กีรติกานั่งเครียดอยู่ในห้องรับแขกตอนนี้หญิงสาวกำลังต้องการคุยกับใครสักคนเรื่องนี้และอยากจะขอความช่วยเหลือแต่เธอก็นึกเบอร์โทรศัพท์ของใครไม่ได้เลยสักคน เธอต้องขอโทรศัพท์คืนมาจากวิคเตอร์ให้ได้
หญิงสาวนั่งรอเขาอยู่ที่ห้องรับแขกเพราะป้าภรณ์บอกเจ้านายของเธอจะออกมารับประทานอาหารเย็นในเวลาหนึ่งทุ่ม
ตอนนี้กีรติกากำลังคิดรวบรวมคำพูดที่จะขอโทรศัพท์คืนมาจากวิคเตอร์เพราะดูแล้วมันน่าจะเป็นทางเดียวที่เธอจะติดต่อเพื่อนได้ ส่วนเรื่องจะออกไปจากที่นี่ก็ค่อยหาทางกันอีกที แต่เธอคงไม่ยอมอยู่เฉยๆ แบบนี้แน่ หญิงสาวรอเวลาที่เขาจะออกมาจากห้อง เมื่อได้ยินเสียงเปิดประตูห้องก็รีบลุกขึ้นยืนทันที
“คุณวิคเตอร์คะฉันมีเรื่องจะคุยด้วย” กีรติกายิ้มสู้และคิดว่าถ้าคุยกับเขาดีๆ เขาจะใจอ่อน
“ตอนนี้มันเป็นเวลาอาหารฉันขอกินก่อนมีอะไรค่อยคุยกันทีหลัง”
เขาบอกก่อนเธอก่อนจะเดินไปยังห้องครัว
“แล้วจะต้องให้ฉันเชิญด้วยใช่ไหม” เขาหันมาถามหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอยังยืนอยู่ที่เดิม
กีรติกาถอนหายใจก่อนจะเดินตามเขาเข้าไปในห้องครัว
เมื่อป้าภรณ์ตักข้าวให้กับทั้งสองแล้วก็เดินหายไปจากห้องครัวทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารค่อนข้างจะอึดอัด เธออยากจะถามเขาตอนนี้แต่คิดว่าคงไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่หญิงสาวจึงรับประทานอาหารตรงหน้าอย่างเงียบๆ
“ดูเธอไม่ทุกข์ร้อนเลยนะที่ถูกพามาอยู่ที่นี่” จู่ๆ เขาก็พูดขึ้น
“ทำไมถึงคิดว่าฉันไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยล่ะ”
“ก็ฉันเห็นเธอกินข้าวอย่างสบายใจ ไม่เห็นจะกลุ้มใจหรือกังวลอะไรเลย”
“กังวลก็ส่วนกังวลสิคะ แต่อาหารตรงหน้ามันไม่ได้ผิดอะไรนี่อีกอย่างฝีมือป้าภรณ์ก็อร่อยมากๆ” หญิงสาวพูดจบก็นั่งทานอาหารตรงหน้าโดยไม่สนใจเขา
กลายเป็นวิคเตอร์เองที่รู้สึกหมั่นไส้เพราะคิดว่าเธอจะกระฟัดกระเฟียดไม่ยอมทานอาหารหรืออดอาหารประท้วง
หลังจากทานอาหารเสร็จแล้ววิคเตอร์ก็เดินนำกีรติกามายังห้องรับแขก
“เอาล่ะจะคุยอะไรกับฉันก็รีบคุยฉันมีเวลาไม่มากหรอกนะ มีงานอีกเยอะที่จะต้องทำ” ปกติแล้วกลางคืนวิคเตอร์จะไปดูงานที่โรงแรมและกาสิโนแต่เมื่อตนเองไม่ได้ไปก็มักจะดูความเรียบร้อยผ่านกล้องวงจรปิดและให้ลูกน้องคนสนิทอย่างโรมันและเดนิสไปคุมแทน
“คุณมีงานที่จะต้องทำฉันก็มีงานที่จะต้องทำเหมือนกันนี่คะ แล้วทำไมจะต้องให้ฉันมาอยู่ที่นี่ด้วย”
“ก็บอกแล้วว่าฉันพาเธอมาที่นี่เพราะอะไร”
“แต่มันไม่ยุติธรรมกับฉันเลยนะคะ คนที่ทำให้คุณเสียใจคือพี่กิตไม่ใช่ฉัน”
“แต่เธอคือคู่หมั้นของเขาจะให้ฉันพูดอีกกี่ครั้งฉันก็ยืนยันคำเดิมว่าเธอจะต้องชดใช้กับสิ่งที่คู่หมั้นของเธอทำไว้”
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณจะโกรธแค้นอะไรพี่กิตหนักหนา แต่คุณไม่มีสิทธิ์มาขังฉันไว้ที่นี่”
“จะมีสิทธิ์หรือไม่มีสิทธิ์ตอนนี้เธอก็อยู่ที่บ้านฉันแล้วนี่”
“ฉันจะยอมอยู่ที่นี่กับคุณก็ได้ แต่ขอโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ฉันคืนมาได้ไหมล่ะ”
“เสียใจด้วยนะฉันคงให้สิ่งนั้นกับเธอไม่ได้”
“แต่ฉันอยากติดต่อเพื่อนอยากให้เขารู้ว่าฉันถึงเมืองไทยแล้ว”
“ฉันก็บอกเธอแล้วไงว่าเรื่องนั้นฉันจัดการเรียบร้อยแล้ว แค่นี้ใช่ไหมเรื่องที่เธอจะคุยกับฉัน”
“ฉันอยากรู้ว่านอกจากให้ฉันนั่งดูทีวีอยู่บนบ้านแล้วมีอะไรที่นี่ที่ฉันจะทำได้บ้างเธอ”
“อยากทำอะไรที่นี่ก็ได้ตามสบายยกเว้นออกไปจากที่นี่แค่นั้นแหละ”
“ฉันขอใช้คอมพิวเตอร์ได้ไหม”
“เธอคิดว่าฉันโง่หรือกรีนถ้าฉันให้เธอใช้คอมพิวเตอร์เธอก็ต้องติดต่อให้คนอื่นมาช่วยสิ”
“ที่ฉันอยากได้คอมพิวเตอร์เพราะฉันจะเอามาทำงานออกแบบ แล้วฉันจะเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตจากไหนล่ะหรือบ้านคุณมีสัญญาณ Wi-Fi”
“มีสิเพราะฉันเองก็ต้องใช้ติดต่องานอยู่เหมือนกันแต่อย่าคิดนะว่าฉันจะบอกรหัส Wi-Fi กับเธอ”
“แต่มันมีงานออกแบบที่ฉันรับทำไว้และจะต้องส่งให้กับนายจ้างนะ” หญิงสาวพูดถึงงานออกแบบที่เขารับจ๊อบให้กับบริษัทเล็กๆ แห่งหนึ่งที่อังกฤษระหว่างที่ตนเองกำลังเรียนอยู่
“ถ้าถึงตอนส่งงานจริงๆ ฉันจะเป็นคนส่งงานให้เธอเอง”
“ทำไมมันยุ่งยากจังนะ” หญิงสาวบ่นและมองค้อนเขาอีกครั้ง
“ตกลงจะเอาไหมคอมพิวเตอร์น่ะ” เขาหันมาถาม
“เอาสิ”
“ถ้างั้นก็รออยู่ตรงนี้เดี๋ยวฉันจะให้คนเอามาให้” วิคเตอร์หายเข้าไปในห้องทำงานอยู่นานก่อนที่ประตูหน้าบ้านจะเปิดออกพร้อมกับชาตรีคนขับรถที่เขาเจอเมื่อวันแรก
“นี่คอมพิวเตอร์ของคุณครับคุณกรีน”
“ขอบคุณค่ะ แล้วโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์ของฉันล่ะ”
“ผมเก็บไว้อย่างดีครับถึงเวลาที่คุณไปจากที่นี่ผมจะคืนทุกอย่างให้นะครับ”
“ฉันขอถามอะไรหน่อยสิ”
“อะไรครับ”
“มีคนโทรหาฉันบ้างหรือเปล่า”
“ตั้งแต่ได้โทรศัพท์มาก็ไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ของคุณเลยครับ ผมไม่แน่ใจว่าคุณปิดเสียงโทรศัพท์ไว้หรือเปล่า”
“ใช่ฉันปิดเสียงโทรศัพท์ไว้แต่ก็ช่างเถอะยังไงก็คงไม่มีใครโทรหาฉันอยู่แล้ว” หญิงสาวรับแล็ปท็อปมาจากชาตรีก่อนจะเดินกลับมาที่ห้องรับแขกอีกครั้ง
เธอเปิดแล็ปท็อปและนั่งทำงานต่อขณะที่เปิดทีวีช่องเกี่ยวกับแฟชั่นโชว์ทิ้งไว้และหันไปดูเป็นระยะๆ
งานออกแบบที่กีรติกากำลังทำอยู่นั้นเป็นงานออกแบบชุดเครื่องประดับสำหรับวัยหนุ่มสาวซึ่งเธอรับงานมาจากโรงงานผลิตเครื่องประดับในประเทศอังกฤษ ก่อนหน้านั้นก็ส่งชิ้นงานไปแล้วสองชิ้นตอนนี้เหลือเข็มกลัดติดเสื้ออีกชิ้นที่เธอกำลังออกแบบอยู่นอกจากงานออกแบบที่ทำให้กับโรงงานที่นั่นหญิงสาวยังมีงานออกแบบที่ทำเก็บไว้อีกค่อนข้างมากเพราะคิดว่าถ้าหากก็มาทำงานกับคุณสุธีที่บริษัทแล้ว คงจะมีโอกาสเสนอผลงานของตัวเองให้กับบริษัทบ้าง
หญิงสาวนั่งทำงานเพลินจนเวลาผ่านไปเกือบจะเที่ยงคืน
“เธอนั่งทำงานที่นี่ตั้งแต่หัวค่ำเลยเหรอ” วิคเตอร์ที่ออกมาหาน้ำดื่มตกใจเมื่อเดินออกมาแล้วเห็นกีรติกานั่งอยู่บนพื้นห้องรับแขกขณะที่ตากำลังจองแล็ปท็อปตรงหน้า
“ใช่ค่ะ” หญิงสาวหันไปตอบแต่ตาก็ยังจ้องอยู่ที่จอเหมือนเดิม
“ถ้าจะต้องทำงานบนพื้นแบบนี้ฉันว่าเธอไปใช้โต๊ะทำงานในห้องฉันก็ได้นะเพราะมันยังมีว่างอีกโต๊ะหนึ่ง”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ งานฉันต้องใช้จินตนาการและอารมณ์ในการทำให้นั่งร่วมห้องกับคุณงานของฉันคงไม่เดินแน่ๆ”
“พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง”
“ก็หมายความตามที่พูดนี่คะ คุณจะให้ฉันนั่งมองหน้าคุณไปด้วยทำงานไปด้วยเหรอคะ งานของฉันต้องเป็นงานศิลปะต้องใช้อารมณ์ในการสร้างสรรค์ผลงานคงไม่ดีเท่าไหร่มั้งคะ”
“ถ้างั้นก็ตามใจ” พูดจบเขาก็ไปกินน้ำก่อนจะกลับห้องตัวเอง