กีรติกาเดินเล่นอยู่ไม่นานก็กลับขึ้นมาบนบ้านเพราะรู้สึกว่าไม่อิสระเลยที่มีคนคอยเดินตามตลอด หญิงสาวกลับขึ้นมาด้านบนบ้านและเข้าไปในห้องจากนั้นอาบน้ำก่อนจะหยิบชุดที่อยู่ในตู้มาสวม
เธอต้องแปลกใจมากๆ เพราะนอกจากจะมีชุดที่เธอนำกลับมาจากอังกฤษแล้วในนั้นยังมีชุดผู้หญิงอยู่อีกหลายชุด แต่เธอก็เลือกที่จะหยิบชุดของตัวเองมาสวมก่อนจะเดินออกมาจากห้องและนั่งดูทีวีบริเวณห้องรับแขกเพื่อฆ่าเวลา ปกติแล้วหญิงสาวไม่ค่อยดูทีวีเท่าไหร่เวลาส่วนใหญ่มักจะหมดไปกับการเล่นโทรศัพท์มือถือมากกว่า แต่เมื่อไม่มีโทรศัพท์มือถือความบันเทิงที่เธอจะหาได้ในตอนนี้ก็คือการดูทีวีนั่นเอง
“เย็นนี้คุณกรีนอยากกินอะไรคะ เดี๋ยวป้าจะทำให้”
“กินอาหารเดิมก็ได้ค่ะป้าภรณ์ป้าจะได้ไม่ต้องเหนื่อย”
“ไม่เหนื่อยอะไรเลยป้ามีหน้าที่ดูแลคุณกรีนอยู่แล้ว”
“ป้าคะแล้วเมื่อไหร่เจ้านายป้าจะมาเปิดสักทีล่ะคะ กรีนเบื่อที่จะต้องอยู่เฉยๆ แบบนี้แล้วนะคะ”
“เดี๋ยวก็คงมาค่ะ”
“กรีนเห็นมีเสื้อผ้า ผู้หญิงอยู่ในตู้เยอะเลยของใครเหรอคะ”
“ก็ของคุณกรีนนั่นแหละค่ะเจ้านายเขาเตรียมไว้ให้”
“ทำไมเขาจะต้องเตรียมเสื้อผ้าพวกนั้นไว้ให้กรีนด้วย”
“อันนี้ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันนะ คุณกรีนต้องรอถามเจ้านายดู”
“เจ้านายของป้าเขาชื่ออะไรอายุเท่าไหร่เป็นใครทำงานอะไรคะ” หญิงสาวถามเพราะอยากจะรู้ข้อมูลเบื้องต้น
“เจ้านายป้าชื่อคุณวิคเตอร์ค่ะเป็นลูกครึ่งไทยรัสเซีย”
หญิงสาวไม่เคยรู้จักผู้ชายคนนี้มาก่อนคิ้วสวยขมวดเข้าหากันพยายามนึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออก
“มีรูปเขาไหมคะ”
“ไม่มีเลยค่ะคุณวิคเตอร์ไม่ชอบให้ใครถ่ายรูป”
“อยากจะเห็นหน้าฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอ” เสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งดังมากด้านหน้าประตูทำให้ผู้หญิงทั้งสองคนที่กำลังคุยกันอยู่หันไปมองกีรติกาลุกขึ้นและเดินตรงไปหาเขาทันที
“สวัสดีค่ะคุณวิคเตอร์”
“สวัสดีกรีน” ชายหนุ่มทักทาย
“สวัสดีค่ะคุณวิคเตอร์” ป้าภรณ์สวัสดีเจ้านายก่อนจะเดินไปรับกระเป๋าใบเล็กของเขาเอาไปเก็บไว้ในห้องทำงาน
“เธอคงสงสัยใช่ไหมล่ะว่าทำไมฉันถึงพาเธอมาอยู่ที่นี่” ชายหนุ่มมองหน้ากีรติกาจากนั้นก็เดินมานั่งลงบนโซฟากลางห้อง
หญิงสาวรีบเดินเข้ามานั่งเธอกดรีโมทปิดทีวีเพราะอยากจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องโดยไม่มีอะไรรบกวน
“ใช่ค่ะ ฉันอยากจะรู้ว่าคุณพาฉันมาอยู่ที่นี่ทำไม ฉันว่าฉันไม่เคยรู้จักคุณมาก่อน”
“แต่ฉันรู้จักเธอดีเลยนะ เธอชื่อกีรติกาเพิ่งเรียนจบการออกแบบเครื่องประดับมาจากอังกฤษและมีคู่หมั้นชื่อกิตติเดช พ่อของเธอติดการพนันอย่างหนักและฆ่าตัวตายไปเมื่อสองปีก่อนทำให้พ่อของกิตติเดชส่งเสียเธอเรียนต่อจนจบใช่มั้ยล่ะ”
ข้อมูลที่เขาพูดมันเป็นความจริงทุกอย่างแต่เธอก็ไม่ได้สนใจเพราะสิ่งที่เธอสนใจก็คือเหตุผลอะไรที่เขาพาเธอมาอยู่ที่นี่
“เรื่องพวกนั้นใครๆ ก็รู้ค่ะแต่ที่ฉันอยากจะรู้ก็คือทำไมคุณจะต้องพาฉันมาอยู่ที่นี่ด้วย”
“ที่ฉันพาเธอมาที่นี่ก็เพราะเธอเป็นคู่หมั้นของกิตติเดชน่ะสิ”
“เขาให้คุณพาฉันมาอยู่ที่นี่ใช่ไหม”
“เปล่าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกลับมาเมืองไทย”
“เขาไม่รู้ก็ไม่แปลกเพราะฉันไม่ได้บอกใครว่าฉันจะกลับมา”
“มันก็ดีแล้วนะที่เธอไม่ได้บอกใครเพราะการหายตัวไปของเธอจะได้ไม่มีคนสงสัยมาก”
“แต่ถึงคนที่นี่ไม่รู้เพื่อนฉันที่อังกฤษก็ต้องตามหาตัวฉันถ้าหากฉันขาดการติดต่อไป ทางที่ดีคุณพาฉันกลับไปส่งที่กรุงเทพเถอะ”
“เรื่องเพื่อนของเธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเราจัดการเรียบร้อยแล้วอย่างน้อยหนึ่งเดือนจากนี้ก็ไม่มีใครตามหาเธอแน่ๆ”
“คุณคงไม่ได้หมายความว่าจะให้ฉันอยู่ที่นี่กับคุณนานเป็นเดือนหรอกนะ ฉันมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบจะต้องรีบกลับไปทำงาน”
“เธอคิดว่ามาที่นี่แล้วจะกลับออกไปง่ายๆ เหรอไม่มีทางเสียล่ะ”
“นี่มันเรื่องอะไรกันคะคุณวิคเตอร์ฉันกับคุณไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแล้วคุณจะพาฉันมาอยู่ที่นี่ทำไมคุณท่าจะบ้าไปแล้ว”
“ฉันจะบอกเหตุผลก็ได้ว่าทำไมฉันถึงพาฉันมาอยู่ที่นี่”
“แล้วเพราะอะไรกันล่ะ”
“เพราะฉันจะทำให้กิตติเดชมันเจ็บอย่างที่ฉันเจ็บ”
“คุณมีความแค้นกับพี่กิตแล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะ ฉันก็เป็นแค่คู่หมั้นของเขานะ”
“ก็เพราะเธอเป็นคู่หมั้นของเขาไงล่ะ ฉันจะทำให้มันเสียใจอย่างหนักในวันที่เธอกลับไปหามันพร้อมกับลูกในท้อง”
“จะบ้าไปแล้วหรือไงคุณ” กีรติกาพอจะเข้าใจความหมายของวิคเตอร์เธอถอยกรูดจนติดโซฟาอีกด้าน ใบหน้าหล่อของเขายามนี้มันดูน่ากลัวมากๆ แววตาที่เขามองเธอเหมือนมีความแค้นและความเจ็บปวดฝังอยู่
“ไม่บ้าหรอกคู่หมั้นของเธอทำให้น้องสาวของฉันท้องและทิ้งไปอย่างไม่ไยดีเพราะฉะนั้นฉันก็จะทำแบบเดียวกันกับคู่หมั้นของมันไงล่ะ”
“ต่อให้คุณทำฉันท้องหรือทำให้ฉันตายพี่กิตเขาก็ไม่มาสนใจหรือเสียใจหรอกเพราะฉันกับเขาไม่ได้รักใคร่อะไรกันเลยที่เราหมั้นกันก็เพราะผู้ใหญ่เห็นสมควรเท่านั้นฉันว่าคุณจะเสียเวลาเปล่านะ”
“อย่าพยายามเบี่ยงประเด็นเลยฉันรู้ว่าตอนนี้ครอบครัวของมันกำลังเตรียมจัดงานแต่งงานหลังจากที่เธอเรียนจบ มันคงดีไม่น้อยถ้าฉันจะส่งเธอกลับไปพร้อมกับท้องที่มันโตขึ้นเรื่อยๆ” เขาพูดจบก็หัวเราะก่อนจะเดินหายเข้าไปในห้องห้องหนึ่งซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องที่เธอนอนเมื่อคืน
กีรติกามองตามแผ่นหลังของเขาดูสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวเธอจะต้องหาทางพูดกับเขาให้เขาเปลี่ยนใจและเรื่องแก้แค้นเธอให้ได้เพราะเธอกับกิตติเดชไม่ได้รักกันมากขนาดที่เขาจะต้องมาเสียใจหากเกิดอะไรขึ้น
“ป้าภรณ์คะ” หญิงสาวเดินมาหาป้าภรณ์ที่กำลังง่วนกับการทำอาหารอยู่ในครัว
“มีอะไรคะคุณกรีน นึกออกหรือยังว่าเย็นนี้จะกินอะไร”
“กินอะไรก็ได้ค่ะ แต่มีเรื่องจะถามป้าภรณ์นิดหนึ่ง”
“ถามอะไรคะ”
“คุณวิคเตอร์เขามีน้องสาวใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ”
“มันเกิดอะไรขึ้นกับน้องสาวของเขาค่ะ”
“แล้วคุณวิคเตอร์เขาบอกคุณกรีนว่ายังไงล่ะ”
“เขาบอกแค่ว่าคู่หมั้นของกรีนทำให้น้องสาวเขาเสียใจแต่กรีนก็ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะกรีนกับคู่หมั้นไม่ได้สนิทกันเลย เราก็แค่หมั้นหมายตามที่ผู้ใหญ่เคยคุยกันไว้”
“เรื่องนี้ป้าก็พูดไม่ได้เพราะมันเป็นความลับของเจ้านายค่ะ วันนี้คุณวิคเตอร์เขาเดินทางมาเหนื่อยๆ ก็อาจจะยังไม่ตอบคำถามของคุณกรีนแต่ป้าเชื่อว่าถ้าคุณกรีนลองถามเขาในวันที่เขาอารมณ์ดีกว่านี้เขาอาจจะตอบคำถามคุณกรีนก็ได้นะคะ”
“คุณวิคเตอร์ของป้าเขาเคยอารมณ์ดีด้วยเหรอคะ กรีนนึกไม่ออกเลย” หญิงสาวส่ายศีรษะก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่ห้องรับแขกอีกครั้ง