอย่างเห็นได้ชัด “แต่…” เธอพยายามจะพูดต่อ “ไม่มีแต่ คุณเป็นพนักงานใหม่ ก็แค่ตามคำสั่งอย่ามาเสนอหน้าทำตัวรู้ดีไปกว่าผู้บริหาร” คุณมนตรีพูดเสียงแข็ง ดวงตาคมกริบจ้องมองนลินนาอย่างดุดัน “คำสั่งจากผู้บริหารเหรอคะ” “ใช่ ให้คุณทำตามที่ระบุในเอกสาร ห้ามสงสัย ห้ามซักถาม และห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด เข้าใจไหม” นลินนายืนนิ่งตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ เธอไม่เคยถูกใครตะคอกใส่ด้วยน้ำเสียงแบบนี้มาก่อน ความรู้สึกผิดหวังถาโถมเข้าใส่ เธอคิดว่าการทำงานในบริษัทใหญ่ๆ จะต้องเป็นมืออาชีพและโปร่งใส แต่สิ่งที่เธอเจอในวันแรกกลับตรงกันข้าม “เข้าใจแล้วค่ะ” นลินนาตอบเสียงแผ่วเบาหญิงสาวรีบเดินกลับมาที่โต๊ะทำงานของตัวเองด้วยความรู้สึกสับสนและเครียดจัด เธอรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างรุนแรง การสั่งวัสดุที่ไม่ตรงสเปกย่อมหมายถึงการทุจริตอย่างแน่นอน แต่นั่นเป็นเรื่องของเจ้านายและผู้บริหารระดับสูง เธอนึกถึงคำพูดของคุณมนตรีที่บอกว่า ‘เรื่องของเจ้านาย’ และ ‘ห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาด’ นลินนากัดริมฝีปากแน่น ดวงตาคู่สวยเริ่มฉายแวววิตกกังวล หากเธอเอาเรื่องนี้ไปบอกลูกค้า เธออาจจะถูกไล่ออกในทันที เพราะเธอเป็นแค่พนักงานใหม่ตัวเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย เธอไม่รู้จะปรึกษาใครดี ความเครียดเริ่มกัดกินหัวใจ นลินนานั่งจ้องมองเอกสารเหล่านั้นด้วยความรู้สึกหนักอึ้งในอก เธอจะทำอย่างไรกับเรื่องนี้ดี เธอจะยอมหลับหูหลับตาทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เพื่อรักษาหน้าที่การงานของตัวเองไว้ หรือจะเสี่ยงที่จะเปิดโปงความไม่ชอบมาพากลนี้ เพื่อความถูกต้องและยุติธรรม คำถามเหล่านี้วนเวียนอยู่ในหัวของเธอตลอดช่วงเช้า เมื่อถึงเวลาเที่ยงนลินนาเงยหน้าขึ้นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยความเหนื่อยล้าและอึดอัดใจ เธอใช้เวลาทั้งเช้าจมอยู่กับเอกสารที่เต็มไปด้วยความผิดปกติเหล่านั้น พยายามทำใจให้มองข้ามแต่ก็ยากเหลือเกิน “คุณนลินนา ไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันไหมคะ” เสียงหวานใสของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น เธอมีใบหน้ายิ้มแย้ม ดวงตากลมโตเป็นประกาย ดูเป็นมิตรอย่างยิ่ง หญิงสาวคนนั้นคือนัทธมนเพื่อนร่วมงานที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆ ซึ่งเป็นคนเดียวที่ยิ้มให้เธอตั้งแต่เช้า “เรียกลินก็ได้ค่ะ” “พี่ชื่อนัทนะ ยินดีต้อนรับเข้าทำงานที่แผนกจ้ะ” “ขอบคุณค่ะ” นลินนาเธอรู้สึกดีใจเล็กน้อยที่ในที่สุดก็มีคนชวนไปทานข้าวด้วย “ไปกินข้าวด้วยกันนะคะ มีร้านอยู่ข้างตึกนี่หลายร้านเลยค่ะ” “ค่ะพี่นัท” ทั้งสองสาวเดินออกจากแผนกจัดซื้อที่ยังคงมีพนักงานบางคนก้มหน้าก้มตาทำงานอยู่ นัทธมนพาเธอมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารตามสั่งเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบริษัทมากนัก บรรยากาศในร้านค่อนข้างคึกคักไปด้วยพนักงานออฟฟิศที่ออกมาหาอาหารกลางวัน
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม