สายโทรเข้าที่ทำให้ยิ้มได้

1691 คำ
ตอนที่ 8 สายโทรเข้าที่ทำให้ยิ้มได้ นลินนากลับเข้ามาในห้องนอนหลังจากคุยกับป้าสุรีย์อยู่พักใหญ่ หญิงสาวนอนพลิกตัวไปมาบนเตียง เธอพยายามข่มตาให้หลับ แต่ภาพเอกสารที่ไม่ตรงสเปกและคำพูดห้วนๆ ของหัวหน้าก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว เธอรู้สึกเหมือนมีก้อนหินหนักอึ้งทับอยู่ในอก หญิงสาวถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรไปหาเพื่อนสนิท “นอนหรือยังป่าน” “ยังเลย เป็นไงบ้างทำงานวันแรกโอเคไหม เจ้านายหล่อหรือเปล่า” ธมนวรรณถามด้วยความอยากรู้ “แหมๆ รีบถามถึงเจ้านายเลยนะ แต่ขอโทษที่คำตอบของฉันต้องทำให้แกผิดหวังนะป่าน เจ้านายของฉันน้ำหนักน่าจะเกินร้อยกิโลได้นะ ยังสนใจอยู่ไหมล่ะ” “ใครจะสนล่ะ ฉันไม่ได้บลูลี่เรื่องรูปร่างหรอกนะ” “อือ ฉันรู้ว่าสเปกของแกต้องหล่อขาวตี๋ใช่ไหมล่ะ” นลินนารู้ว่าเพื่อนชอบผู้ชายแบบไหน “ถูกต้องที่สุด เอาล่ะที่นี่เล่าเรื่องทำงานบ้างสิ เป็นไงบ้างงานหนักไหม” “ไม่น่ะ วันนี้ก็แค่ศึกษาเอกสารน่ะ มีอะไรมากหรอก” หญิงสาวไม่กล้าเล่าเรื่องที่ตนเองเจอให้เพื่อนฟังเพราะไม่อยากให้เพื่อนเป็นกังวลไปกับตัวเอง “แล้วเพื่อนร่วมงานล่ะโอเคไหม” “ก็โอเคนะ ทุกอย่างไปได้ดีเลยล่ะ แล้วแกล่ะป่านไปเริ่มงานที่บริษัทของพ่อหรือยัง” “ยังเลยตอนนี้กำลังคิดว่าอยากจะเรียนต่อปริญญาโทน่ะ” “เอาสิ แต่จะเรียนที่เดิมหรือไปเรียนต่างประเทศล่ะ” นลินนาสนับสนุนเพื่อนอย่างเต็มที่ “พ่ออยากให้ไปเรียนที่อังกฤษ” “ฉันว่ามันดีกับแกมากนะ ถ้าแกจบแล้วไปทำงานที่บริษัทเลยคนอาจจะมองว่าแกก็แค่เด็กจบใหม่ที่ได้เข้าทำงานเพราะพ่อเป็นเจ้าของบริษัท แต่ถ้าแกไปเรียนต่อและได้ทำงานเก็บประสบการณ์จากต่างประเทศเวลากลับมารับตำแหน่งบริหารพนักงานก็คงยอมรับในความสามารถของแก” “พ่อก็บอกแบบนั้น แต่ถ้าฉันไปเรียนก็คงเหงามาก” “คนอัธยาศัยดีอย่างแกฉันว่าคงหาเพื่อนที่นั่นได้ไม่ยากและฉันสัญญาเลยว่าจะโทรหาแกบ่อยๆ” “ฉันจะลองคิดดูอีกทีนะ บางทีอาจเรียนที่เมืองไทยก็ได้” “ไม่ว่าแกจะเลือกเรียนที่ไหนฉันก็เอาใจช่วยแกเสมอ” “ขอบใจนะลิน ฉันก็เอาใจช่วยแกเหมือนกันนะ” นลินนาคุยกับเพื่อนอีกนานเท่าไหร่ก็วางสาย จากนั้นหญิงสาวก็ลุกขึ้นไปหยิบหนังสือนิยายที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาอ่าน หวังว่าเรื่องราวในนั้นจะช่วยให้เธอคลายความกังวลและช่วยให้เธอง่วงนอนได้ ขณะที่นลินนากำลังจมดิ่งอยู่กับตัวอักษรแล้วเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างตัวก็ดังขึ้นมา เธอตกใจเล็กน้อยเพราะไม่ค่อยมีใครโทรหาเธอตอนดึกแบบนี้นอกจากธมนวรรณแต่เธอกับเพื่อนก็เพิ่งคุยกันไปเมื่อครู่ หญิงสาวหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหน้าจอแต่ปรากฏชื่อนั่นเพราะเธอไม่ได้บันทึกไว้ เธอลังเลว่าจะกดรับดีหรือเปล่าแต่เมื่อคิดว่าอาจจะเป็นคนที่บริษัทหญิงสาวก็กดรับทันที “สวัสดีค่ะ” หญิงสาวทักทายเพียงสั้นๆ เพราะอยากจะรู้ว่าปลายสายคือใครก่อนจะพูดอะไรต่อ “สวัสดีครับ” เสียงที่ดังขึ้นจากปลายสาย ทำให้นลินนาถึงกับนิ่งไปชั่วขณะ หัวใจของเธอเต้นรัวขึ้นมาทันที “พี่ธีร์เหรอคะ” นลินนาดีใจและแปลกใจที่เขาโทรมาหาเพราะเธอไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์กับเขา “ใช่ครับ พี่เองลินนอนหรือยังครับ” ธีรกฤษตอบกลับด้วยน้ำเสียงอบอุ่น “ยังค่ะ พี่ธีร์เอาเบอร์ลินมาจากไหนคะ” นลินนาถามตรงๆ น้ำเสียงยังคงมีแต่ความดีใจ “ขอมาจากน้าสมรครับ” ธีรกฤษตอบไปตามตรงและกว่าจะเบอร์โทรศัพท์ของเธอเขาก็ต้องคิดหาเหตุผลอยู่นานแต่สุดท้ายก็ยอมบอกน้าสมรไปตามตรงว่าเขาสนใจนลินนาและอยากจะคุยต่อ พอน้าสมรรู้ก็เชียร์เขาอย่างออกหน้าเพราะเธอเองก็ถูกชะตากับนลินนาอยู่มาก “พี่ธีร์มีธุระอะไรหรือเปล่าคะ” เธอคิดว่าถ้าไม่ธุระอะไรเขาคงไม่โทรหาเธอในเวลานี้แน่นอน “ไม่มีธุระหรอกพี่ก็แค่อยากโทรมาถามว่าวันแรกของการทำงานเป็นยังไงบ้าง” ธีรกฤษถามด้วยน้ำเสียงอบอุ่นและห่วงใย ซึ่งผิดวิสัยจากนักธุรกิจหนุ่มมาดขรึมอย่างเขา ที่ปกติจะให้ความสำคัญกับเรื่องงานมากกว่าเรื่องส่วนตัว “พี่จำได้เหรอคะว่าวันนี้ลินไปทำงานวันแรก” เธอเล่าให้เขาฟังเมื่อครั้งก่อนตอนที่เขาขับรถมาส่งที่บ้านแต่ไม่คิดว่าเขาจะจำได้เพราะมันเป็นแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น “พี่จำได้ แล้วทำงานวันแรกเป็นยังไงบ้าง” เขาถามซ้ำอีกครั้ง นลินนาเงียบไปชั่วขณะ เธอไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไรดี จะบอกความจริงเรื่องที่เจอความผิดปกติในบริษัทดีไหม หรือจะโกหกเหมือนที่โกหกป้าไปแล้ว “ก็ดีค่ะพี่ธีร์ เพื่อนร่วมงานน่ารัก หัวหน้าก็โอเคเลยค่ะ” หญิงสาวตัดสินใจเลือกที่จะโกหกออกไป น้ำเสียงเธอพยายามทำให้ฟังดูร่าเริงที่สุดเท่าที่จะทำได้ “พี่รู้ว่าวันแรกของการทำงานมันก็อาจจะดูวุ่นๆ หน่อย แต่เชื่อเถอะครับ เดี๋ยวก็ปรับตัวได้” น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนจนนลินนารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเขา “ค่ะ ลินก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะคะ” นลินนาตอบรับ ความรู้สึกอึดอัดใจเริ่มเข้ามาเกาะกุมอีกครั้ง แต่เธอก็พยายามสะบัดมันทิ้งไป “พี่กินคุกกี้ที่ทำมาให้แล้ว” “เป็นไงบ้างคะอร่อยไหม” เธอถามกลับด้วยความตื่นเต้นและลุ้นกับคำตอบของธีรกฤษ “อร่อยมากเลยล่ะ น้าสมรก็บอกว่าอร่อย” “จริงเหรอคะ ถ้างั้นลินจะทำไปให้อีกดีไหม” “เอาตรงๆ นะพี่เกรงใจเพราะตอนนี้ลินก็ไปเริ่มทำงานแล้ว ถ้ายังต้องทำคุกกี้มาให้พี่ก็คงจะเหนื่อย” “ก็ทำวันหยุดได้นี่คะ ถ้าลินทำแล้วจะเอาไปให้ที่บ้านนะคะ” “ให้พี่ไปเอาที่บ้านก็ได้นะ” เขาอยากหาโอกาสได้ใกล้ชิดกับนลินนาและคิดว่าการเข้าไปในบ้านของเธอจะทำให้ได้รู้จักกับเธอมากขึ้น “ไม่ได้นะคะ” หญิงสาวรีบห้าม “ทำไมล่ะ มีอะไรหรือเปล่า” “ลินไม่อยากให้พี่ธีร์เจอกับป้าของลิน” “บอกได้ไหมว่าเพราะอะไร” “ป้าไม่รู้เรื่องที่ลินเมาแล้วไปนอนที่เบาะหลังรถของพี่ธีร์ค่ะ” “พี่เข้าใจแล้ว เรื่องนั้นมันเป็นความลับใช่ไหม” “ค่ะ มีแค่ลิน พี่ธีร์และน้าสมรที่รู้เรื่อง” “พี่ขอโทษนะลิน” เมื่อเธอบอกว่าเป็นความลับเขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันทีเพราะเผลอไปเล่าเรื่องนั้นให้เพื่อนสนิทฟังไปแล้ว “ขอโทษเรื่องอะไรคะ” “ก็พี่เล่าเรื่องลินให้เพื่อนฟังไปแล้วสองคน แต่ลินมั่นใจได้เลยว่าเพื่อนพี่ไม่เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ใครฟังแน่” ธีรกฤษรีบบอกเพื่ออยากให้นลินนาสบายใจ “น่าอายมากใช่ไหมคะเพื่อนพี่ก็คงหัวเราะกันสนุกไปเลยใช่ไหม” เธอรู้สึกผิดหวังที่เขาเอาเรื่องน่าอายของเธอไปเล่าให้คนอื่นฟัง “ไม่เลย เพื่อนพี่เข้าใจดี คนเราเวลาเมาก็ทำอะไรไปโดยที่มีรู้ตัว แค่ขึ้นรถผิดคันมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เพื่อนพี่มันยังเคยเมาแล้วบอกให้แท็กซี่ไปส่งที่บ้านของแฟนเก่าทั้งที่เลิกกันมาหลายเดือนแล้ว" “พี่ธีร์กำลังพูดให้ลินสบายใจใช่ไหม” “พี่พูดจริงไม่เชื่อลองมาถามเพื่อนพี่เองสิ แล้วลินจะรู้ว่าเรื่องที่ลินทำนั้นมันไม่ได้น่าอายเลย” “ลินจะเชื่อพี่ก็ได้ค่ะ” “พี่กวนเวลาลินมานานแล้วแต่ก่อนจะวางพี่ว่าจะถามอะไรอีกอย่าง” “ถามอะไรคะ” “ลินทำงานแผนกอะไรครับ” เขาถามกลับมาเข้าเรื่องงานอีกครั้ง “แผนกจัดซื้อค่ะ ดูแลเรื่องเอกสารการสั่งซื้อประสานงานกับซัพพลายเออร์ค่ะ” เธอตอบสั้นๆ ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกถึงความผิดปกติที่เธอเจอ “ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วยได้ก็บอกนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณมากนะคะพี่ธีร์” เธอรู้สึกอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูกที่ธีรกฤษยังคงเป็นห่วงและพร้อมที่จะช่วยเหลือเธอ นลินนารู้สึกสบายใจขึ้นอย่างประหลาดเมื่อได้คุยกับธีรกฤษ เขามีบุคลิกที่แตกต่างจากที่เธอคิดไว้มาก จากที่ดูเป็นคนเย็นชาและเคร่งขรึม แต่เมื่อได้คุยกันจริงๆ เขากลับเป็นคนอบอุ่นและมีอารมณ์ขันเล็กน้อย “งั้นพี่ไม่กวนลินแล้วนะครับ พักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้จะได้มีแรงไปทำงาน” “ค่ะพี่ธีร์ ขอบคุณมากนะคะที่โทรมา” นลินนาตอบด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายขึ้นมาก “ไม่เป็นไรครับ ฝันดีนะครับลิน” ธีรกฤษกล่าวลา “ฝันดีค่ะพี่ธีร์” นลินนากล่าวตอบก่อนที่ธีรกฤษจะวางสายไป หญิงสาวสัมผัสได้ถึงความห่วงใยที่เขามีให้ เธอรู้สึกดีอย่างประหลาด การได้คุยกับเขาทำให้ความเครียดที่สะสมมาทั้งวันคลายลงไปได้บ้าง แม้ปัญหาเรื่องงานยังคงอยู่ แต่การได้คุยกับธีรกฤษก็ทำให้เธอรู้สึกว่าอย่างน้อย เธอก็ยังมีใครบางคนที่คอยห่วงใยอยู่
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม