ตอนที่ 10
แค่อยากเมาให้ลืมความทุกข์
ความเครียดจากงานมีเข้ามาตลอดสัปดาห์ มันทำให้นลินนารู้สึกเครียดมาก ภาพเอกสารที่ผิดปกติเสียงตะคอกของหัวหน้า และความรู้สึกผิดที่ต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นวนเวียนอยู่ในหัว เธอรู้สึกอึดอัดจนแทบระเบิดและในที่สุด เธอก็ตัดสินใจที่จะปลดปล่อยความรู้สึกเหล่านั้นด้วยการดื่ม
ในคืนวันศุกร์นลินนาบอกกับป้าสุรีย์ว่าจะไปค้างบ้านธมนวรรณแต่ความจริงแล้วเธอไปเปิดโรงแรมแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวและคิดว่าจะดื่มให้หายจากความเครียดก็จากนั้นก็พักที่โรงแรม หญิงสาวเลือกที่จะไปบาร์แห่งใหม่ที่นัทธมนแนะนำไม่ใช่ผับเดิมที่เธอเคยไปเมาจนขึ้นรถผิดคัน เธออยากหลีกหนีทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจ
บรรยากาศในบาร์แห่งนี้ค่อนข้างมืดสลัวเสียงเพลงคลอเบาๆ ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นลินนาเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ สั่งค็อกเทลแก้วแล้วแก้วเล่าเธอตั้งใจจะดื่มให้ลืมทุกเรื่องที่กวนใจ
หลังจากดื่มไปหลายแก้วนลินนาเริ่มรู้สึกมึนงง สติลดน้อยลง ขณะที่กำลังดื่มด่ำกับเครื่องดื่มสีสวยสายตาก็ไปสะดุดเข้ากับร่างสูงโปร่งคุ้นตาที่มุมหนึ่งของบาร์ ชายหนุ่มคนนั้นกำลังยืนคุยกับเพื่อนอีกสองคน ในชุดเสื้อเชิ้ตสีเข้มที่ขับให้ผิวขาวของเขาดูโดดเด่น ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มยังคงฉายแววเย็นชา แต่เมื่อเขายิ้มให้เพื่อน รอยยิ้มนั้นกลับดูอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
นลินนาไม่คิดว่าจะมาเจอธีรกฤษที่นี่ เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะเดินเข้าไปทักดีหรือไม่ แต่แอลกอฮอล์ในกระแสเลือดทำให้ความขี้อายของเธอหายไปในพริบตา เธอเดินโซซัดโซเซเข้าไปใกล้ๆ กลุ่มของธีรกฤษ
“พี่ธีร์” นลินนาเรียกชื่อเขาเสียงดังกว่าปกติเพื่อแข่งกับเสียงของเพลงในบาร์ ใบหน้าสวยยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
ธีรกฤษหันมามองด้วยความแปลกใจคนที่เรียกคือนลินนา
“ลิน มาได้ยังไงครับ” เขาถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจและรู้สึกกังวลเมื่อเห็นท่าทีที่ดูเหมือนคนเมาของหญิงสาว
เพื่อนทั้งสองคนของธีรกฤษหันมามองนลินนาด้วยความสงสัย ธีรกฤษแนะนำนลินนาให้เพื่อนรู้จักอย่างสั้นๆ ก่อนจะหันมาหานลินนาอีกครั้ง
“ลินมากับใครครับ ทำไมถึงได้เมาขนาดนี้” ธีรกฤษถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้น พยายามจะพยุงร่างของเธอที่ดูจะทรงตัวไม่ค่อยอยู่
“มาคนเดียวค่ะอยากดื่ม” นลินนาตอบเสียงยาน ใบหน้าแดงก่ำจากการดื่ม
“มาคนเดียวแล้วยังจะจนดื่มเมาได้ยังไงนะ เดี๋ยวก็ไปขึ้นรถผิดคันอีกหรอก” ธีรกฤษบ่นอุบอิบอย่างเป็นห่วง เขารู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งที่เห็นเธออยู่ในสภาพนี้
และเมื่อในบาร์เปลี่ยนจากเพลงช้าเป็นเพลงจังหวะสนุกสนานเร้าใจนลินนาก็ฉุดมือธีรกฤษให้ลุกขึ้น
“ไปเต้นกันค่ะพี่ธีร์” เธอพูดพลางออกแรงดึงมือเขาอย่างสุดกำลัง
ธีรกฤษถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาไม่เคยไปเต้นที่ไหนมาก่อนในชีวิต แต่เมื่อเห็นท่าทีที่เอาแต่ใจของนลินนาก็จำต้องยอมเดินตามเธอไปที่ฟลอร์เต้นรำ
นลินนาเต้นไปตามจังหวะเพลง เธอโยกย้ายส่ายสะโพกไปตามจังหวะเพลง แขนเรียวเล็กโอบรอบคอธีรกฤษแน่น ดวงตาพร่าเลือนมองสบตาเขาด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเย้ายวนอย่างที่เธอไม่เคยแสดงออกมาก่อน
ธีรกฤษรู้สึกได้ถึงไออุ่นจากร่างของนลินนาที่แนบชิดกับเขา หัวใจของเขาเต้นรัวอย่างผิดปกติ เขามองใบหน้าสวยหวานที่กำลังแดงก่ำจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ ดวงตาคู่สวยที่เคยดูใสซื่อบัดนี้กลับฉายแววเย้ายวนอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เขารู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ลินพี่ว่าลินเมามากแล้วนะ” ธีรกฤษพยายามพูดเสียงเบาๆ แต่ก็ถูกกลืนหายไปในเสียงเพลง
“เมาสิดี ลินอยากเมา อยากมีความสุข ลินไม่อยากเครียด”
นลินนาตอบขณะมือเรียวเล็กของเธอเลื่อนลงไปลูบไล้แผงอกของธีรกฤษอย่างแผ่วเบา สัมผัสที่ทำให้หัวใจของธีรกฤษเต้นแรง
ความใกล้ชิดที่มากเกินไปและบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความมึนเมาทำให้ธีรกฤษรู้สึกได้ว่าเขาเริ่มควบคุมตัวเองได้ยากขึ้นเรื่อยๆ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกๆ พยายามรวบรวมสติ แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของนลินนาที่อยู่ใกล้เพียงลมหายใจก็ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว
“พี่ธีร์ร้อนจัง” นลินนาพึมพำเสียงแผ่วเบา ใบหน้าซบลงกับแผงอกของเขาอย่างออดอ้อน ธีรกฤษรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเธอที่รินรดอยู่บนผิวหนังของเขา ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะพาเธอออกจากที่นี่ก่อนที่เธอจะเมาไปมากกว่านี้
“ลินพี่ว่าเรากลับบ้านกันเถอะ เดี๋ยวพี่ไปส่งนะ ออกมาคนเดียวแบบนี้ป้าไม่เป็นห่วงแย่เหรอ” ชายหนุ่มพูดขณะพยายามแกะมือของเธอออกจากคอของเขา
“ป้าไม่ห่วง ลินบอกป้าว่าจะไปนอนกับเพื่อน พี่ธีร์อยู่กับลินได้ไหม ลินไม่อยากกลับบ้าน”
“งั้นไปที่บ้านพี่ก่อนไหม”
“อือ ไปที่ไหนก็ได้ถ้าไปกับพี่ธีร์”
เมื่อเธอตอบแบบนั้นธีรกฤษไม่รอช้า เขาโอบรอบเอวคอดของนลินนาแน่น แล้วพาเธอเดินฝ่าฝูงชนออกมาจากฟลอร์เต้นรำ โดยมีสายตาของเพื่อนทั้งสองคนมองตามมาด้วยความเข้าใจ
ธีรกฤษไม่ได้บอกอะไรเพื่อนมากนัก เพียงแค่พยักหน้าให้เบาๆ แล้วพาตัวนลินนาออกมาจากบาร์ทันที ธีรกฤษประคองเธอมาที่รถยนต์คันหรู ชายหนุ่มเปิดประตูให้เธอนั่งคาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอ ก่อนที่เขาจะเดินอ้อมไปนั่งที่ฝั่งคนขับ
เมื่อมาถึงบ้านธีรกฤษพยุงร่างที่อ่อนระทวยของนลินนาลงจากรถแล้วอุ้มเธอเดินเข้ามาในบ้านก็เจอกับน้าสมรที่ได้ยินเสียงรถก็เดินออกมาจากห้องนอน เมื่อเห็นนลินนาในสภาพที่แทบจะหมดสติอยู่ในอ้อมแขนของธีรกฤษ เธอก็เข้าใจสถานการณ์ในทันที
“คุณธีร์ให้น้าดูแลหนูลินไหมคะ” น้าสมรถามด้วยความหวังดี
ธีรกฤษมองหน้าน้าสมรเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่เป็นไรครับน้า เดี๋ยวผมจัดการเอง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกว่าต้องการจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง
น้าสมรพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ ก่อนจะเดินกลับเข้าในห้องนอน
ธีรกฤษอุ้มนลินนาขึ้นบันไดไปยังห้องนอนของเขา ไม่ใช่ห้องนอนแขกเหมือนครั้งก่อนและวางร่างของเธอบนเตียงอย่างเบามือ
“ลิน” ธีรกฤษเรียกชื่อเธอเสียงแผ่วเบา
“พี่ธีร์เหรอคะ”
“พี่เอง ทำไมวันนี้ถึงดื่มจนเมาแบบนี้ ถ้าพี่ไม่ไปเจอมันจะเป็นยังไงรู้มั้ย ผู้หญิงออกไปเที่ยวคนเดียวมันอันตรายนะ” เขาพูดด้วยความเป็นห่วง
“พี่ธีร์ห่วงลินเหรอ”
“ห่วงสิ”
“ดีใจจังที่มีคนเป็นห่วงแล้วก็ดีใจด้วยที่เจอพี่ธีร์” หญิงสาวมองหน้าเขาด้วยนัยน์ตาหวานเชื่อม มือเล็กประคองใบหน้าของเขาแล้วยิ้ม
“พี่ก็ดีใจที่เจอลิน ถ้าคนอื่นมาเจอเขาคงพาไปไหนต่อไหน”
“แล้วมันไปไหนล่ะคะ” เธอถามแล้วไล้ปลายนิ้วไปบนใบหน้าหล่อเหลาของเขาอย่างแผ่วเบา
“อย่าถามแบบนี้”
“ทำไม”
“มันเหมือนว่าลินกำลังยั่วพี่”
“แล้วลินยั่วขึ้นไหม”
“พี่ว่าลินเมามากแล้วนะ นอนก่อนดีกว่าเดี๋ยวพี่เช็ดตัวให้นะ”
ธีรกฤษเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กมาชุบน้ำแล้งบิดจนหมาดก่อนจะเช็ดไปยังใบหน้าที่แดงระเรื่อของนลินนาอย่างแผ่วเบา
“อื้อ พี่ธีร์มันเย็น”
“เช็ดหน่อยนะลินจะได้สดชื่นขึ้น” เขาขยับมาให้แล้วเช็ดบนใบหน้าและลำคอระหง
นลินนาจ้องหน้าเขานิ่งมันรู้สึกว่ามีแรงดึงดูดบางอย่างระหว่างคนทั้งสอง ธีรกฤษขยับใบหน้าคมเข้าใกล้ทีละนิด นลินนาก็เหมือนกับถูกมนตร์สะกดเธอไม่ถอยหนีแต่หลับตาลงเมื่อธีรกฤษขยับเข้ามาใกล้
ธีรกฤษพยายามจะหักห้ามใจแต่เขาก็พ่ายแพ้ให้กับความต้องการของตนเองได้ ชายหนุ่มกดริมฝีปากร้อนลงบนริมฝีปากบางที่เคลือบไว้ด้วยลิปสติกสีสวย แค่สัมผัสโดนเพียงนิดนลินนาก็ทำนอนนิ่งเพราะทำตัวไม่ถูก
“พี่ธีร์....อื้อ....”
เธอกำลังจะร้องห้ามแต่ธีรกฤษก็อาศัยจังหวะนั้นกดจูบบดเบียดลงไปอย่างอ่อนโยน จนนลินนาสั่นสะท้านไปกับสัมผัสที่ไม่เคยได้รับมาก่อน
ชายหนุ่มใช้ริมฝีปากขบเม้มเบาๆ จนเธอยอมเผยอริมฝีปาก ให้เขาส่งลิ้นร้อนเข้าไปกวาดต้อนภายในโพรงปากอย่างกระหาย
“อื้ม....”
นลินนาครางประท้วงแต่มันไม่ได้ผลเพราะธีรกฤษยิ่งจูบเร่าร้อนและหนักหน่วงขึ้นเรื่อย ๆ ฝ่ามือเล็กที่พยายามดันตัวเขาออกเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นคล้องไปยังลำคอแกร่งอย่างเผลอไผลตามอารมณ์ที่เขาชักจูง