“ขอโทษนะคะที่นี่ไหนคะ” เธอถามคนที่นั่งอยู่บนท่าเรือ
“คุณมาที่นี่โดยไม่รู้ว่าคือที่ไหนเหรอ”
“ฉันถูกผู้ชายคนหนึ่งจับตัวมาและตอนนี้ฉันก็กำลังจะหาทางกลับบ้านของฉัน”
“บ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“บ้านฉันอยู่ประเทศไทยค่ะ ที่นี่ห่างจากประเทศไทยนานไหม”
“ที่นี่เป็นเกาะนอกเขตประเทศไทยถ้าจะเดินทางจากที่นี่ก็ต้องนั่งเรือไปอีกประมาณเกือบสองชั่วโมง”
“คุณช่วยหาหรือจ้างให้ฉันหน่อยได้ไหมฉันอยากกลับประเทศไทย”
“ได้สิว่าแต่คุณชื่ออะไรล่ะ” นายท่าเรือมองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยิ้มเพราะดูเหมือนหญิงสาวคนนี้จะไม่รู้อะไรเลยรูปร่างและหน้าตาแบบนี้ถ้าเขาพาเธอไปขายให้กับเสี่ยกระเป๋าหนักก็คงได้หลายบาทอยู่
“ฉันชื่อกรีน”
“ผมขอดูบัตรประชาชนของคุณหน่อยได้ไหม ถ้าเกิดคุณเป็นคนร้ายปลอมตัวมาหรือมีคดีมาผมก็คงจะลำบากถ้าให้การช่วยเหลือคุณ”
“ฉันถูกเขาจับตัวมากเพราะฉะนั้นฉันไม่มีบัตรประชาชนหรอก”
“แล้วเงินค่าจ้างล่ะจะให้เท่าไหร่”
“ถ้าถึงฝั่งแล้วฉันจะให้คุณ”
“ตลกแล้วคุณ” เขาหัวเราะเบาๆ จากนั้นก็เรียกชายฉกรรจ์อีกหลายให้ออกมาจับแขนของหญิงสาวไว้
“นี่พวกคุณจะพาฉันไปไหน”
“ฉันว่าเธอต้องเป็นสายของตำรวจที่ขึ้นมาหาข่าวที่นี่แน่ๆ จับเธอไปขังไว้ก่อนพรุ่งนี้เช้าค่อยให้เจ้านายมาจัดการอีกที”
“ไม่ได้นะพวกนายจะจับฉันไปไหนไม่ได้ทั้งนั้น”
“นี่มันที่ของพวกเราเพราะฉะนั้นเธอไม่มีสิทธิ์มาออกคำสั่งหรอกนะ” หญิงสาวพยายามร้องตะโกนขอให้นักท่องเที่ยวที่อยู่บริเวณนั้นช่วยแต่มันก็ช้าเกินไปเมื่อชายฉกรรจ์เอามือปิดปากเธอและลากเธอเข้าไปยังด้านหลัง
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยเดี๋ยวนี้” หญิงสาวทั้งดิ้นทั้งตะโกนเมื่อชายฉกรรจ์เหล่านั้นพาเธอเข้ามาในห้องห้องหนึ่งซึ่งทั้งเล็กและแคบกลิ่นอับปะทะจมูกจนรู้สึกเวียนหัว
“ฉันจะปล่อยเธอแน่แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอกนะ คืนนี้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวค่อนข้างเยอะถ้าปล่อยเธอไปก็คงจะสร้างความวุ่นวายไม่น้อยเลยทีเดียว” หนึ่งในชายเหล่านั้นพูดขึ้น
“ฉันไม่ใช่สายตำรวจอย่างที่พวกนายคิดหรอกนะ”
“ถ้างั้นก็บอกมาสิว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เธอไม่มีบัตรอะไรแสดงตัวตนเลยแล้วฉันจะไว้ใจเธอได้ยังไง”
“แต่นายจะขังฉันไว้แบบนี้ไม่ได้นะ”
“ที่นี่มันเป็นถิ่นของฉัน ฉันจะทำอะไรกับเธอก็ได้หน้าตาสวยๆ หุ่นดีๆ อย่างเธอถ้าเอาไปขายก็คงได้หลายบาทอยู่นะ”
“อย่านะนายไม่มีสิทธิ์ขายฉันให้ใครทั้งนั้น”
“คำก็ไม่มีสิทธิ์สองคำก็ไม่มีสิทธิ์ฉันอยากจะรู้จริงๆ ว่าใครมันจะมีสิทธิ์ในตัวเธอนะ”
“จริงสิฉันลืมบอกอะไรพวกนายไปอย่างหนึ่ง”
“จะบอกอะไรล่ะ”
“ฉันไม่ได้มาที่นี่คนเดียวหรอกนะ”
“เธอหมายถึงพาพวกของเธอมาด้วยใช่ไหมแล้วตอนนี้พวกของเธออยู่ที่ไหน”
“ฉันไม่ได้มากับพวกแต่ฉันมากับคุณวิคเตอร์พวกนายรู้จักเขาใช่ไหม”
“อย่ามาโกหกหน่อยเลยใคร ก็อ้างแบบนั้นตลอดแหละว่าเป็นคนของคุณวิคเตอร์” เขาหัวเราะเพราะมักมีคนแอบอ้างว่ารู้จักกับคุณวิตเตอร์อยู่บ่อยๆ
“จริงๆ นะฉันมากับคุณวิคเตอร์จริงๆ ไม่เชื่อพวกนายลองโทรถามคุณวิคเตอร์สิว่ารู้จักฉันไหม ฉันอยู่กับเขาที่เกาะและฉันก็ตามเขามาที่นี่เพราะคิดว่าเขาจะออกมาหาผู้หญิงคนอื่น ฉันพูดจริงๆ นะ” กีรติกาพยายามปั้นเรื่องเพื่อให้ตัวเองรอด
“ทำไมฉันจะต้องเชื่อเธอด้วยล่ะ” ชายคนหนึ่งถามขึ้น
“พวกนายจะไม่เชื่อสิ่งที่ฉันพูดก็ได้แต่ถ้าคุณวิคเตอร์รู้ว่าพวกนายจับฉันมาแบบนี้ ฉันก็ไม่รู้นะว่าหลังจากนั้นมันจะเกิดอะไรขึ้น” เธอพอจะมองออกแล้วว่าผู้ชายพรุ่งนี้รู้จักวิคเตอร์เผลอๆ อาจจะเป็นลูกน้องของเขา และถ้าให้เธอเลือกเธอยอมจะกลับไปอยู่เกาะกับวิคเตอร์ดีกว่าถูกชายพวกนี้พาไปขาย หญิงสาวทำใจดีสู้เสือพยายามต่อรองและคิดว่าชื่อของวิคเตอร์จะช่วยเธอได้
“ฉันว่าเธอกำลังโกหก”
“ถ้าไม่เชื่อก็โทรถามแล้วจะรู้ไหมล่ะว่าที่ฉันพูดเป็นเรื่องจริงจะมัวช้าอะไรอยู่ โทรถามคุณวิคเตอร์หรือคุณชาตรีก็ได้เพราะเมื่อกี้ฉันนั่งเรือมากับเขา”
“ถ้านั่งเรือมากับคุณวิคเตอร์ ทำไมถึงขึ้นเรือมาทีหลังเขาล่ะ”
“ฉันรู้นี่ว่าเขารีบไปทำงาน”
“แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ขึ้นมาทีแรกว่ารู้จักคุณวิคเตอร์ จะบอกทำไมว่าถูกผู้ชายคนหนึ่งจับตัวมา คำพูดของเธอมันไม่มีอะไรน่าเชื่อได้เลยสักนิด”
“พวกนายจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่นะ แต่มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยเหรอถ้าหากว่าคุณวิคเตอร์มารู้เรื่องนี้ทีหลัง ฉันเห็นนะว่าบริเวณท่าเรือมีกล้องวงจรปิดอยู่ถ้าคุณวิคเตอร์เขารู้ว่าฉันหายไปตรงไหนคนที่ซวยก็น่าจะเป็นพวกนาย” กีรติกาคิดว่าตอนนี้ตัวเองถือไพ่เหนือกว่ากลัวเธอลุกขึ้นยืนและกอดอกปะทะคารมกับผู้ชายตรงหน้าตอนนี้เธอต้องทำทุกวิถีทางให้พวกมันติดต่อไปหาวิคเตอร์
“เอายังไงกันดี”
“มึงลองโทรถามคุณชาตรีดูสิว่าคุณวิเตอร์รู้จักผู้หญิงคนนี้หรือเปล่า”
ชายคนหนึ่งเดินออกไปจากห้องและหายไปไม่นานก็กลับเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูตื่นตระหนก
“คุณวิคเตอร์บอกว่าให้พาเธอไปส่งที่โรงแรม พวกเราขอโทษด้วยเราไม่รู้จริงๆ ว่าคุณมากับคุณวิคเตอร์”
“เอาล่ะ ฉันยกโทษให้พวกนายก็ได้ แต่นายช่วยพาฉันไปหาเขาเดี๋ยวนี้” หญิงออกคำสั่ง
ชายฉกรรจ์รีบเปิดประตูให้เธอออกมาจากห้องจากนั้นพาเธอนั่งรถไปยังโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งดูครึกครื้นมากกว่าจะเป็นโรงแรมปกติ
“ที่นี่มีกาสิโนด้วยเหรอ”
“ใช่ครับ ที่นี่มีทั้งโรงแรมและกาสิโน”
“แล้วเป็นของคุณวิคเตอร์ทั้งหมดเลยหรือเปล่า ฉันรู้ว่าเขามาทำธุรกิจที่นี่แต่ยังไม่เคยมาสักที”
“เปล่าหรอก มีหลายคนที่เป็นเจ้าของที่นี่แต่โรงแรมของคุณวิคเตอร์ใหญ่สุดแล้วมีคนมาใช้บริการมากที่สุด เดี๋ยวผมจะพาคุณขึ้นไปรอเขาบนห้อง”
“ไม่เป็นไรมาส่งฉันแค่ที่นี่ก็พอฉันว่าจะโดนดูกิจการเขาหน่อยเผื่อจะเจอว่าเขาพาผู้หญิงคนอื่นมาแอบซ่อนไว้ที่นี่หรือเปล่า”
เธอสวมรอยเป็นเมียหลวงตามจับผิดเมียน้อยเมียน้อยเพื่อให้คนพวกนี้ตายใจและคิดว่าระหว่างนี้จะแอบกระซิบกับนักท่องเที่ยวคนใดคนหนึ่งให้ช่วยพาเธอออกไปจากที่นี่
“คุณวิคเตอร์ไม่เคยพาผู้หญิงคนไหนมาที่นี่พวกผมก็เลยไม่เชื่อตอนที่คุณบอก”
“ไม่ใช่ว่าพวกนายช่วยเขาปกปิดความลับหรอกนะ”
“พวกเราจะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะครับคุณผู้หญิง” สรรพนามที่ใช้เรียกกีรติกาเปลี่ยนไปเพราะรู้แล้วว่าเธอเป็นคนของวิคเตอร์
“เอาล่ะจากนี้ฉันขอสั่งพวกนายหน่อยนะ คอยจับตาดูคุณวิคเตอร์ดีๆ ถ้าเขาพาผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่ก็ให้โทรไปแจ้งฉันที่บ้าน”
“ได้ครับคุณผู้หญิง” ชายฉกรรจ์รับปากก่อนจะเปิดประตูรถให้หญิงสาวเดินเข้ามาในกาสิโน