หนีกลับบ้านเดิม

1327 คำ
นางเดินพล่านภายในห้องอย่างใช้ความคิด ว่าจะกลับออกไปได้อย่างไร หรือทำอย่างไรนางถึงจะตื่นได้ ฝูหลินเดินเข้ามาดึงรั้งตัวนางให้หยุดเดิน พร้อมทั้งจ้องมองนางอย่างโกรธแค้น “บทงิ้วของเจ้าสิ้นสุดแล้วหรือยัง ข้าจะได้กลับไปเข้าหอกับอาหรู” “ไปได้เลย” นางโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ ยามนี้นางต้องการอยู่คนเดียวเพื่อจะคิดทบทวนเรื่องทั้งหมด "หึ มิใช่ว่าเจ้าอยากเรียกร้องให้ข้ามาเข้าหอด้วยรึ ถึงได้สร้างเรื่องเช่นนี้” เขามองที่คอของนางอย่างรังเกียจ “ไม่ ไม่ ฉัน...ข้าไม่ได้อยากให้ท่านมาหา ขอโทษแล้วกัน ท่านกลับไปหาอาหรูของท่านได้เลย” นางดันตัวเขาให้ออกห่าง “ซ่งม่านอวี้!!!” เมื่อเห็นท่าทางที่รังเกียจของนางที่แสดงออกมา ฝูหลินก็หมดความอดทน เขากระชากชุดมงคลของนางออกจนขาดทันที “ว้ายยยย” ม่านอวี้ตกตะลึงไม่น้อย มือของนางฟาดลงไปที่ใบหน้าของฝูหลินเต็มแรงตามสัญชาตญาณ "จะ เจ้า” เขาเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ไม่คิดว่านางจะตบเข้าที่ใบหน้าของเขา “ออกไปจากห้องของข้าเดี๋ยวนี้” นางชี้มือไปที่ประตู แววตาของนางแข็งกร้าวอย่างนึกรังเกียจในการกระทำของเขา “หึ แล้วจะมาว่าข้าใจร้ายที่หลังไม่ได้ก็แล้วกัน” เขาสะบัดชายเสื้อเดินออกไปทันที พร้อมทั้งร้องสั่งให้สาวใช้เฝ้าประตูห้องของม่านอวี้ไว้ ไม่ให้นางไปก่อกวนเขาที่เรือนของจินหรู “บ้าไปแล้ว บ้าไปแล้ว” นางขยี้หัวของตัวเองอย่างหัวเสีย พร้อมทั้งนั่งลงที่เตียงค้นหาความทรงจำเดิมของเจ้าของร่าง ว่าตัวนางจะทำเช่นไรต่อไปดี “หรือว่าต้องนอนต่อ” นางถอดชุดที่หนักอึ้งออก โยนไว้ที่พื้น ก่อนจะดับเทียนแล้วขึ้นไปนอนบนเตียงเพื่อให้ตัวเองหลับจะได้กลับไปที่ภพเดิมของนาง “คุณหนูเจ้าคะ” สาวใช้ข้างกายที่ติดตามมาจากบ้านเดิมของม่านอวี้ เสี่ยวเหยา เดินเข้ามาหานายของตน “เสี่ยวเหยารึ” ม่านอวี้ดีดตัวขึ้นมานั่งอีกครั้ง แล้วมองสาวใช้ที่ร้องไห้อย่างปวดใจอยู่ที่ปลายเตียงของนาง “เจ้าค่ะ คุณหนูท่านเจ็บมากหรือไม่ เหตุใดท่านถึงคิดฆ่าตัวตายได้เล่าเจ้าคะ” “ช่างเถิด เจ้าไปพักได้แล้ว ข้าเองอยากจะพักเช่นกัน” นางไม่อยากจะอธิบายอะไรทั้งนั้น “แต่ว่า...” เสี่ยวเหยากลัวว่าคุณหนูของนางจะฆ่าตัวตายอีกครั้งจึงไม่คิดอยากจะออกไปด้านนอก “ไม่เถิด ข้าไม่ทำเรื่องบ้าๆ แล้ว” นางยิ้มออกมาเพื่อให้เสี่ยวเหยาวางใจ “จริงนะเจ้าคะ หากคุณหนูเป็นอันใดไป บ่าวไม่รู้จะบอกนายท่านกับฮูหยินเช่นใดเจ้าค่ะ” “จริงสิ ข้ายังมีบ้านอยู่ ข้ากลับบ้านดีกว่า เสี่ยวฮวา มาช่วยข้าใส่เสื้อผ้าเร็วเข้า” “คุณหนูท่านจะไปที่ใดเจ้าคะ” เสี่ยวเหยาก็ตกใจเช่นกันกับการเปลี่ยนแปลงไปของม่านอวี้ “กลับบ้าน เอ่อ...กลับจวนตระกูลซ่ง” “ห๊ะ...ได้อย่างไรกันคุณหนู ท่านแต่งเข้าจวนตระกูลหวังแล้วนะเจ้าคะ แล้วยามนี้ก็มืดสนิทแล้ว ท่านจะกลับได้อย่างไร” “กลับได้ เจ้าจำทางกลับได้หรือไม่” “ดะ ได้ เจ้าค่ะ” “เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดแล้ว รีบช่วยข้าเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน” เสี่ยวเหยายอมทำตามที่ม่านอวี้สั่ง เมื่อนางบอกว่าหากให้นางอยู่ภายในจวนตระกูลหวังต่อ นางคงได้ตายแน่ “แล้วจะออกไปได้อย่างไรเจ้าคะ ท่านแม่ทัพสั่งให้บ่าวด้านนอกเฝ้าเรือนของคุณหนูไว้เช่นนี้” “เจ้าไปไล่พวกบ่าวตระกูลหวังออกให้พ้นเรือนของข้า จะได้หาทางออกไปได้” ม่านอวี้นางไม่เสียเวลาคิด ข้าวของที่ซ่งม่านอวี้นำติดตัวมาด้วย ไว้ค่อยให้คนที่ตระกูลซ่งมาขนไป เสี่ยวเหยาที่ไล่คนออกไปหมดแล้ว ก็ย้อนกลับเข้ามาหาคุณหนูของนางอีกครั้ง นางมองคุณหนูด้วยสายตาประหลาด “ไปกันได้แล้ว” “คุณหนูท่านจะทำเช่นนี้จริงหรือเจ้าคะ” คงมีเพียงคุณหนูของนางกระมัง ที่เพียงแต่งออกมาก็หนีกลับจวนเสียแล้ว “จริง เจ้าต้องเชื่อใจข้า ไปกันได้แล้ว” ม่านอวี้คิดจะออกจากตระกูลหวังไปให้ได้ก่อน แล้วค่อยหาหนทางกลับไปที่ภพเดิมของนาง แต่หากกลับไปไม่ได้ นางก็คงหาหนทางใหม่เพื่อให้มีชีวิตอยู่ที่ภพนี้ได้ สองนายบ่าว แอบออกจากจวนตระกูลหวังที่ประตูด้านหลังของจวน ตอนนี้เป็นเวลาดึกไม่น้อยแล้ว และเพิ่งจะมีงานฉลองกันไปบ่าวในจวนจึงได้หละหลวมไม่ได้เดินตรวจตราเข้มงวดเช่นที่ผ่านมา ฝูหลินไปที่เรือนของจินหรู อารมณ์ที่หลากหลายของเขาก็ทำให้ไม่ได้เข้าหอกับจินหรู ทำได้เพียงกอดนางนอนและเอาแต่ครุ่นคิดถึงความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วของม่านอวี้ แต่จะลุกออกไปดูม่านอวี้ที่เรือนก็ไม่อยากไป ด้วยรังเกียจตัวนางที่บังคับให้บิดาไปขอพระราชทานสมรสกับเขา ม่านอวี้กับเสี่ยวเหยาเดินลัดเลาะไปตามทางจนมาถึงจวนตระกูลซ่ง “เปิดประตูเร็วเข้า” เสี่ยวเหยาเดินเข้าไปสั่งบ่าวหน้าประตู โดยมีม่านอวี้หลบอยู่ที่ด้านหลังของนาง “เสี่ยวเหยา เจ้ามาได้อย่างไรแล้วคุณหนูแล้ว เจ้าทิ้งคุณหนูได้อย่างไร” บ่าวหน้าประตูตำหนิเสี่ยวเหยาทันที “ข้าอยู่นี่ รีบเปิดประตูจวนเร็วเข้า” ม่านอวี้ยื่นหน้าออกไปให้บ่าวหน้าประตูเห็น “คะ คุณหนู ท่านกลับมาได้อย่างไรขอรับ” “เอาไว้ค่อยรู้ เปิดให้ข้าก่อน” บ่าวหน้าประตูรีบเปิดประตูจวนอย่างมึนงง ก่อนที่สองนายบ่าวจะรีบหายตัวเข้าไป เสี่ยวเหยาพาคุณหนูของนางไปที่เรือนทันที ด้วยเห็นว่ามืดค่ำมากแล้ว จึงไม่ได้ไปที่เรือนใหญ่เพื่อรบกวนบิดามารดา “เจ้าไปพักเถิด ข้าก็จะพักเช่นกัน” ม่านอวี้ถอนหายใจออกมา ร่างนี้คงไม่เคยเดินทางไกลเช่นนี้มาก่อน นางถึงได้เหนื่อยยิ่งนัก “เจ้าค่ะ” เสี่ยวเหยาช่วยม่านอวี้ล้างหน้าล้างตา ก่อนที่จะกลับไปพัก “ม่านอวี้เอ๋ยยย แล้วต่อไปจะทำเช่นไรดี” นางนอนมองเพดานห้องอย่างปลงตก ม่านอวี้ไม่รู้ว่านางหลับไปตั้งแต่เมื่อใด แต่นางได้เห็นสตรีที่มีใบหน้าเหมือนนางไม่มีผิดเพี้ยน เพียงแต่ใบหน้าของนางเศร้าหมองอย่างน่าสงสาร “คุณ” ม่านอวี้เดินเข้าไปหา “ข้าซ่งม่านอวี้ ข้ายกร่างของข้าให้เจ้า ช่วยมีชีวิตต่อ ทำในสิ่งที่ข้าไม่เคยได้ทำด้วยเถิด” “ไม่ ไม่ ฉันไม่เอา ฉันมีร่างของฉันเหมือนกัน ฉันจะกลับภพของฉัน” “เมื่อเจ้าตายลง คงได้กลับไปภพเดิมของเจ้า” “ห๊ะ…ต้องตายเลยเหรอ” “ในเมื่อเจ้ามีวาสนาได้มาอยู่ในร่างของข้าแล้ว เจ้าช่วยข้าเปลี่ยนแปลงเรื่องโง่เขลาที่ข้าได้กระทำลงไปด้วย” จะเรียกวาสนาได้ไง นางไม่ได้ต้องการวาสนาแบบนี้ “เจ้าก็กลับเข้าร่างสิ เจ้าเปลี่ยนเองเถิด ข้าไม่อยากยุ่ง” ดูท่าจะไม่ง่าย แล้วจะให้นางมาเก็บกวาดสิ่งที่ทำไว้ได้อย่างไร “ข้าไม่มีโอกาสอีกแล้ว ฝากท่านพ่อ ท่านแม่ ท่านพี่ของข้าด้วย ม่านอวี้ขอให้เจ้าโชคดี” “ไม่ ไม่” นางกรีดร้องออกมาอย่างไม่ยอม “คุณหนู เกิดเรื่องแล้วเจ้าค่ะ” เสี่ยวเหยาวิ่งหน้าตื่นเข้ามาในห้อง “อะไรอีก” นางขยี้ผมของตนเองอย่างหงุดหงิด “ท่านแม่ทัพมาเจ้าค่ะ”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม