ตอนที่ 20
คนข้างกาย
“ได้ขนมมาเยอะแยะเลยค่ะ วันหลังเรามากันอีกนะคะ”
รัชชา เหมือนจะลิงโลดยิ่งกว่าใคร ทันที่ๆเอากล่องขนมมากมายมาอวด ขณะที่มะลิ เบี่ยงหลบสายตาคมเข้มของคนตัวใหญ่ที่แอบอมยิ้มมาตลอดทาง ตั้งแต่ออกจากบูมบูมคาเฟ่จนมาถึงตึกโชติวัฒน์
เขาทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เธออายคนของเขาจนแทบจะแทรกแผ่นดินหนี
“ตอนนี้เชิดชัยอยู่ชั้น5แล้วนะแต่น่าจะกำลังพักผ่อนอยู่ ถ้าอยากลงไปเยี่ยมไว้เป็นพรุ่งนี้ก็ได้ ไม่ต้องห่วงมีทีมหมอและพยาบาลดูแลเป็นอย่างดี”
ราเชนท์ บอกกับเธอเมื่อเข้ามาในลิฟต์ หญิงสาวพยักหน้ารับทราบและขอบคุณเขา อย่างน้อยการมาอยู่ที่นี่ของเชิดชัย ก็ทำให้เธอเบาใจในหลายอย่าง ที่จะต้องไม่ถูก ภูมินทร์ พระเอกของเรื่องกดดันให้ทำในสิ่งที่เธอไม่อยากจะทำ เพราะตามเนื้อเรื่องนั้นเขาใช้จุดนี้ต่อรองกับคนของเขาที่เข้ามาเป็นสปายในRN
แต่ความจริงมันไม่ง่ายอย่างงั้น ราเชนท์ ไม่ใช่คนโง่
“หนูขอพักผ่อนก่อนนะคะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้”
เธอบอกเมื่อลิฟต์มาถึงชั้น28 แล้ว ทว่าชายหนุ่มกลับเดินตามเธอออกมาทั้งที่ปกติเขาพักอยู่ชั้น29 “คุณราเชนท์มีอะไรจะคุยกับหนูอีกมั้ยคะ”
“เดินไหวมั้ย?”
“คะ?”
“ต้องให้อุ้มไปถึงห้องมั้ย?”
เขาเอ่ยถามน้ำเสียงนุ่มนวล
“แค่นี้เองค่ะ” ประชดเธอหรือยังไง จากลิฟต์ไปถึงห้องไม่ถึงห้าสิบเมตร ทำไมจะเดินไปไม่ได้
“ก็เห็นเธอขาสั่นตลอดตั้งแต่เดินจากคาเฟ่แล้ว เดี๋ยวล้มหัวฟาดฟื้นไปอีก”
“หนูโอเคค่ะ”
มะลิจำต้องหันมาบอกเสียงเข้ม ใช่นะซิ!! ก็เขาเล่นสูบพลังเธอจนแข้งขาอ่อนแทบจะไม่มีแรงเดินเสียขนาดนั้น แถมไม่ได้นั่งจิบกาแฟ กินเบอร์เกอร์รี่อร่อยชิลล์ๆอย่างที่ตั้งใจไว้ด้วย
ราเชนท์ หัวเราะในลำคอเล็กน้อย
“พรุ่งนี้จะให้คนเอามือถือเครื่องใหม่มาให้ เธอจะสามารถเข้าระบบRN และเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทางได้ทุกที่ที่เธอต้องการ”
คำบอกของเขา ทำให้ มะลิ ตาลุกวาว
“จริงเหรอคะ?”
“อืม”
“ว่าแต่ทำไมถึงยอมให้มิลลิเข้าเน็ตและใช้อุปกรณ์สื่อสารได้ละ” ก็ตอนแรกเขาเข้มงวดเธอยิ่งกว่าอะไร อุปกรณ์ในห้องก็มีแค่ไม่กี่อย่าง ตอนนี้กลับจะให้เธอใช้มือถือเชื่อมเน็ตได้อย่างอิสระ
“ยังไงเธอก็ต้องใช้เน็ตอยู่แล้ว อีกอย่างฉันมั่นใจว่าเธอไม่ทำอะไรโง่ๆเสี่ยงๆในเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย และแม้เธอจะพอจะทำได้ ก็ไม่ได้มีผลกระทบอะไรกับระบบมากมาย”
อ่านขาด....สมแล้วที่เป็น ตัวร้ายไซเปอร์ของเรื่อง
“ความจริงแล้วการที่เธอทำให้ระบบRN เป็นอัมพาตไปห้านาทีนั้น เป็นแค่จุดล่อที่ฉันโยงไว้เท่านั้น และฉันรู้ว่าจุดอ่อนของระบบของอยู่ตรงไหน ..มันเป็นแค่เหยื่อไว้ล่อหนูเท่านั้น!”
จุดล่องั้นเหรอ? ...
นี่มันอะไรกัน!! “หมายความว่าคุณรู้อยู่แล้ว”
ประมุขโชติวัฒน์ไม่ตอบคำถาม เขาเดินมาส่งเธอถึงห้อง ก่อนจะหันหลังเดินเพื่อจะเข้าลิฟต์ ทิ้งให้ มะลิ ยืนงุนงนสับสนอยู่คนเดียว แม้จะอ่านเรื่องในนิยายจนเกือบจะใกล้จะจบ แต่นิยายก็ไม่ได้เขียนบรรยายส่วนนี้ไว้ละเอียดมากนัก
อีกอย่างเธอเน้นอ่านแต่ตอนฉากเอ็นซีซะด้วยซิ!!
ถ้าอย่างนั้น ราเชนท์ ทำแบบนี้เพื่ออะไร?
.
.
“เมื่อวานน้องชาไปบูมบูมคาเฟ่มา สนุกมากเลยค่ะ”
รัชชา เอาขนมออกมาอวดทุกคนในชั้นเบอร์เกอร์รี่ วันนี้นอกจากจะมีป้าจิต และคนงานแม่บ้านมาหลายคนแล้ว ยังมี ฟางแก้ว ที่มาคอยดูแลระบบเช่นเดิม ทว่าวันนี้หล่อนทำสีหน้าเหนื่อยหน่ายและหาวหวอดๆอยู่ตลอดเวลา
“พี่ฟางเป็นอะไรเหรอคะ? นอนไม่พอเหรอ?”
เด็กสาวชะโงกหน้าถาม
“อืม เมื่อคืนพี่ไม่ได้นอนเลยคุณเชนท์กวนทั้งคืนเลย”
หล่อนเอ่ยเสียงแหลมเบาๆ คล้ายจงใจให้ ยัยเตี้ยนมโตที่นั่งง่วนอยู่กับการผสมสีแป้งได้ยิน และเหมือนจะได้ผลอีกฝ่ายชะงักมือเล็กน้อย แต่ไม่ได้เงยขึ้นมามอง นั่นทำให้มุมปากของฟางแก้วยกยิ้มออกมาเล็กน้อย
“สงสัยเมื่อคืนพี่เชนท์จะค้างคาจากที่ไหนมาไม่รู้ พี่เลยต้องอยู่เป็นเพื่อนที่ห้องทั้งคืนเลย แต่ดีเหมือนกันห้องใหญ่ชั้น29 กว้างขวางวิวดีมากๆ ถึงจะไม่ได้นอนก็ไม่เป็นไร”
มันใช่เรื่องที่ต้องมานั่งโพนทะนาบอกใครมั้ย!
“คนบางคน คงไม่เคยขึ้นไปชั้น29ซินะคงได้อยู่แต่ห้องรูหนู”
อีกฝ่ายยังคงกระแหนะกระแหนไม่หยุด นั่นทำให้ มะลิ หน้าชาวาบ แม้รู้ว่าหล่อนตั้งใจจะปั่นป่วนอารมณ์ของเธอ แต่คำพวกนี้และการกระทำที่ว่า ก็ทำให้เธออดคิดไม่ได้อยู่ดี เพราะเมื่อวานเธอเองก็เพิ่งจะมีอะไรกับเขาอย่างเร่าร้อนที่ร้านกาแฟ
บางที ราเชนท์ อาจเป็นคนที่มีความต้องการทางเพศอย่างมากมาย เพราะตามเนื้อเรื่องแล้วเขาเองก็มีเด็กเลี้ยงและสาวๆ ที่หิ้วมาที่ตึกโชติวัฒน์อยู่ไม่ขาด
ลืมไป ...เขาเป็นตัวร้ายนี่นา!!
ขนาดพระเอกยังนัวสาวฉ่ำขนาดนั้น ตัวร้ายจะเหลืออะไร
“นี่ยัยเตี้ย! อย่าคิดว่าได้นอนกับคุณเชนท์แค่ครั้งสองครั้งแล้วจะมาเบ่งกับคนอื่นๆนะ แบบเธอน่ะอย่างมากก็แค่นางบำเรอชั่วครั้งคราวเท่านั้นแหละ สาวๆสวยรอบตัวคุณเชนท์ยังอีกเยอะ”
หล่อนยังคงตามากระซิบข้างหู เมื่อเห็นว่า มะลิ เดินออกมาข้างนอกโซนออฟฟิศแล้ว คล้ายไม่อยากจะฟังเรื่องราวของหล่อนอีกต่อไป นั่นทำให้หญิงสาวหันกลับมามองตาเขียว
“สวยเหมือนผีกองกอยแบบเธอนะเหรอ?”
มะลิ แค่นเสียงสูงคล้ายเย้ยหยัน
“วะ..ว่าไงนะ ผีกองกอยอะไร!นี่แกว่าฉันเหรอ?”
“อืม ผอมๆแห้งๆหุ่นยังกับไม้เสียบผีแถมแต่งหน้าโป๊ะซะขาววอกคนละสีกับคำแบบนี้อีก ยังบอกตัวเองสวย แล้วรู้ได้ไงว่าอย่างเธอคุณเชนท์เขาชอบ”
“อีเตี้ยนมโต! แกว่าฉัน! กรี๊ด!”
หล่อนตะโกนเสียงแหลม และชี้หน้าอย่างฉุนเฉียว จนมะลิต้องหัวเราะร่วนออกมา
“ใช่นมโตอวบอิ่ม แบบนี้แหละที่คุณราเชนท์ชอบ ไม่ใช่ไม้กระดานแบบเธอ!”
“อีบ้า!”
ไม่รู้เสียงอะไรต่ออะไรตามหลังมา แต่มะลิ ไม่คิดจะสนใจ เธอเดินออกจากโซนชั้น26 เพื่อจะไปยังโซนพักผ่อนพนักงานด้านล่าง และจะแวะทักทายพ่อเสียหน่อย
“คุณเชนท์เชิญคุณมะลิชั้น9 ครับ”
คนของเขากดแจ้งเข้ามือถือ นั่นทำให้มะลิผ่อนลมหายใจออกมา ชั้น9และ10 เป็นชั้นทำงานของระบบRN ประเทศไทย และมีห้องทำงานส่วนตัวของราเชนท์อยู่ที่ชั้นนั้น
“ตอนนี้ฉันปวดหัว ฝากบอกคุณราเชนท์ว่าไม่อยากพบ”
เอ่ยเสร็จหญิงสาวก็ตัดสายทิ้งแทบจะทันที นั่นทำให้คนของโชติวัฒน์ งงเป็นไก่ตาแตกด้วยนี่เป็นผู้หญิงคนแรกที่กล้าปฎิเสธการเข้าพบเจ้านายใหญ่ของRN
แต่มะลิ สนใจที่ไหนละ เธอกำลังหงุดหงิดอย่างที่สุด
ยิ่งนึกถึงคำพูดของยายผีกองกอยฟางแก้วแล้ว เธอก็ยิ่งไม่อยากจะเจอเขาเลยแม้แต่นิด
อยากจะโกรธ จะว่าอะไรก็ตามสบาย
ปกติตอนทำงานบริษัท เธอก็ปะทะกับเจ้านายอยู่ประจำ
ยิ่งอารมณ์ไม่ได้แบบนี้ ...แม้แต่หน้าเขาเธอก็ไม่อยากเห็น