หลังจากเดินเล่นรอบบริเวณบ้านและชายหาดฝั่งที่มีท่าเรือเล็กๆ แล้วกีรติกาก็เดินกลับขึ้นมาบนห้องรอรับประทานอาหารค่ำพร้อมวิคเตอร์ หญิงสาวอยากจะถามเขาอีกครั้งเผื่อเขาจะเปลี่ยนใจแต่ดูท่าทางสีหน้าของชายหนุ่มเหมือนจะเครียดกับอะไรสักอย่างเธอก็เลยนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ
“วันนี้เต้พาเธอไปที่ไหนบ้าง”
“ก็เดินเล่นรอบๆ บ้านค่ะ ฉันอยากจะไปดูหมู่บ้านชาวประมงแต่เขาไม่พาฉันไปเขาบอกว่าที่นั่นมันอันตราย”
“มันก็อันตรายอย่างที่เต้ว่านั่นแหละผู้หญิงสวยๆ อย่างเธออย่าเข้าไปใกล้แถวนั้นเลย เต้คงเล่าให้เธอฟังแล้วใช่ไหมว่ามีนักท่องเที่ยวเคยถูกคนแถวนั้นข่มขืน”
“ใช่เขาเล่าให้ฉันฟังแล้ว แต่มันเรื่องจริงหรือแค่ขู่ไม่ให้ฉันไปกันแน่ล่ะ”
“เรื่องจริงสิถ้าเธออยากจะไปที่นั่นจริงๆ ก็บอกฉันล่วงหน้า”
“ทำไมต้องบอกล่วงหน้าล่ะ”
“ฉันจะได้พาคนของฉันมาเพิ่มไงล่ะ เพราะถ้าไปกันตามลำพังสองสามคนฉันก็สู้พวกนั้นไม่ไหวหรอกนะ ชายฉกรรจ์พวกนั้นทั้งแข็งแรงและมีกันหลายคน”
“คุณทำเหมือนกับว่าที่นั่นเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนเลยนะ”
“มันก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกแต่พวกเขาไม่ใช่คนไทยทั้งหมดหรอก มันเลยยากที่จะพูดคุยกันน่ะ”
“ไม่ใช่คนไทยเหรอคะ แล้วเกาะที่เราอยู่ตรงนี้ชื่อเกาะอะไรอยู่ส่วนไหนของประเทศไทยเหรอ”
“ชื่อเกาะที่นี่ไม่มีหรอกแต่มันอยู่ทางใต้และไม่ได้อยู่ในเขตประเทศไทย”
“ฉันว่าฉันมาอยู่ที่นี่ฉันจะเป็นภาระคุณเปล่าๆ นะถ้าคุณกลับขึ้นฝั่งครั้งหน้าฉันขอไปด้วยได้ไหมล่ะ”
เพราะเห็นว่าเขาออกไปจากเกาะก็คิดว่าน่าจะกลับไปขึ้นฝั่งที่ประเทศไทยเธอจึงพูดกับเขาดีๆ เผื่อเขาจะเปลี่ยนใจ
“เธอคิดว่าเรื่องที่ฉันคุยกับเธอเมื่อวานฉันพูดเล่นหรือไงกรีน ฉันก็บอกแล้วไม่ว่าฉันจะทำอะไรกับเธอก่อนจะส่งเธอกลับ”
“แต่ฉันมองไม่เห็นประโยชน์อะไรที่คุณจะได้เลยนะ อย่างมากก็ได้แค่ความสะใจฉันมาอยู่ที่นี่เป็นภาระคุณนะกินข้าวฟรีทั้งสามมื้อเลย”
“แค่นี้ฉันไม่ได้ลำบากอะไรหรอกและที่ฉันออกไปจากเกาะฉันไม่ได้ขึ้นฝั่งที่ประเทศไทยหรอกฉันไปอีกเกาะหนึ่งซึ่งไม่ได้อยู่ในเขตประเทศไทยเหมือนกัน”
“คุณทำงานอะไรเหรอคุณวิคเตอร์”
“เธออยากจะรู้ไปทำไมล่ะ”
“ดูเหมือนงานของคุณเป็นงานไม่ถูกต้องตามกฎหมายสินะ ถึงต้องทำบนเกาะนอกฝั่ง”
“เธอก็ฉลาดดีนี่ ฉันเป็นคนเทาๆ อาจจะค่อนไปทางดำเพราะฉะนั้นฉันว่าเธออยู่เฉยๆ ดีกว่านะอย่าพยายามที่จะออกไปจากที่นี่เลย ไม่มีใครฝ่าฝืนคำสั่งของฉันและหนีไปจากที่นี่ได้ถ้าฉันไม่อนุญาต เอาล่ะกินข้าวเสร็จแล้วฉันขอตัวไปทำงานก่อน เธอจะนั่งทำงานในห้องรับแขกเหมือนเมื่อคืนหรือเปล่า”
“ค่ะ”
“อยากได้โต๊ะทำงานเพิ่มไหมเอาไปตั้งในห้องนอนก็ได้นะถ้าไม่อยากนั่งทำงานกับฉันในห้อง”
“ไม่เป็นไรค่ะฉันไม่ชอบทำการในห้องนอนเพราะเห็นเตียงแล้วมันง่วง”
“เหมือนฉันเลยนะ”
“คุณก็ง่วงเหรอเวลาเห็นเตียง”
“เปล่าเวลาฉันเห็นเตียงทีไรฉันก็นึกถึงกิจกรรมบนเตียงทุกทีแต่อย่าเพิ่งกลัวไปเลยเพราะฉันยังไม่มีอารมณ์จะทำอะไรกับเธอตอนนี้หรอกรอให้ฉันเคลียร์งานทุกอย่างเรียบร้อยเถอะ”
“คุณคิดว่าฉันกลัวเหรอ” กีรติกาถามหน้านิ่งเพราะไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกำลังกลัวเขาและตอนนี้เธอก็กำลังคิดหาทางจะไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ ฉันว่าเธอเตรียมรับมือฉันไว้ดีๆ ก็แล้วกัน”
“คุณไม่ต้องมาขู่ฉันหรอกนะ”
“ฉันไม่ได้ขู่คนอย่างฉันพูดจริงทำจริงและอย่าคิดจะท้าทายฉันเพราะถึงวันนั้นขึ้นมาเธออาจจะไม่มีแรงแม้กระทั่งลุกจากเตียงเลยก็ได้” ชายหนุ่มพูดกับเธอก่อนจะยิ้มที่มุมปากจากนั้นก็เดินหายเข้าไปในห้องทำงาน
กีรติกาเขาไปอาบน้ำแต่งตัวและกำลังลังเลอยู่ว่าจะออกมานั่งทำงานที่ห้องรับแขกไหมแต่ถ้าอยู่ในห้องก็เป็นอะไรที่น่าเบื่อมากเพราะห้องของเธอไม่มีทีวี อย่างน้อยการออกมาที่ห้องรับแขกก็ยังจะได้ดูทีวีฆ่าเวลาหญิงสาวออกมานั่งที่ห้องรับแขกเหมือนเดิม
เธอเปิดทีวีเป็นเพื่อนจากนั้นก็เริ่มทำงานส่วนที่เหลือซึ่งอีกเพียงนิดเดียวก็จะเสร็จเธอใช้เวลาไม่นานนักแบบเข็มกลัดออกแบบไว้แบบแรกก็เสร็จและคิดว่าจะส่งให้นายจ้างจึงจะเดินมาขอรหัสWifi กับวิคเตอร์ตามที่เขาพูดไว้เมื่อวาน เมื่อเดินมาก็เห็นว่าประตูห้องทำงานของเขาไม่ได้ปิดเธอจึงได้เสียงเขาดังออกมาหน้าห้อง
“เตรียมเรือให้พร้อมฉันขออาบน้ำก่อนอีก 10 นาทีจะไปที่เรือ” วิคเตอร์พูดจากนั้นก็ลุกขึ้นและกำลังจะเดินออกจากห้อง
กีรติกาเห็นแบบนั้นก็เลยรีบหลบเข้าห้องไปตัวเองไปอย่างรวดเร็วเขากำลังจะออกไปไหนในเวลาดึกแบบนี้แหละถ้าเธอแอบตามเขาไปบางทีก็อาจจะหนีออกไปจากที่นี่ได้ หญิงสาวรีบ เปลี่ยนชุดให้ทะมัดทะแมงขึ้นจากนั้นรีบลงไปหน้าบ้านและโชคดีเหลือเกินที่ผู้ชายที่นายเต้ไม่ได้เฝ้าอยู่ เพราะเวลาดึกแบบนี้คงคิดว่าเธอไม่กล้าหนีไปไหน
เธอเดินลัดเลาะไปตามชายหาดเห็นคนขับเรือที่ชื่อชาตรีเดินออกมาจากเรือไปสูบบุหรี่อยู่มุมหนึ่งเธออาศัยจังหวะเขาเผลอขึ้นไปบนเรือและซ่อนตัวอยู่แถวหลังสุด
เรือของวิคเตอร์เป็นเรือไม่ได้ใหญ่มากเธอหลบอยู่หลังแกลลอนน้ำมันสองแกลลอนและภาวนาว่าเมื่อขึ้นเรือวิคเตอร์กับคนขับเรือจะมองไม่เห็น
กีรติกาคิดว่าถ้าตามเขาไปถึงอีกฝั่งหนึ่งเธอจะรอให้เขาลงจากเรือไปก่อนจากนั้นก็ไปขอความช่วยเหลือจากคนแถวนั้น ซึ่งคิดว่ามันคงเป็นเรื่องไม่ยากเท่าไหร่ เธอไม่รู้ว่าเขาจะไปที่ไหนไหนแต่ก็คิดว่ามันน่าจะมีคนที่พอจะให้ความช่วยเหลือเธอได้บ้าง
ใจเธอเต้นแรงเมื่อได้ยินเสียงวิคเตอร์กับชาตรีเดินคุยกันมาทั้งสองไม่ได้สนใจว่าด้านหลังเรือจะมีใครซ่อนอยู่หญิงสาวถอนหายใจเบาๆ เมื่อวิคเตอร์เดินไปบริเวณหัวเรือ จากนั้นเรือของวิคเตอร์ก็ค่อยๆ ออกจากเกาะกีรติกาหันไปมองทางด้านหลังแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงอิสรภาพที่รออยู่
เรือแล่นออกจากเกาะมาได้ประมาณครึ่งชั่วโมงก็จอดยังท่าเรือแห่งหนึ่งเธอยังไม่ลงจากเรือและรอจนกระทั่งวิคเตอร์กับชาตรีขึ้นฝั่งไปก่อนจากนั้นหญิงสาวจึงออกมาจากที่ซ่อนและกำลังเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ซึ่งประจำอยู่บนท่าเรือ